ที่มา ไทยรัฐ
ชัยสิทธิ์ ชินวัตร
"ชัยสิทธิ์" ชี้ฎีกาเป็นเสียงประชาชนอย่าขวาง–ให้เป็นพระราชวินิจฉัยอย่าผูกขาดเชื่อคนกว่า 5 ล้าน ไม่มีใครหลอกได้ "สมชาย" ปูดข่าว ปฏิวัติเงียบ วางตัว "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" นั่งนายกฯ แม้ติดโทษ เว้นวรรค ...
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ญาติผู้พี่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ สัมภาษณ์ผ่านรายการ "ลับ ลวง พราง" ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 วันนี้ (1 ส.ค.) กรณี กลุ่มเสื้อแดง ระบุว่า มีประชาชนกว่า 5 ล้านรายชื่อลงชื่อเพื่อยื่นถวายฎีกาขออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณว่าเป็นเสียงของประชาชน ไม่น่าจะไปขัดข้อง เพราะเสียงตั้ง 5 ล้านกว่าเสียงแสดงให้เห็นว่า ประชาชนคงเหลืออด เพราะพึ่งรัฐบาลไม่ได้จึงอยากพึ่งคนนอกที่เคยทำให้เขาสุขสบายมาก่อน ตนเคยพูดหลายครั้งว่า เป็นโอกาสทองของคุณ แต่คุณกลับไม่ทำ และมองข้ามหัวคนจนหมด มองแต่โปรเจกต์ใหญ่ๆเท่าที่สัมผัสตามชนบทคนจนเดือดร้อนมาก น้ำมันก็แพงขึ้น ไม่รู้ว่าแพงขึ้นตามจริงหรือไม่ แม้คนปลดเกษียณอย่างตนยังเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายต่อต้านการยื่นถวายฎีกา พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า ประชาชนเดือดร้อนไปต้านเขาทำไม ถือเป็นการปิดกั้นไม่ให้พระมหากษัตริย์กับราษฎรเป็นหนึ่งเดียว เพราะราษฎรมีพระองค์ท่านเป็นดวงใจ หากไปขัดเท่ากับว่าเป็นการขัดขวางความสัมพันธ์ตรงนี้ลงไป ราษฎรรักและขอร้อง พระองค์ท่านจะให้หรือไม่ให้ แล้วแต่พระราชวินิจฉัยของพระองค์ท่าน ตรงนี้ถือว่าเป็นดวงใจกับดวงใจถึงกัน อย่าไปแยกให้กษัตริย์กับประชาชนห่างออกไปไม่ได้ การที่ประชาชนทำอย่างนี้ แสดงว่ารัฐบาลทำอะไรที่ไม่ได้ผลดีต่อทั้งสองฝ่าย เมื่อถามว่า ประชาชนที่ไปลงชื่อโดนหลอกหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า จะไปโดนหลอกได้อย่างไร และจะไปหลอกใครตั้ง 5 ล้านกว่าคน เป็นไปไม่ได้
"การถวายฎีกา คุณอย่าไปผูกขาดความจงรักภักดีเพราะประชาชนกับพระมหากษัตริย์เป็นหนึ่งเดียว และกษัตริย์ถือเป็นดวงใจของประชาชน เมื่อเขาไม่มีที่พึ่ง ก็ต้องพึ่งที่สุดท้ายของเขา ต้องเห็นใจประชาชนด้วย" พล.อ. ชัยสิทธิ์กล่าวและว่า กรณี นายกรัฐมนตรีมองว่า ผู้ลงรายชื่อถวายฎีกามีเพียงประชาชน ไม่มีคนในตระกูลชินวัตร เพราะเป็นจุดมุ่งหมายประชาชนได้รับความเดือดร้อน อยากได้คนดีกลับมา ตระกูลชินวัตรถือเป็นตระกูลหนึ่งที่ไม่ได้ เดือดร้อนเท่าใด แต่ส่วนใหญ่ร้อนใจ หากตนไปเซ็น เขาจะมองไปอีกรูปหนึ่งคือเป็นพวกเดียวกัน แต่พอไม่ทำก็ว่า เราจึงเป็นเรื่องแปลก สงสัยไม่มีอะไรเล่น
เมื่อถามว่า ตระกูลชินวัตรตอนนี้ก็แย่ แล้วมองตระกูลวงษ์สุวรรณ ขณะนี้อย่างไร พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า คงอยู่ในอีหรอบเดียวกัน อยู่ที่ใครจะเจอวิบากกรรม แต่เขามีเสียงหน่อยก็ออกมาโวยวายได้ แต่ตระกูลชินวัตร โวยวายไม่ได้ เพราะโดนยัดเยียดข้อหาหมด โดยเฉพาะความจงรักภักดี ตนแปลกใจว่า คนที่จงรักภักดีคือคนที่กล่าวหาว่าคนอื่นไม่จงรักภักดีใช่หรือไม่ ตนจะได้ทำบ้าง ความจงรักภักดี ศรัทธา ตนเชื่อว่ามั่นคง ที่ไปกล่าวหาว่าเขาดึงลงมา แต่ตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนดึงลงมา ทำให้เสื่อมลง
เมื่อถามอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาเป็นผู้นำประเทศหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า เขาพูดเป็นนัยๆว่า ไม่ได้กลับมาเป็นผู้นำและการเมือง ไม่อยากยุ่ง แต่กลับมาช่วยเหลือประเทศไทย และคนไทยที่ถูกมองข้ามหัวเพราะเขามีประสบการณ์ มีสมองดี มีปัญญาแก้ไขปัญหา ประชาชนจึงศรัทธาเชื่อถือ พ.ต.ท.ทักษิณจะช่วยชาวบ้านได้ จะมาเป็นผู้นำก็ได้ ไม่เป็นผู้นำก็ได้ เป็นที่ปรึกษาก็ได้ อย่าไปอิจฉา พ.ต.ท.ทักษิณเขาฉลาดและเก่งขนาดนั้น เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี เงาหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า อยากจะเป็นนอมินีก็ว่าไปและยิ่งเป็นตัวจริงได้ก็ยิ่งดี เมื่อถามว่า ถ้าคดียังอยู่ พ.ต.ท. ทักษิณจะไม่กลับมาใช่หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า ใครจะกลับมาเพราะกลับมาแล้วติดคุก
เมื่อถามว่า หากไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล สังคมจะเป็นสุข พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า ต้องดูว่าประชาชนเดือดร้อนอยู่จะสงบได้อย่างไร ตราบใดที่ยังเอานิยายเก่าๆ มาเล่าให้ฟังอย่างเดียว ทำไมเป็นรัฐบาลแล้วปกครองประเทศก็ยังเหมือนเดิม คือมองข้ามหัวประชาชนผู้ยากไร้ รัฐบาลต้องดูแลให้เรียบร้อย ไม่เข้าใจรัฐบาลคิดอะไรอยู่ เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะสู้จนกลับมาประเทศได้หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า ประชาชนเขาเรียกร้องให้กลับมา แต่หากอยากให้เขามากอบกู้ก็ดำเนินตามเขา เมื่อถามว่า จะมีการใช้กำลังหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่าเป็นไปตามสถานการณ์ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งไม่ยอมกันแล้วก็คงต้องมี เราไม่อยากให้เกิด เมื่อถามว่าอีกนานหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ตอบว่า วิเคราะห์แล้วน่าจะประมาณเดือน ต.ค.นี้
ด้าน พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศตั้งโต๊ะล่ารายชื่อคัดค้านการถวายฎีกา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท. ทักษิณ นั้น เรื่องนี้ได้พูดคุยกับ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ต่างได้รับร้องเรียนจากกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ว่า โต๊ะล่ารายชื่อที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งขึ้นไม่มีประชาชนมาลงชื่อคัดค้าน จึงกำชับไปยังนายอำเภอ เพื่อสั่งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เกณฑ์ประชาชนมาหมู่บ้านละ 30-50 คน เพื่อลงชื่อ การกระทำแบบนี้ยิ่งจะทำให้เกิดความแตกแยกหนักในสังคม ไม่ควรไปบังคับให้ประชาชนมาลงชื่อ
พ.ต.ท. สมชายกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทราบว่ามีความเคลื่อนไหวในกองทัพที่จะปฏิวัติเงียบโดยไม่ต้องใช้กำลัง โดยจะเรียกฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ มานั่ง แถลงชี้แจงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่าวันนี้บ้านเมืองเดินต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องตั้งรัฐบาลขึ้นมาใหม่ และเป็นรัฐบาลที่กองทัพคุมได้เบ็ดเสร็จ ชี้นิ้วสั่งได้เหมือนรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงได้มีการวางตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลทักษิณเอาไว้ แม้ติดโทษต้องเว้นวรรคทางการเมืองเนื่องจากเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย แต่การปฏิวัติเงียบมีอำนาจทำได้ทันทีที่ต้องการให้นายสมคิดเป็นนายกรัฐมนตรีเรื่องนี้น่าเป็นห่วงมาก จะทำให้บ้านเมืองถอยหลังล่มสลาย เรื่องนี้เคลื่อนไหวกันจริง ข่าวที่ได้มาไม่พลาดแน่ ปิดกันไม่ได้หรอก เพราะมีการหารือ ชี้แจง เรียกคนนั้นคนนี้มา เพื่อดำเนินการเรื่องนี้เป็นระยะ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า รายชื่อประชาชนที่ร่วมถวายฎีกากับคนเสื้อแดง 5.4 ล้านคน มากเกินกว่าที่ประเมินไว้ ใช้เวลา 7 วัน ตรวจสอบความถูกต้องไม่ทันก็อาจจะต้องเลื่อนออกไป เป็นหลังวันที่ 12 ส.ค.