ที่มา ไทยรัฐ
หางเลข "บิ๊กเซอร์ไพรส์" เล่นเอาเหนื่อยไปตามๆกัน ไม่เว้นพระสงฆ์องคเจ้า
จากคิวของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน โดนระบุว่า ทำพิธีร่วมกับม็อบพันธมิตรฯคว่ำบาตรรัฐบาลอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร จนต้องทำพิธีหงายบาตร แก้เคล็ดตัดกรรม มาถึงคิวของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ โดนลูกศิษย์อุ้มออกจากวัดกลางดึก นัยว่าหลบงานทำบุญแซยิด "นายใหญ่"
ฉกชิงวิ่งราวพระ แย่งกระแสทางการเมือง
เรื่องของเรื่องเลย เจ้าของปริศนา "บิ๊กเซอร์ไพรส์" เขาก็เฉลยกันในทีไปแล้ว อดีตนายกฯทักษิณ ต่อสายข้ามประเทศจากเมืองดูไบ พูดคุยกับคนใกล้ชิด
กระซิบให้ได้ยินโดยทั่วถึงกัน
ฝากขอโทษรัฐบาล โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่งานวันเกิดครบรอบ 60 ปีของตนเอง ไปแย่งความสนใจของสาธารณชน จากภารกิจต่างๆของรัฐบาลช่วงนี้
นี่แหละ คำตอบสุดท้ายของโคตรเซียนการตลาดที่กลับมาเปิดเกมชิงกระแสเต็มรูปแบบ
เอาเป็นว่า "ทักษิณ" เขี่ยไฟรออยู่ด้านนอกแล้ว
และก็เป็นอะไรที่ได้จังหวะผสมโรง โหมพร้อม "ไฟใน" กับเกมวัดใจคนกันเอง นายกฯอภิสิทธิ์โยนเผือกร้อนให้ "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ผู้จัดการใหญ่รัฐบาล เป็นคนเคลียร์ "ตอ" คดีลอบสังหาร "เดอะลิ้ม" นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำใหญ่ม็อบพันธมิตรฯ
พลิกเหลี่ยมเกม ลับ ลวง พราง ล่อกันเอง
ตามหมากที่วางไว้ "กิน 3 ต่อเข้าฮอร์ส" นายกฯอภิสิทธิ์ เล่นบทลอยตัวตามถนัด โยนให้ "เทพเทือก" เป็นหนังหน้าไฟ รับแรงปะทะจากฝ่ายม็อบพันธมิตรฯ
อีกทางหนึ่งก็ได้หยั่งเชิงคนเคยสนิทใจอย่าง "เทพเทือก" ที่ไปเกาะอยู่กับสีเขียว สีน้ำเงิน เครือข่ายอำนาจ "3 ป" จะกล้าแตะ "บิ๊กป๊อด" พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. น้องชาย "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พี่ใหญ่เครือข่าย "3 ป" หรือไม่
ได้จังหวะหักหอกข้างแคร่ทีเดียวเลย
แต่การณ์กลับเป็นเช่นนั้นไม่ นอกจากไม่รับมุกวัดใจแล้ว "เทพเทือก" ยังขัดใจ สวนหมัดซึ่งๆหน้า ด้วยการแอ่นอกเป็นประกัน ไม่มีเหตุต้องปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจาก ผบ.ตร. รับมุกฝ่ายม็อบพันธมิตรฯ
โชว์ให้เห็นไปเลยว่า ใครใหญ่กันแน่
และก็เป็นอะไรที่เข้าทาง "เกมตอกลิ่ม" นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทย-รักไทย ได้ทีสอนมวยนายกฯอภิสิทธิ์ ต้องกล้าที่จะรักษาหลักการ และกล้ายืนยันว่าการดำเนินคดีต่างๆ จะเกิดความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย
คดีลอบยิงนายสนธินั้น คิดว่านายกฯคงหนักใจอยู่มาก เพราะว่าคนในรัฐบาลพูดอะไรแล้วทำให้การสืบสวนสอบสวนทำยาก อีกทั้ง พล.อ.ประวิตรก็บอกว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกองทัพ แต่หากตำรวจสอบว่ากองทัพเกี่ยวขึ้นมาจะทำอย่างไร จริงๆเลยนายกฯยังไม่ได้เจอตอในคดี แต่กลับเจอตอในรัฐบาลตัวเอง
นายกฯสะดุดไปหมด ทำให้ภาวะผู้นำเกิดขึ้นได้ยาก
จุกคอหอย เถียงไม่ออกก็แล้วกัน
แต่ที่จุกเสียดยิ่งกว่านั้น โดยการพัวพันนัวเนียๆ ต่อเนื่องกับคดีลอบสังหาร "เดอะลิ้ม" ที่มีการพาดโยงไปถึงคนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม เดินหน้าไล่บี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ให้เคลียร์ปมร้อนที่มีชื่อคนในสังกัดของกรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าไปเอี่ยวเป็นผู้ต้องหาในทีมลอบสังหาร
นัยว่า เชื่อมกระแส ต่อจิ๊กซอว์ "ไอ้โม่ง" โยงให้ถึงเครือข่าย "นายใหญ่"
กะซัลโวลูกตามน้ำทีเดียวไปเลย
คิวนี้เลยเจอเกมสวนเร็ว กับปมความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนสำนวนที่ดีเอสไอส่งให้ ตรวจสอบการรับเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 258 ล้านบาท จากบริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่านบริษัทเมซไซอะฯ ไปใช้ในการเลือกตั้งปี 2548 รวมทั้งการนำเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนในปี 2548 จำนวน 29 ล้านบาท ไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ จะครบกำหนดสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
ก่อนที่ กกต.ชุดใหญ่จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญลงดาบต่อไป
ล่าสุด นายประจวบ สังข์ขาว อดีตผู้บริหาร บริษัทเมซไซอะฯ ที่ตามข่าวได้เปลี่ยนชื่อเป็น "คณาปติ" และต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในความดูแลของนายทหารนอกราชการคนหนึ่งตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัย
ได้เข้าให้การกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง และดีเอสไอได้สรุปการให้ปากคำของนายประจวบ ส่งมอบให้ กกต.แล้วเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา
เรื่องเลยกลายเป็นว่า ประชาธิปัตย์จะเคลียร์ตอแต่ดันเจอทุ่นระเบิด.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
