WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, August 29, 2009

ผีซ้ำด้ำพลอย(น้ำลดตอผุด?)ที่ สตง.

ที่มา มติชน

คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12

โดย ประสงค์ วิสุทธิ์ prasong_lert@yahoo.com



การที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในการแต่งตั้งนายอภิชัย ล้อไพบูลย์ทรัพย์ จากผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจเงินแผ่นดิน 2 ระดับ 9 ตั้งแต่มีนาคม 2549 อาจมองได้ว่า มีลักษณะคล้ายผีซ้ำด้ำพลอย

เพราะที่ผ่านมาได้เกิดเรื่องอื้อฉาวใน สตง.อย่างต่อเนื่อง มีการร้องเรียนกล่าวหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงใน สตง.จำนวนมากจนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่งตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนโดยเฉพาะกรณีการกล่าวหาว่า อมตั๋วเครื่องบินของการบินไทยไปให้ลูกสาวและน้องสาว

หนึ่งในจำนวนเรื่องที่ร้องเรียนนั้น มีกล่าวหาว่า มีการเล่นพรรคเล่นพวกในการแต่งตั้งโยกย้าย และยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง 4 คดี ซึ่งศาลได้พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของคุณหญิงจารวรรณมาแล้ว 2 คดี คือ

1.เพิกถอนคำสั่งแต่งตั้ง น.ส.สุมิตรา เนตรสว่าง จากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายใน 8 กลุ่มงานตรวจสอบภายใน สตง. (ส่วนกลาง) ไปเป็นนักวิชาการตรวจเงินแผ่นดิน 8 กลุ่มตรวจสอบการเงินที่ 2 สตง.ภูมิภาคที่ 1 ตั้งแต่มีนาคม 2549 (หมายเลขแดงที่ 88/2552)

2.เพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งนายอภิชัย ล้อไพบูลย์ทรัพย์ (หมายเลขแดงที่ 1357/2552)

ทั้งสองคดีเป็นการใช้ดุลพินิจไม่ชอบ คือไม่ทำตามมติคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งตามโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายในใหม่ซึ่งพิจารณาเสนอแต่งตั้งบุคคลทั้งสองตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ได้กำหนดไว้ แต่คุณหญิงจารุวรรณอ้างว่า บุคคลทั้งสองคุณสมบัติไม่เหมาะสม

ผลคดีถึงที่สุดจะเป็นอย่างไรกรณีมีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ที่น่าสนใจคือ ข้อเท็จจริงที่ศาลปกครองกลางได้จากการไต่สวนและสรุปไว้ในคำพิพากษาที่คุณหญิงจารุวรรณอ้างเป็นเหตุไม่ยอมแต่งตั้งนายอภิชัยเป็นผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย ดังนี้

1.นายอภิชัยไม่เคยดำรงตำแหน่งนิติกรมาก่อน ซึ่งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักกฎหมายตามโครงสร้างใหม่ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายโดยตรงเนื่องจากต้องรับผิดชอบงานบริหารราชการทุกด้านของสำนัก ควบคุม ตรวจสอบ กำกับ ดูแล ให้คำปรึกษา ตีความและวินิจฉัยข้อกฎหมาย ฯลฯ

2.นายอภิชัยไม่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูงของสำนักงาน ก.พ.หรือหลักสูตรที่สำนักงาน ก.พ.รับรอง ก่อนเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย (ตามโครงสร้างเดิมเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2547) ตามมาตรฐานการกำหนดตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม ในคำพิพากษาสรุปว่า นายอภิชัยสำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2531 และปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต่างๆ จนเป็นผู้อำนวยการสำนักงานกฎหมาย (นักบริหาร 9) ตามโครงสร้างเดิมซึ่งมีหน้าที่ตรวจพิจารณาวิเคราะห์กฎหมายและดำเนินการเกี่ยวกับคดีตลอดจนพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการให้เหมาะสม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวถึงวันที่ 9 มีนาคม 2549

ส่วนนายชูวิทย์ นุชถาวร ซึ่งคุณหญิงจารุวรรณแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสำนักกฎหมายแทนนายอภิชัย (ทั้งที่คณะกรรมการไม่ได้เสนอ) สำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อ พ.ศ.2548

ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบประสบการณ์เกี่ยวกับงานด้านกฎหมายของนายอภิชัยและนายชูวิทย์แล้ว จะเห็นได้ว่า ผู้ฟ้องคดี (นายอภิชัย) มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานด้านกฎหมายโดยตรงมากกว่าผู้ร้องสอด (นายชูวิทย์)

ส่วนข้ออ้างว่า นายอภิชัยขาดคุณสมบัติ เนื่องจากไม่ได้เข้ารับการอบรมนักบริหารระดับสูงนั้น การแต่งตั้งบุคคลให้เป็นผู้อำนายการสำนักงานกฎหมายตามโครงสร้างใหม่ไม่ได้กำหนดให้ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งต้องผ่านการอบรมนักบริหารระดับสูงมาแล้วแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบประวัติของนายชูวิทย์แล้วปรากฏว่าไม่ได้ผ่านการอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูงมาก่อนเช่นเดียวกับนายอภิชัย

ข้อเท็จจริงยังปรากฏว่า นายอภิชัยและนายชูวิทย์ได้รับการแต่งตั้งให้ระดับ 9 พร้อมกันเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2547 ประกอบกับในขณะนายอภิชัยเป็นผู้อำนวยการสำนักงานกฎหมาย ตามโครงสร้างเดิม ก็ได้รับการพิจารณาให้เลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ 1 ขั้น เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2548 แสดงให้เห็นว่า มีผลการปฏิบัติงานจากการประเมินในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกฎหมายในระดับดีเด่น

ข้ออ้างของคุณหญิงจารุวรรณที่เห็นว่า นายชูวิทย์มีความรู้ ความสามารถ และความอาวุโส ที่เหมาะสมมากกว่าจึงมีน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะรับฟังได้

ดูข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาแล้ว ทำให้ลังเลว่า ผีซ้ำด้ำพลอยหรือน้ำลดตอผุดกันแน่