ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
เฉพาะอย่างยิ่งการกระโดดลงไปคลุกกับการเลือกผบ.ตร.คนใหม่
จนต้องถอยกรูด สะท้อนถึงภาวะผู้นำอย่างยิ่ง
ตั้งแต่ขึ้นเป็นผู้นำประเทศมาจนถึงวันนี้ผ่านไปกว่าครึ่งปี ในระยะหลังนายอภิสิทธิ์ คล้ายกับจะพูดจะทำ เหมือนไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองอย่างรอบคอบและรอบด้านเท่าที่ควร
ไม่อยากวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะอายุยังน้อย หรือยังด้อยประสบการณ์ หรือมี "ปม" ปัญหาอย่างอื่น
แต่สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ ชวนให้คิดแบบนั้นจริงๆ
อีกส่วนหนึ่งคือ คล้ายกับรับฟังข้อมูลเพียงด้านเดียว และรับฟังในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ หรือตั้งธงไว้ในใจแล้ว
หากมีคนมาพูดในอีกมุม ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตัวเองไม่อยากรับรู้ ก็จะมองว่ามีเจตนาแอบแฝง หรือตั้งกำแพงไม่เชื่อไว้ก่อน
แต่ถ้ามีใครมาพูดในสิ่งที่ตัวเองอยากฟังก็พร้อมจะเชื่อทันที
โดยเฉพาะกับบุคคลบางคนที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อดิ้นให้หลุดจาก"คดี"ที่พลาดพลั้งทำเอาไว้ในช่วงก่อนหน้านี้
ช่วงเวลานี้นายอภิสิทธิ์ ยังเสมือนเอกบุรุษของเจ้ามนต์ดำ เพราะยังเชื่อถือและยอมทำตามที่ร้องขอ
ดูไปแล้วก็ไม่ต่างจากสมัยก่อนที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ก็เคยได้รับเกียรตินี้ เพราะให้ทุกอย่างที่ต้องการ
ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวี งบโฆษณาจากหน่วยราชการ หรือทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเมื่อมีการลดหนี้สินให้มหาศาล ชนิดที่ลูกหนี้รายอื่นมองตาปริบๆ
แต่เมื่อวันหนึ่งที่ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ในเรื่องการแต่งตั้งบุคคลที่ตนเองต้องการ หรือเริ่มขอมากขึ้น
เอกบุรุษที่ชื่อทักษิณ ก็กลายเป็นจอมโฉดโกงบ้านกินเมืองในชั่วข้ามคืน
ข้อพิพาทที่เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณต้องเผชิญชะตากรรมเร่ร่อน เพิ่งผ่านไปไม่กี่มากน้อย ไม่น่าเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ จะมองไม่ออกว่าจุดสุดท้ายของตัวเองจะเป็นอย่างไร
ทางหนึ่งต้องยอมเป็น "โดเรมาร์ค" ที่มีกระเป๋าวิเศษให้ล้วงควักสิ่งที่ตัวเองต้องการไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นเอกบุรุษในสายตาของผู้ที่หวังผลประโยชน์
กับอีกทาง กลายเป็นผู้ร้ายรายใหม่ของเมืองไทย ต่อจากพ.ต.ท.ทักษิณ ในวันหนึ่งวันใดที่"โดเรมาร์ค"ไม่ยอมให้ใครมาล้วงของวิเศษในกระเป๋าออกมาอีก
ประวัติศาสตร์ที่ผิดพลาดเขามีไว้ให้เรียนรู้ ไม่ใช่ให้ทำซ้ำรอย!??