ที่มา ประชาไท
เผยมติเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกและเครือข่ายพลเมืองปกป้องแผ่นดินเกิด นัดรวมพลครั้งใหญ่ 13 ธ.ค.นี้ จี้รัฐบาล-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประกาศใช้ผังเมืองรวมจังหวัด ชี้ช่วยแก้น้ำท่วม-ป้องอุตสาหกรรมรุกที่เกษตร
วันนี้ (11 ธ.ค.54) นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมเพื่อขับเคลื่อนงานผังเมืองหลักภาคกลางและภาคตะวัน ออก ภายใต้ชุดโครงการพัฒนาการมีส่วนร่วมนโยบายสาธารณะด้านสิทธิที่เชื่อมโยงกับ สุขภาวะ มูลนิธิสาธารณะสุขแห่งชาติ สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ระหว่างวันที่ 10 - 11 ธ.ค.2554 ว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปตรงกันว่า ปัญหาสำคัญอันหนึ่งของภาคประชาชนในปัจจุบัน คือการพัฒนาพื้นที่อย่างไร้ทิศทาง อันเนื่องมาจากยังไม่มีการบังคับใช้ผังเมืองรวมจังหวัด
ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ให้ข้อมูลว่า ผังเมืองรวมจังหวัด หรือผังเมืองในระดับจังหวัดนี้ มีการจัดทำตั้งแต่ปี 2547 และร่างส่วนใหญ่แล้วเสร็จตั้งแต่เมื่อปี 2549 แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ยังไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทำให้เกิดเป็นช่องว่างในทางปฏิบัติ
“ระหว่างที่มีช่องว่างทางกฎหมายนี้ ภาคอุตสาหกรรมก็ถือโอกาสขยายเข้าไปในพื้นที่เกษตรกรรมอย่างกว้างขวางทั่ว ประเทศ โดยเฉพาะ ระยอง ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ประจวบคีรีขันธ์ และนครศรีธรรมราช ก่อผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่มากขึ้นตามลำดับ” นายสุทธิ กล่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
นายสุทธิ กล่าวด้วยว่า การรุกคืบของภาคอุตสาหกรรมเข้าไปในพื้นที่เกษตรเป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผล กระทบต่อชุมชนอย่างมหาศาลในหลากหลายมิติ และกำลังลุกลามขยายพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยไร้การควบคุมดูแล และในกรณีมหาอุทกภัยของประเทศครั้งล่าสุดที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็น ระบบและมีประสิทธิภาพ ส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากการพัฒนาโดยไร้ทิศทางทำให้มีการใช้พื้นที่ผิดประเภท ทั้งนี้ การออกแบบผังเมืองที่เหมาะสมและบังคับใช้อย่างจริงจังจะสามารถปลดล็อควิกฤต เหล่านี้ได้
เพื่อเร่งรัดให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม นายสุทธิเปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 13 ธ.ค.นี้ เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกและเครือข่ายพลเมืองปกป้องแผ่นดินเกิดได้นัดรวม ตัวครั้งใหญ่เพื่อยื่นหนังสือแก่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นจะเดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานคณะกรรมการผังเมือง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“มติของเครือข่ายฯ คือเรียกร้องให้รัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.ยุติความพยายามดำเนินการร่างผังประเทศที่ปราศจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่เป็นอยู่ 2.ดำเนินการเร่งรัดประกาศใช้ผังเมืองรวมจังหวัดให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน หากไม่มีความคืบหน้าในระยะเวลาดังกล่าว เครือข่ายฯ พร้อมที่จะดำเนินมาตรการเคลื่อนไหวในวงกว้างทุกพื้นที่ต่อไป” นายสุทธิประกาศ
ด้านนายชาญ รูปสม ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองปกป้องถิ่นเกิด ภาคกลาง-ตะวันออก กล่าวว่า ผังเมืองรวมจังหวัดที่เหมาะสม คือผังเมืองรวมจังหวัดที่มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมคิดร่วมตัดสินใจในการกำหนดวิถีชีวิตของตนเอง รวมทั้งการพัฒนาในพื้นที่ว่าจะดำเนินไปในทิศทางใด แต่การจัดทำผังเมืองที่ผ่านมาในอดีตทำอย่างขอไปที่ ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมน้อยมาก ดังนั้นการพัฒนาพื้นที่จึงถูกปล่อยให้ไปอยู่ในมือของรัฐและทุนที่มาจากภาย นอกเป็นคนกำหนด
“คำว่าโชติช่วงชัชวาลของมาบตาพุด เป็นสิ่งที่คนมาบตาพุดต้องการจริงๆ หรือเปล่า หรือเป็นการใช้การโฆษณาไปสร้างความยอมรับจากคนในพื้นที่” นายชาญตั้งคำถามยกตัวอย่างถึงแนวทางการพัฒนาสู่เมืองอุตสาหกรรมของมาตาพุด