ที่มา thaifreenews
โดย ลูกชาวนาไทย
อันที่จริงผมไม่อยากขัดคอรัฐบาล เรื่องการหาเงินมาเพื่อลงทุนป้องกันน้ำท่วมมากนัก เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น
แต่ก็ขอติงนโยบายการขายหุ้นของ ปตท. กับ การบินไทย ให้ต่ำกว่าร้อยละ 49 เพื่อไม่ให้รัฐวิสาหกิจสองแห่งนี้
เป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป เพราะหากรัฐถือหุ้นต่ำกว่า 49% ตามกฎหมายรัฐวิสาหกิจ บริษัทมหาชนทั้งสองบริษัทนี้
ก็ ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป ซึ่งมีผลให้ เงินกู้ของทั้ง ปตท. และการบินไทย กระทรวงการคลังต้องค้ำประกันอีกต่อไป ซึ่งสองบริษัทนี้มีเงินกู้รวมกันน่าจะเป็นแสนล้าน ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันอยู่ เมื่อปลดภาระหนี้ตรงนี้ได้ หนี้ภาครัฐก็ลดลง เพดานที่จะกู้มาเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ก็สามารถเพิ่มได้อีก
ผมไม่มีปัญหากับการบินไทย เพราะการบินไทยอยู่ในตลาดแข่งขัน จะเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่เป็น ไม่มีปัญหาอะไร
มากนัก
แต่ ปตท.นั้นตรงกันข้ามนะครับ
เพราะ ปตท.นั้น ผูกขาดก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติของสังคมไทยอยู่
การ ให้ เอกชนผูกขาดกิจการทรัพยากรธรรมชาติ นั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เพราะกำไรจากการผูกขาดที่ควรเป็นของสังคม ก็จะตกเป็นของเอกชนไป ซึ่งทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมขึ้น
ผลก็คือ ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเชื่อเพลิงผลิตไฟฟ้าของไทย ที่จะส่งผลถึงค่าไฟฟ้า ก็อาจจะแพงขึ้น เพราะบริษัทที่ผูกขาดย่อมมีอำนาจในการกำหนดราคาได้อยู่แล้ว หรือไม่อย่างนั้นก็โยกกำไรส่วนหนึ่งไปอีกส่วนหนึ่ง
หากจะขาย ปตท. ให้เป็นเอกชน ก็ต้องแก้ไขปัญหาการผูกขาดในส่วนนี้ก่อน เช่น ตัดโอนธุรกิจก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ไปให้ ปตท.สผ. แล้วซื้อหุ้นของ ปตท.สพ. ให้เป็นรัฐวิสาหกิจ ส่วน ปตท. ก็ขายหุ้นทิ้งไปเป็นเอกชน (แต่ ปตท.จะยอมหรือไม่ ? เพราะเท่ากับตัดชิ้นปลามันไปเลยทีเดียว)
สรุปคือ รัฐบาลนายกฯปูคงต้องทบทวน แนวทางขายหุ้น ปตท.ให้เหลือต่ำกว่า 50% นะครับ