WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, July 23, 2012

หนึ่งปี 'Utøya' และคุณค่าที่สังคมประชาธิปไตยยึดถือ

ที่มา ประชาไท

 

ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2011, สี่วันหลังจากเหตุการณ์วางระเบิดตึกทำการของรัฐบาลและการสังหารหมู่เยาวชนพรรคแรงงานนอร์เวย์ [1] บนเกาะ Utøya ซึ่งมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 77 คน (8 คนจากเหตุการณ์วางระเบิดและ 69 คนจากเหตุการณ์ Utøya) บาดเจ็บ 242 คน ข้าพเจ้าบังเอิญมีโอกาสไปร่วมงานเทศกาลเยาวชนสังคมนิยมนานา ชาติ (International Union of Socialist Youth World Festival) ที่ประเทศออสเตรีย บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เพราะเยาวชนจากพรรคแรงงานนอร์เวย์ 69 คน [2] นั้นควรจะได้ไปยืนอยู่หน้าเวทีในวันเปิดเทศกาล ควรจะได้ไปแลกเปลี่ยนความคิด, บอกเล่าความหวัง, เฉลิมฉลองความสมานฉันท์สากล กลับกลายเป็นว่า เยาวชนอีก 2,500 คนจากทั่วโลกต้องมายืนจุดเทียนรำลึกถึงความเยาว์วัยและความฝันทั้งหมดที่ถูก พรากไป เพียงเพราะการไม่สามารถอดทนอดกลั้นต่อความเห็นที่แตกต่างของผู้ชายคนหนึ่ง
ผู้ต้องหา  Anders Behring Breivik ถูกจับได้ทันทีบนเกาะ Utøya ซึ่งเป็นสถานที่ที่พรรคแรงงานนอร์เวย์จัดค่ายเยาวชนเป็นประจำทุกฤดูร้อน [3]
ในการพิจารณาคดีวันแรกวันที่ 16 เมษายน 2012 เมื่ออัยการอ่านข้อหาก่อการร้ายและฆาตกรรมโดยไตร่ตรองล่วงหน้าให้ฟัง เบรวิคยอมรับว่าเป็นคนลงมือวางระเบิดและกราดยิงเยาวชนพรรคแรงงานโดยไม่มีใคร หรือกลุ่มใดอยู่เบื้องหลังแต่เบรวิคไม่ยอมรับผิดโดยอ้างว่าการกระทำของตนเอง เป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันไม่ให้นอร์เวย์กลายเป็นสังคม ‘พหุวัฒนธรรม’ จากการหลั่งไหลเข้ามาของผู้อพยพจากยุโรปตะวันออกและชาวมุสลิม
เป้าหมายของเบรวิคไม่ใช่กลุ่มผู้อพยพและชาวมุสลิม แต่เป็นกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนสังคมพหุวัฒนธรรมและยอมรับความแตกต่างหลาก หลายในสังคมอย่างพรรคแรงงานนอร์เวย์หรือ Arbeiderpartiet ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล เป้าหมายแรกของเบรวิค คือวางระเบิดอาคารที่ทำการรัฐบาลด้วยคาร์บอมบ์ เป้าหมายที่สอง คือกำจัดเยาวชนของพรรคแรงงานที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำในอนาคตให้มากที่สุดเท่า ที่จะมากได้ ในการสืบพยานชั้นศาล เบรวิคได้รับโอกาสให้เบิกความถึงห้าวัน เบรวิคยืนยันว่า เยาวชนจากพรรคแรงงานเป็นเป้าหมายที่ชอบธรรม เนื่องจาก “เยาวชนเหล่านี้ไม่ได้เป็นเด็กไร้เดียงสาแต่สังกัดพรรคการเมืองที่เชื่อและ ส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม” และถ้ามีโอกาส “จะทำเช่นนี้อีกครั้งและอีกครั้ง”[4]
สิ่งที่น่าสนใจคือ ประเทศที่ที่ได้ชื่อว่าเปิดกว้างมากที่สุดประเทศหนึ่ง ในยุโรป รับมือกับความเลวร้ายที่เกิดขึ้นได้อย่างมีวุฒิภาวะ เหมือนที่ Jens Stoltenberg นายกรัฐมนตรีจากพรรคแรงงาน กล่าวสุนทรพจน์หลังเกิดเหตุการณ์ว่า “เรายังคงตื่นตระหนกจากสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราจะไม่มีวันปล่อยวางคุณค่าที่เรายึดถือ การตอบโต้ของเราต่อสิ่งที่เกิดขึ้น คือประชาธิปไตยที่มากขึ้น การเปิดกว้างที่มากขึ้น และมนุษยธรรมที่มากขึ้น" [5]
แม้ว่าหลังเหตุการณ์จะมีดีเบตมากมายเกิดขึ้นในสังคมนอร์เวย์ ทั้งเรื่องการนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ การออกกฎหมายต่อต้านการก่อร้าย รวมทั้งข้อเสนอให้ออกกฎหมายจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยเฉพาะอย่าง ยิ่งhate speech แต่ถึงที่สุดแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นในสังคมนอร์เวย์ เบรวิคได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมโดยเน้นไปที่เรื่องสุขภาพจิต แม้เบรวิคจะยืนยันว่า ตัวเองปกติและมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนในช่วงเวลาก่อเหตุ
ในวันที่ 26 เมษายน 2012 ซึ่งเป็นวันแรกของการสืบพยานฝ่ายโจทก์ ประชาชน 40,000 คนรวมตัวกันใกล้ศาลและร้องเพลง Children of The Rainbow เพลงจากยุค 70’s ซึ่งยกย่องสังคมพหุวัฒนธรรมและเป็นเพลงที่เบรวิคพูดถึงในการพิจารณาคดีว่า เป็น “โฆษณาชวนเชื่อของพวกมาร์กซิสต์” ผู้จัดการชุมนุมให้สัมภาษณ์ว่า “เราต้องการแสดงให้เบรวิคเห็นว่า การกระทำของเขาไม่สามารถทำลายสังคมของเราที่เชื่อในการอดทนอดกลั้นต่อความ คิดเห็นที่แตกต่าง” [6
Vegard Groeslie Wennesland นักกิจกรรมเยาวชนพรรคแรงงานนอร์เวย์และเหยื่อผู้รอดชีวิตจาก Utøya กล่าวว่า “ผู้คนอาจจะคิดว่ามันไร้เดียงสาที่เรายังยึดถือคุณค่าของการเปิดกว้างใน สถานการณ์เช่นนี้ แต่เป็นการไร้เดียงสายิ่งกว่าที่จะคิดว่า กองกำลังตำรวจหรือนโยบายจำกัดเสรีภาพจะทำให้เราได้มาซึ่งสังคมที่ปลอดภัยมาก ขึ้น” [7]
แม้ว่าความโศกเศร้าปวดร้าวของครอบครัวผู้สูญเสียและความสะเทือนใจของผู้ คนทั้งสังคมจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ท้ายที่สุด สังคมนอร์เวย์หลีกเลี่ยงการทำลายคุณค่าที่สังคมยึดถืออย่างเช่น ประชาธิปไตย เสรีภาพ และความอดทนอดกลั้นต่อความเห็นต่าง
และนี่คือการตอบโต้ที่ดีที่สุดต่อการกระทำของ Anders Behring Breivik ด้วยการแสดงให้เห็นว่า ความพยายามของเขาที่จะทำลายคุณค่าของสังคมประชาธิปไตยนั้น ล้มเหลวไม่เป็นท่า



[1]ในบทความนี้เรียกThe Workers' Youth League หรือ AUF (Arbeidaranes Ungdomsfylking) ว่าเยาวชนพรรคแรงงานนอร์เวย์

[3]พรรคการเมืองในยุโรปไม่ว่าจะมีอุดมการณ์ทางการเมืองแบบใดล้วนแล้วแต่ มีปีกเยาวชน (Youth wing) เพื่อปลูกฝังอุดมการณ์และการมีส่วนร่วมทางการเมืองให้กับเยาวชนตั้งแต่อายุ ยังน้อย และค่ายเยาวชนของพรรคการเมืองมักจะจัดขึ้นในช่วงหน้าร้อนของยุโรป

[7]http://www.bbc.co.uk/news/world-europe-18941991