ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
11 กันยายน 2555
Q:จะครบรอบ6ปีรัฐประหาร 19 กันยา 2549 แล้ว อยากพูดอะไรเกี่ยวกับรัฐประหารบ้าง?
A:พอดีผมไปบวชมา ก็มีข้อสรุปว่าทุกฝ่ายทั้งกองทัพ อำมาตย์ นักการเมือง สื่อ และทุกฝ่ายหากมีพรหมวิหาร4 คือเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ปัญหาบ้านเมืองจบครับ
Q:คุณเ้คยพูดไว้ว่าหากเกิดปฏิวัติรัฐประหารให้ประชาชนต่อต้านด้วยการเตรียมน้ำมันใส่ขวดละลิตร คุณยังยืนยันเหมือนเดิมไหม?
A:คือที่ผมพูดมันเป็นโวหารสำนวนครับ หากจะเอาจริงเอาจังกับคำพูดผมขนาดนั้น ทำไมไม่ลองจริงจังกับคำพูดคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่พูดว่า"จะประชาชนแสนคนหรือคนเดียวหากแสดงความไม่เห็นด้วย รัฐบาลก็ควรฟัง" นั่นเป็นคำพูดของคนระดัีบนายกรัฐมนตรีนะครับ พอคนออกมาประท้วงเป็นแสนเป็นล้าน ไม่เห็นฟัง ทำไมสังคมไม่ไปเอาเรื่องกับคนพูดแบบนั้นบ้าง
Q:งั้นถามใหม่ หากเกิดรัฐประหารขึ้นอีกครั้ง คุณจะออกมาต่อต้านไหม หรือวางเฉย
A:ก็เรื่องมันยังไม่เกิด ผมจะไปตอบอะไรได้ แต่หากมันเกิดจริง ผมว่าต้องเจอทีเด็ดแน่ แต่ทีเด็ดอย่างไร ผมไม่ขอบอก
Q:คุณจะสนับสนุนให้ประชาชนต่อต้านการรัฐประหารไหม หากเกิดแบบ19กันยายน49อีก?
A:ผมว่าประชาชนควรมีสิทธิที่จะต่อต้าน เพื่อพิทักษ์รักษาประชาธิปไตย แต่กติกาต่างๆยังไม่เอื้ออำนวยให้ประชาชนลุกออกมาต่อสู้เท่าไหร่..
ผมอยากให้เกิดเรื่องต่อไปนี้นะ อยากเห็นศาลทั้ง3ศาล ชั้นต้น อุทธรณ์ ฎีกา ออกมาประกาศเลยว่า ต่อไปนี้จะไม่ยอมรับอำนาจของคณะปฏิวัติรัฐประหารอีกต่อไปแล้ว จะไม่ยอมรับว่าหากใครยึดอำนาจทำรัฐประหารสำเร็จจะได้ชื่อว่าเป็นรัฐาธิปัตย์ เท่านี้ก็จะทำให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยสามารถที่จะออกมาทัดทานต่อต้านการ ทำรัฐประหารได้อย่างเต็มที่
ผมอยากเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ
Q:ชีัวิตของคุณทุกวันนี้เป็นอย่างไร หากย้อนกลับไปได้คุณยังจะทำแบบที่สื่อกระแสหลักเรียกคุณว่าเป็นฮาร์ดคอร์อีกหรือไม่?
A:เมื่อ20ปีก่อนผมเป็นนักร้องเพลงพ็อพที่คนเรียกว่าเป็นคนร้องเพลงได้ โรแมนติกที่สุด คนก็อยากเห็นผมเป็นแบบนั้น ต่อมาผมมาทำงานการเมืองเป็นส.ส.ออกมาต่อต้านการรัฐประหารของคมช.สื่อก็เรียก ว่าผมเป็นฮาร์ดคอร์ ความจริงผมแค่ดิ้นรนต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด
Q:แต่คุณก็มีพฤติการณ์หลายอย่างว่าเป็นฮาร์ดคอร์นะ อย่างตอนการชุมนุมตอนสงกรานต์ปี2552คุณก็พาม็อบบุกโรงแรมที่ประชุมAPECจนการ ประชุมล่มลงไม่เป็นท่า
A:ตอนนั้นคนเสื้อแดงอยากไปฟ้องต่อที่ประชุมAPECว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์มีที่ มาไม่ชอบธรรม ฝ่ายรัฐบาลก็หาคนใส่เสื้อสีน้ำเงินมาทำร้ายคนเสื้อแดงปางตาย ผมก็ไปช่วย เมื่อคนเสื้อแดงแสดงความไม่พอใจจะเข้าไปในโรงแรมที่ประชุมAPEC ผมก็ไปห้ามปรามว่าอย่าทำให้เกิดความรุึนแรง ก็กลายเป็นการเสนอข่าวว่าผมพาพวกบุกล้มการประชุม
Q:มีข่าวว่าคุณพยายามขัดขืนการจับกุมของเจ้่าหน้าที่ในตอนสงกรานต์ปี52
A:ก็บุกมาเป็น200-300คนที่บ้านผม นำตัวผมไปขึ้นฮ.บอกจะพาไปที่หนึ่งแล้วจะไปอีกที่ ผมนั่งฮ.ไปกับคุณจตุพร พรหมพันธุ์ ตอนนั้นมีนายตำรวจนายหนึ่งมาควบคุมตัวผมไป เขามีประวัติเรื่องวิสามัญฆาตกรรม ผมก็กลัวโดนวิสามัญก็เลยเอาวะ หากจะตายก็คงต้องสู้กันซักตั้ง ก็ต่อสู้่ตำรวจบนฮ. จนตำรวจบอกว่าพอแล้ว และคุณจตุพรก็ห้ามว่าตำรวจจะพาฮ.ลงแล้ว ผมก็เลยให้ดำเนินคดี
Q:ในการชุมนุมปี2553คุณมีพฤติการณ์ฮาร์ฺดคอร์มากทั้งบุกสภา ทั้งหลบหนีที่โรงแรมSC PARK
A:ที่สภานี่คือคนเสื้อแดงไปชุมนุมหน้าสภา มันมีคนโยนระเบิดมาใส่2ลูก เราเลยขออนุญาตทางเจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมตัวแล้วก็ไปเจอส.ส.ประชาธิปัตย์ รายหนึ่งมีปืนเอ็ม16เราก็ขออาวุธปืนจะได้ไม่เกิดเหตุรุนแรง ผมไประงับความรุนแรงก็กลายเป็นผมนิืยมความรุนแรงไป
ตอนที่ผมหลบหนีที่โรงแรมSC PARKแล้วโรยตัวหนีลงมา มีพี่น้องมวลชนเสื้อแดงไปช่วย และเราได้ขอคุมตัวตำรวจไว้ ก็เพราะมีการยิงเข้ามาในห้องพักผม มีระเบิดเข้ามา ผมก็หนีออกมาได้และก็ต้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาผมไปส่งเวทีชุมนุมราช ประสงค์ ไม่ได้ให้เป็นตัวประกัีนอะไรเลย ก็หาว่าผมเป็นฮาร์ดคอร์
Q:ตอน19พฤษภา53ทำไมคุณไม่ยอมเข้ามอบตัวกับแกนนำคนอื่น แต่กลับหนี...
A:มันมีข่าวหนาหูมากว่า เขาจะจับตายผม อ้างว่าเป็นคำสั่งจากระดับสูง จริงหรือเท็จไม่ทราบ ผมก็เลยหลบหนีไปลี้ภัยในต่างประเทศ และเมื่อมีการเลือกตั้งเรียบร้อยผมก็กลับมา และได้ประสานงานสายตรงไปยังผู้ใหญ่ระัดับสูงว่า เข้าใจผมผิดทั้งนั้น ผมเป็นเพียงต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองเพื่อประชาธิปไตย ผู้ใหญ่ก็เข้าใจผมก็กลับมาต่อสู้ในประเทศ
Q:6ปีหลังรัฐประหาร19กันยา49ประเทศเรามีบทเรียนอะไรบ้าง..
A:ประชาชนไทยหูตาสว่างขึ้นมาก แต่อำมาตย์ยังไม่มีบทเรียนอะไร พวกเขายังอยากให้ประเทศให้ประชาชนเหมือนเดิม แต่ประชาชนไม่เหมือนเดิมอีกต่ิอไปแล้ว