WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, September 14, 2012

ไต่สวนการตาย จนท.เขาดิน นัดแรก พ่อเชื่อฝีมือเจ้าหน้าที่ แต่ไม่เอาความ

ที่มา ประชาไท


ไต่สวนการตาย 10 เม.ย. "มานะ อาจราญ" นัดแรก เพื่อนร่วมงานเผยผู้ตายได้ตกลงกันว่าจะช่วยกันเฝ้าบ่อเต่ายักษ์จนถึงเช้า แต่มาถูกยิงเสียก่อนช่วงเดินไปตอกบัตร รปภ.เผยก่อนนายมานะถูกยิง มีเสียงตะโกน "มันมาแล้ว" ก่อนที่ทหารทั้งในและนอกสวนสัตว์จะกรูเข้าไปหลบ และทหารมีการยิงสวนไปทางรัฐสภา แต่ไม่แน่ใจว่าใครทำให้นายมานะเสียชีวิต ศาลนัดสืบพยานต่อศุกร์นี้
เวลา 9.30 น. วันนี้ (13 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลเริ่มไต่สวนคำร้องชันสูตรพลิกศพนัดแรก ในคดีเลขที่ อช.1/2555 กรณีการเสียชีวิตของนายมานะ อาจราญ อายุ 24 ปี ลูกจ้างสวนสัตว์ดุสิตที่ถูกยิงเสียชีวิตในคืนเดียวกับที่มีการสลายการชุมนุม คือวันที่ 10 เมษายน 2553 ภายในบริเวณสวนสัตว์ดุสิต ถ.อู่ทองใน กรุงเทพฯ
สำหรับคดีดังกล่าวพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 7 สำนักงานอัยการสูงสุด ได้นำส่งพยานหลักฐานและพยานบุคคลจำนวนมากถึง 36 ปาก รวมทั้งยังต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม ศาลจึงได้มีคำสั่งให้มีการไต่สวน 7 นัด คือวันที่ 13, 14, 17 และ 24 ก.ย. 55, 26 พ.ย.55, 17 และ 24 ธ.ค. 55
โดยการไต่สวนในวันนี้ มีการเรียกพยานมาให้ปากคำ 5 ปาก ได้แก่นายมาโนช อาจราญ รปภ.สวนสัตว์ดุสิต และบิดาของผู้เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ดุสิตอื่นๆ อีก 4 ปาก

บิดาเชื่อทหารทำให้บุตรชายเสียชีวิตเพราะทหารเข้ามาในสวนสัตว์ แต่ไม่ติดใจเอาความ
โดยนายมาโนช อาจราญ เบิกความต่อศาลว่าบุตรชายเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 24 ปี ในวันที่ 10 เม.ย. 53  โดยในวันเกิดเหตุเขาได้เข้าเวร รปภ.สวนสัตว์ดุสิต ที่ประตูทางออกด้าน ถ.ราชวิถี ส่วนบุตรชายไม่ได้ทำงานบริเวณเดียวกันแต่ทำงานอยู่ที่บ่อเต่ายักษ์อัลดราบา ต่อมาหลังเวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ดุสิตแจ้งว่ามีคนถูกยิงบริเวณลานใกล้อาคารจอดรถจึงเดิน ไปดู เมื่อไปถึงพบว่าเป็นบุตรชายซึ่งเสียชีวิตแล้วและนอนคว่ำหน้าอยู่ โดยแพทย์ชันสูตรศพระบุว่าเกิดจากกระสุนปืนเอ็ม-16 เข้าด้านหลังบริเวณท้ายทอย และทะลุออกบริเวณหน้าผาก
นายมาโนช เบิกความต่อว่า ในสวนสัตว์ดุสิตมีทหารประมาณ 1 กองร้อยเข้ามาอยู่ตั้งแต่ช่วงกลางวันแล้วเพื่อตรึงกำลัง เนื่องจากมีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ทั้งนี้ในวันดังกล่าวไม่ทราบว่าข้างนอกเกิดเหตุการณ์อะไร และไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาในสวนสัตว์ โดยเชื่อว่า ความตายของบุตรชายเกิดจากการกระทำของทหาร เนื่องจากในวันดังกล่าวทหารเข้ามาในสวนสัตว์ และถืออาวุธปืนเอ็ม-16 เข้ามาด้วย
นายมาโนชกล่าวว่าที่่ผ่านมาได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จำนวน 400,000 บาท กองคลัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 50,000 บาท ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 30,000 บาท และจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 7.2 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายสองงวด ทั้งนี้นายมาโนชไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มและไม่ติดใจดำเนินคดีต่อ

เพื่อนร่วมงานเผยคืนเกิดเหตุ "มานะ อาจราญ" เข้าเวรดูแลเต่ายักษ์
ต่อมานายบุญมี แก้วไทรท้วม เป็นพยานคนที่ 2 เบิกความต่อศาล กล่าวว่า นายมาโนชมีศักดิ์เป็นหลาน ที่สวนสัตว์ต้องมีเจ้าหน้าที่เฝ้าบ่อเต่ายักษ์อัลดราบาตอนกลางคืน เพื่อป้องกันการโจรกรรม เนื่องจากเต่ายักษ์มีราคาแพง และเดิมเต่ายักษ์ถูกจัดแสดงไว้ที่อาคารสัตว์เลื้อยคลาน แต่อาคารกำลังมีการปรับปรุง จึงมีการย้ายเต่ามาอยู่ที่บ่อเก้งหม้อและใช้เป็นที่จัดแสดงเต่ายักษ์อัลดรา บาดังกล่าว
โดยสวนสัตว์ได้แบ่งเจ้าหน้าที่เข้าเวรดูแลบ่อเต่าช่วงกลางคืนออกเป็น 2 กะ คือกะแรก 17.00 น. - 23.00 น. และกะที่สอง 23.00 น. - 7.00 น. โดยในวันเกิดเหตุนายมานะ ประจำกะแรก ส่วนนายบุญมีจะอยู่กะที่สอง แต่ได้ตกลงกันว่าจะอยู่ดูแลเต่ายักษ์ด้วยกันทั้ง 2 กะจนเช้า โดยในคืนเกิดเหตุนายมานะออกไปอาบน้ำที่โรงพยาบาลสัตว์ ในสวนสัตว์ดุสิต ตอน 20.00 น. และกลับมาอีกทีในวเลา 21.00 น. ต่อมาในเวลา 23.00 น. เมื่อครบเวลาเข้าเวรกะแรก นายมานะกล่าวว่าจะออกไปตอกบัตรออกเวรที่กองอำนวยการสวนสัตว์ แล้วจะกลับมาเฝ้าบ่อเต่าเป็นเพื่อนต่อ โดยนายมานะได้ออกจากส่วนจัดแสดงเต่ายักษ์และคล้องกุญแจข้างนอกเอาไว้
เวลาผ่านไปประมาณ 2 นาทีนายบุญมี กล่าวว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด จากนั้นพอได้ยินเสียงปืนอีก จึงหาทางออกจากบ่อเต่า แต่เนื่องจากประตูถูกปิดไว้จึงปีนออกมา และพบร่างนายมานะ นอนคว่ำอยู่ โดยกระตุกอยู่ 2-3 ครั้ง ก่อนแน่นิ่งไป โดยพบร่างห่างจากรถมอเตอร์ไซค์ของนายมานะประมาณ 2 เมตร
จากนั้นจะวิ่งไปขอความช่วยเหลือ แต่ทหารที่อยู่บริเวณอาคารจอดรถตะโกนสวนมาว่า "หลบไป อยากตายหรือไง" นายบุญมีจึงกลับไปหลบอยู่ที่บ่อเต่าใกล้บริเวณที่ผู้ตายคว่ำหน้าอยู่ นอกจากนี้นายบุญมีพยายามแจ้งศูนย์วิทยุสื่อสารเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ได้คำตอบว่ายังออกมาช่วยไม่ได้ เพราะยังมีการยิงอยู่ ต่อมาเห็นนายสุทัศน์ สุทธิวงศ์ หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัย สวนสัตว์ดุสิต จึงปีนบ่อเต่าออกมา ทั้งนี้ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม-16 2 ปลอก โล่เขียนว่า "ตชด." และกระบองสีน้ำตาล
นายบุญมีให้การต่อศาลว่าที่ทหารเข้ามาพักในอาคารจอดรถ สวนสัตว์ดุสิต เพราะมี นปช. ชุมนุม โดยช่วงกลางวันเห็นทหารบางนายมีอาวุธประจำกายคือปืนเอ็ม-16 และมีทหารออกมาเดินเล่นในสวนสัตว์ ส่วนถ้าจะมีบุคคลภายนอกเข้ามาต้องปีนกำแพงสวนสัตว์ซึ่งสูง 2 เมตรเข้ามา

หัวหน้า รปภ. ยันคืนเกิดเหตุไม่มีบุคคลภายนอกมีแต่ จนท.สวนสัตว์และทหาร แต่ไม่ทราบว่านายมานะตายเพราะใคร
ต่อมานายสุทัศน์ สุทธิวงศ์ ห้วหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัย สวนสัตว์ดุสิต ให้การเป็นพยานปากที่ 3 กล่าวว่าในคืนเกิดเหตุมีรถกระบะขับมาจากด้านลานพระบรมรูปทรงม้า มุ่งหน้ามาทาง ถ.อู่ทองใน ด้านพระที่นั่งอนันตสมาคมก่อนเลี้ยวกลับทางเดิม เมื่อมีรายงานว่ามีคนถูกยิง จึงจะเข้าไปดู แต่ถูกทหารควบคุมตัวไว้เป็นเวลา 20 นาที เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุจึงพบว่านายมานะ เสียชีวิตแล้ว เมื่อเห็นนายบุญมีจึงเรียกนายบุญมีมาดู และแจ้งไปยังผู้อำนวยการสวนสัตว์ดุสิตเพื่อประสานขอความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ในเวลาเกิดเหตุไม่น่าจะมีบุคคลภายนอก นอกจากเจ้าหน้าที่ทหารและ รปภ.สวนสัตว์ ทั้งนี้ได้นำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐาน ด้วย โดยนายสุทัศน์ให้การต่อศาลด้วยว่าทหารมีอาวุธปืนประจำกาย แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ทำให้นายมานะถึงแก่ความตาย

รปภ.ให้การก่อนนาทียิงมีเสียงตะโกน "มันมาแล้ว" แต่ไม่รู้ว่าหมายถึงใคร
นายเสรี จัตุรัส พยานปากที่ 4 เบิกความว่า ทำหน้าที่ รปภ.สวนสัตว์ดุสิต วันเกิดเหตุมาเข้าเวรเวลา 8.00 - 16.00 น. แต่หลังเวลา 16.00 น. ไปช่วยทำหน้าที่ดูแลอาคารจอดรถ ที่อยู่ตรงข้ามรัฐสภาต่อเนื่องจากกำลังคนไม่พอ ทั้งนี้ทราบว่าในวันเกิดเหตุมีการสลายการชุมนุมที่สี่แยกคอกวัว และมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาพักกำลังพลที่อาคารจอดรถ สวนสัตว์ดุสิต
นายเสรีให้การต่อว่าในเวลา 23.00 น. ทหารตะโกนว่า "มันมาแล้ว" ทหารด้านนอกสวนสัตว์ได้วิ่งเข้าไปในสวนสัตว์ เมื่อถามว่า "มันมาแล้ว" หมายถึงอะไร นายเสรีตอบว่า "ไม่ทราบ" โดยนายเสรีให้การว่าได้ยินเสียงเหมือนเสียงปืนมาจากข้างนอก จึงขึ้นไปหลบบนดาดฟ้าของอาคารจอดรถ และต่อมาได้ยินเสียงปืนออกมาจากด้านในอาคารจอดรถ แต่ไม่ทราบว่าเป็นการยิงตอบโต้กับเสียงจากข้างนอกหรือไม่ นายเสรีให้การด้วยว่า รั้วของสวนสัตว์มีความสูง 2 เมตร ก่อนหน้านี้เมื่อ 4-5 ปีก่อนเคยมีคนแอบปีนเข้ามา

พยานคนที่ 5 ระบุเห็นทหารในสวนสัตว์ยิงไปทางรัฐสภา แต่ไม่รู้ว่ายิงอะไร 
ต่อมานายสำเริง สุขสมจิต รปภ.สวนสัตว์ดุสิต ให้การว่าในวันเกิดเหตุ เข้าเวรระหว่างเวลา 8.00 - 16.00 น. หลังเวลา 16.00 น. เข้าไปช่วยงานที่อาคารจอดรถ โดยเห็นว่ามีทหารเข้ามาพักในสวนสัตว์ จนกระทั่งเวลา 23.00 น. ตรงประตูทางเข้าสวนสัตว์ด้านรัฐสภา มีเสียงตะโกนว่า "มันมาแล้ว" ซึ่งไม่ทราบว่าใครตะโกน จึงเข้าไปหลบในอาคารจอดรถ ส่วนทหารหลบอยู่ในอาคารจอดรถ ที่วิ่งเข้าไปในสวนสัตว์ก็มี และยังมีทหารที่นอนหมอบอยู่ด้วยกัน ได้ยิงปืนประจำกายไปทางรัฐสภา แต่ตนมองไม่เห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นเนื่องจากเสาบัง พอเสียงปืนสงบจึงขึ้นไปหลบบนดาดฟ้า และนายเสรี พยานก่อนหน้านี้ ได้โทรศัพท์มาบอกว่า นายมานะเสียชีวิตแล้ว นายสำเริงกล่าวด้วยว่าในกล้องวงจรปิด มีรถกระบะคันหนึ่งขับมุ่งหน้ามาทางพระที่นั่งอนันตสมาคม แล้วขับกลับไป แต่ไม่สามารถยืนยันว่าคนที่อยู่ในรถมีลักษณะอย่างไร และมีอาวุธหรือไม่
ทั้งนี้ศาลนัดสืบพยานต่อในวันที่ 14 ก.ย. โดยจะเป็นการเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสืบพยาน