ที่มา บางกอกทูเดย์
คงไม่นานจากนี้ คำตอบจะออกมาว่าในความรู้สึกหรือความต้องการของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้น เขาจะเลือกใครเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ??แต่ในชั้นนี้ มาร์ค-อภิสิทธิ์ ได้ออกมาเปิดใจว่า...ที่ผ่านมาทำไมจึงต้องเลือก พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐจเรตำรวจเป็น ผบ.ตร.คนต่อไป??นายกฯ อภิสิทธิ์ เปิดใจชนิดที่เรียกว่า “ร่ายยาว”อย่างนี้...ประการแรก คุณอภิสิทธิ์มีอำนาจเต็มตามกฎหมาย
ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่จะเสนอชื่อใคร หรือแต่งตั้งใครเป็น ผบ.ตร.ก็ได้ประการต่อมา...เพราะฝันอยากเห็น สตช. ก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ โยนการเมืองในอดีตล้วงลูกมานานแม้งานนี้จะมี “อุบัติเหตุทางการเมือง” ที่ คุณชวรัตน์ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาคัดค้าน โดยการเสนอชื่อ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมายแทน ก็ถือเป็น “เรื่องใหญ่ในเรื่องเล็ก”!!คือ...ในแวดวงการเมืองไทยนั้น อะไรก็มักจะเปลี่ยนแปลงได้เสมอวันนี้ มท.1 ก็ยังพบปะพูดจากับ สร.1 มาร์ค-อภิสิทธิ์ เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นแปลความว่า...อะไรที่ว่าแน่ๆ ก็อาจจะไม่แน่?? และในที่สุด อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็อาจจะสามารถดันทุรังใช้อำนาจ “นายกรัฐมนตรี” ที่มีอยู่ ดึงดันเสนอพล.ต.อ.ปทีป อีกครั้ง และหนนี้คงผ่านการเห็นชอบจาก “คนที่ไม่เห็นด้วย” มาก่อน??อภิสิทธิ์คงต้องมีคาถาดีหรือมียาเสริมกำลังอย่างดีหมีอยู่ด้วย จึงยืนยันนั่งยันตลอดเวลาว่า ที่ต้องเสนอชื่อพล.ต.อ.ปทีป นั้น เพราะในสังคมตำรวจได้ถูกการเมืองล้วงลูกอยู่นาน!!อภิสิทธิ์เน้น ย้ำ และยืนยันกระต่ายขาเดียว เราต้องการก็คือทำอย่างไรให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติก้าวเข้าสู่ความเป็นตำรวจอาชีพ??ต้องยอมรับว่า หลายปีที่ผ่านมามีเรื่องการเมืองเข้าไปแทรกแซง และระบบคุณธรรมในตำรวจได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรง เพราะฉะนั้นบุคคลที่เขาเสนอชื่อมองว่า จะต้องมีคุณสมบัติ 2 อย่าง คือ
1. สามารถทำให้ความขัดแย้งภายในลดลงได้เป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับนับถือ และมีบุคลิกสามารถประสานความร่วมมือกับทุกฝ่าย ทำให้การทำงานตำรวจมีประสิทธิภาพ
2. ภายนอกต้องมีการยอมรับนับถือในลักษณะของความเป็นกลางทางการเมือง สามารถเดินหน้าคดีต่างๆ ได้ดี ส่วนการประชุมเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมาอาจจะมีข้อมูลหรือความเห็นที่ยังไม่ตรงกัน เป็นเรื่องปกติธรรมดาในอดีตที่ผ่านมา กระบวนการกว่าจะได้ ผบ.ตร.หรืออธิบดีกรมตำรวจ ก็มีเรื่องแบบนี้ที่เคยเกิดขึ้นเหมือนกันผมเองก็เชื่อว่า...งานนี้ของมาร์ค “ไม่ใช่ธรรมดา”แต่เป็นในที่สุดจะจบลงแบบ “ไม่ธรรมดา” ■