WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, August 23, 2009

"อภิสิทธิ์"สะดุดขาตัวเอง ลดเครดิต"นายกฯ" บารมี ถดถอย !

ที่มา มติชน

วิเคราะห์




หากถือเอาเหตุการณ์การตัดสินใจประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ เดือนเมษายน 2552 เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความเชื่อมั่นในตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่กล้าใช้อำนาจจัดการกับม็อบที่ก่อความวุ่นวายภายในประเทศ เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยและศักดิ์ศรีของรัฐไทยเอาไว้

ต้องถือว่ากรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัดสินใจก้าวล่วงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการสืบสวนสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และการใช้อำนาจเข้าไปข้องเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ

เป็นการลดความเชื่อมั่นในตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะนายกรัฐมนตรีลงไปมากทีเดียว

นับตั้งแต่วันที่นายอภิสิทธิ์ เรียก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าหารือ และออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทจะลาไปราชการต่างประเทศ เพื่อเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีตั้งรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขึ้นมาปฏิบัติราชการแทน เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนในคดีลอบยิงนายสนธิคืบหน้า

นับแต่วันนั้นจนถึงวันนี้

เครดิตของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็มีแต่ต่ำเตี้ยลงเรื่อยๆ

ทั้งนี้เพราะหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทเสนอทางออกเกี่ยวกับปัญหา "ตอ" ในคดีลอบยิงนายสนธิ ด้วยการ "ลาราชการ" เป็นเวลา 10 วัน แต่ พล.ต.อ.พัชรวาทกลับให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้เป็นคนเสนอเช่นนั้น

พล.ต.อ.พัชรวาทเพียงแต่บอกว่า มีกำหนดการเดินทางไปยังประเทศจีนเป็นเวลา 3 วัน และหลังจากกลับจากประเทศจีนแล้ว พร้อมทำงานในตำแหน่งหน้าที่เดิม

คำปฏิเสธของ พล.ต.อ.พัชรวาท ทำให้คำพูดของนายอภิสิทธิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีถูกบั่นทอน

อย่างไรก็ตาม ในภายหลังปรากฏว่า พล.ต.อ.พัชรวาทได้ทำหนังสือลาไปต่างประเทศเป็นเวลา 10 วัน โดยระบุว่าจะต้องกลับมาประเทศไทยในช่วงวันที่ 11-12 สิงหาคม เพื่อร่วมพระราชพิธีสำคัญ วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ขณะที่นายอภิสิทธิ์ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาการแทนตำแหน่งของพล.ต.อ.พัชรวาท

เหตุการณ์ทำท่าว่าจะทำให้เครดิตนายอภิสิทธิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีกลับคืนมา

แต่การณ์กลายเป็นว่า เพียงไม่กี่วัน พล.ต.อ.พัชรวาทก็เดินทางกลับมาประเทศไทย พร้อมทั้งรายงานตัวต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และทำหนังสือเวียนถึงผู้เกี่ยวข้องว่าได้กลับมาประเทศไทยแล้ว

เป็นเหตุให้ พล.ต.อ.วิเชียรต้องพ้นจากการรักษาการแทนตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปโดยปริยาย

เรื่องราวยังไม่จบลงแค่นั้น เพราะเมื่อ พล.ต.อ.พัชรวาทกลับมาแล้ว ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียรเป็นรักษาการตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้สร้างความแคลงใจ เพราะคำสั่งแต่งตั้ง "รักษาราชการแทน" นั้นไม่เหมือนกับคำสั่งแต่งตั้งให้ "ปฏิบัติราชการแทน"

คำสั่งให้ "รักษาการแทน" กระทำในกรณีที่ไม่มีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่สามารถทำงานได้

ส่วนการ "ปฏิบัติราชการแทน" เป็นการมอบอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ใครคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่แทน

ดังนั้น เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียรเป็นรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงเกิดข้อสงสัยว่าระยะเวลาดังกล่าวใครคือผู้มีอำนาจในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกันแน่

การดำเนินการดังกล่าวคราวนี้ จึงเสมือนกับเป็นการลดเครดิตนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะนายกรัฐมนตรีผู้ใช้อำนาจ

กระทั่งมีการกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีใช้อำนาจไปเพื่อแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทั้งนี้เพราะแต่ละครั้งที่ พล.ต.อ.พัชรวาทไม่อยู่ และ พล.ต.อ.วิเชียรรักษาราชการแทน ปรากฏว่ามีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับบัญชีรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจทั้งสองครั้ง

สุดท้ายคือการประชุมคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. เพื่อเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ต่อจาก พล.ต.อ.พัชรวาท ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้

ข่าวแจ้งว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมได้เสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ขึ้นดำรงตำแหน่งต่อจาก พล.ต.อ.พัชรวาท

แต่ที่ประชุม จำนวน 11 คน กลับเด้งกลับ ด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 4 งดออกเสียง 2 คน

น่าสนใจตรงที่ หนึ่งในผู้ที่ค้านนายอภิสิทธิ์ คือ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ที่เหลือคือ นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม ผู้ทรงคุณวุฒิ พล.ต.อ.สุเทพ ธรรมรักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการวางแผนหรือการบริหารจัดการ

และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ผลการลงคะแนนดังกล่าวเป็นการลงคะแนนแบบเปิดเผย ไม่ใช่ลงคะแนนลับ

เท่ากับว่าคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติคัดค้านข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติคัดค้านนายกรัฐมนตรี

ถือเป็นการลดเครดิตนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในห้วงเวลาไม่ถึงเดือน

ดูเหมือนว่านายอภิสิทธิ์กำลังสะดุดขาตัวเอง และทุกๆ การกระทำของนายอภิสิทธิ์ล้วนกระทบต่อเครดิตของ "นายกรัฐมนตรี"

หรือบารมีของนายอภิสิทธิ์กำลังถดถอย ?