ที่มา Thai E-News2อารมณ์หลังจบยกที่2:อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อมยิ้มด้วยสีหน้าดีใจหลังจบการเจรจายกที่2 ซึ่งเขาปฏิเสธยุบสภาภายใน15วันและขอต่อเวลาในเก้าอี้ออกไปอีก 9 เดือน ขณะที่แกนนำนปช.ดูมีสีหน้าเคร่งเครียด และจะไปหารือกันว่ายังจะเปิดเจรจายกที่3ในวันพฤหัสฯนี้หรือไม่ หรือจะยกระดับการชุมนุมขับไล่รัฐบาล(ภาพข่าว:REUTERS)
ใจ อึ๊งภากรณ์
29 มีนาคม 2553อภิสิทธิ์ท้าโดยถามว่าเราควรจะให้มีประชามติว่าควรยุบสภาหรือไม่ จริงๆ แล้วฝ่ายเสื้อแดงควรรับคำท้านี้ โดยเสนอให้มีประชามติทันทีให้เลือกระหว่างข้อเสนอของเสื้อแดงและของอภิสิทธิ์
อภิสิทธิ์ปฏิเสธข้อเรียกร้องว่าต้องยุบสภาใน 15 วัน แถมยังเพิ่มเงื่อนไขมาว่า ต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อนที่จะจัดการเลือกตั้งได้ นอกจากนี้มีการเสนอว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญ และจัดประชามติก่อนที่จะยุบสภา พูดง่ายๆ มีการยืดเวลาออกไปอย่างน้อย 9 เดือน และอาจยืดไปถึงหนึ่งปีเก้าเดือน ครบวาระรัฐบาลเถื่อนพอดี
พร้อมกันนั้นอภิสิทธิ์ก็โกหกตามเคยว่าไม่มี “สองมาตรฐาน” ในการใช้กฎหมายในเมืองไทย
วันนี้ฝ่ายเราดูเหมือนอ่อนแอกว่าวันก่อน เราไม่ได้อะไรเลยจากการเจรจา
อภิสิทธิ์ท้าโดยถามว่าเราควรจะให้มีประชามติว่าควรยุบสภาหรือไม่ จริงๆ แล้วฝ่ายเสื้อแดงควรรับคำท้านี้ โดยเสนอให้มีประชามติทันทีให้เลือกระหว่างข้อเสนอของเสื้อแดงและของอภิสิทธิ์
ประเด็นที่เราต้องจับตาตรวจสอบต่อไปคือ ฝ่ายรัฐบาลเสนอให้คุยต่อในอนาคตในที่ลับ ถ้าแกนนำเสื้อแดงรับข้อเสนอนี้อาจจะเป็นการถอยหลังเพื่อหาทางยอมจำนน
ในสถานการณ์แบบนี้ คนเสื้อแดงจะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการชุมนุม ไม่ว่าจะกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนหรือไม่ การเพิ่มความเข้มข้นหมายความว่า เราต้องเพิ่มข้อเรียกร้องทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่องปากท้องที่เป็นประโยชน์กับคนจน ต้องขยายฐานมวลชนสู่สหภาพแรงงานและนายทหารระดับล่าง และต้องเริ่มเผยตัวมากขึ้นว่าเราไม่จงรักภักดีต่อระบบอำมาตย์และพร้อมจะสู้ระยะยาวเพื่อล้มมัน
อย่างไรก็ตาม ผมไม่เห็นด้วยกับจุดยืน อ.สุรชัย (แซ่ด่าน) ที่ใช้เรื่องส่วนตัวด่าแกนนำสามเกลอ โดยไม่เสนอทางออกเป็นรูปธรรมสำหรับคนเสื้อแดง และโดยไม่พยายามรักษาความสามัคคี การวิจารณ์แบบนั้นท่ามกลางการต่อสู้ของมวลชนเป็นเรื่องที่ผิดพลาดและทำให้แนวปฏิวัติของสยามแดงเสียการเมือง
คนเสื้อแดงที่อยากโค่นล้มอำมาตย์ควรตัดความสัมพันธ์กับอ.สุรชัย