ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
1 เมษายน 2553
เราพาดหัวข่าวไม่ผิดหรอก แม้จะเป็นพาดหัวข่าวในนวันApril Fool's Day แม้จะดูตลกและขัดกันแบบพิลึกพิลั่น ก็ดันเป็นเรื่องจริงอันชวนปวดตับอย่างยิ่ง
เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับแกนนำเสื้อแดงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พยายามสรุปว่าเขาจะทำRoad mapเพื่อยุบสภาภายใน 9 เดือน โดยบอกว่าก่อนจะยุบสภาก็ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน และก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องจัดทำประชามติก่อน(ซึ่งในเวลาต่อมามีการเปิดเผยว่าจะทำประชามติในเดือนกรกฎาคม)
สำหรับกองเชียร์ของอภิสิทธิ์นี่นับว่าดูดีมีเหตุผล
โดยอภิสิทธิ์กล่าวตอนหนึ่งในการเจรจาเมื่อวันจันทร์ว่า "ประชามติเป็นกระบวนการที่ดีมาก"
รายละเอียดที่อภิสิทธิ์พูด และถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ต่อสายตาคนไทยในประเทศคือเรื่องรัฐธรรมนูญช้าเร็วไม่ได้อยู่ที่สภา วันนี้เราเอาให้ชัดๆเลยว่าประชาชนเป็นคนทำ ทำประชามติไปเลยจะแก้มาตราไหน ซึ่งมันไม่เหมือนกับการเลือกตั้ง กระบวนการประชามติบวกกับการแก้ไขอาจจะต้องใช้เวลา บรรยากาศบ้านเมืองที่เราสามารถทำเรื่องยากๆกันได้คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำประชามติ เราไม่สามารถแก้กันได้ลอยๆ ประชามติ อันนี้จะเป็นกระบวนการที่ดีมาก (ที่มา:มติชนออนไลน์ 30 มีนาคม 2553)
เพียงแต่ว่าก็มีเสียงค้านดังลั่นลอยมาจากอดีตอันไม่ใกล้ไม่ไกลนัก คนที่ค้านเรื่องที่นายอภิสิทธิ์เสนอ ก็เป็นนายอภิสิทธิ์คนเดียวกันนั่นเอง!
โดยนายอภิสิทธิ์ตอนเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน พูดเรื่องเดียวกันนี้ว่า"ไม่ต้องทำประชามติ มีแต่จะทำให้ความขัดแย้งลุกลามออกไป ให้ยุบสภาคืนอำนาจประชาชนสถานเดียว เป็นกระบวนการอารยะ"...
เหตุเกิดในตอนที่พันธมิตรฯชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาลไว้นั้น รัฐบาลนายสมัครเคยเสนอทางออกว่าจะจัดทำประชามติเพื่อหาทางออกให้กับวิกฤตการณ์
ต่อไปนี้เป็นข่าวที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะนั้นเป็นฝ่ายค้านให้สัมภาษณ์ ปรากฎหลักฐานในหนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2551 ดังต่อไปนี้เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2551 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแนวคิดการทำประชามติของรัฐบาล เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ ว่า การทำประชามติมีแต่จะทำให้ความขัดแย้งทางความคิดลุกลามออกไป ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์ที่เสี่ยงจะเกิดความรุนแรงอยู่ตลอดเวลาเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ หากต้องการให้ประชาชนมาชี้อนาคตทางการเมือง ต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกับที่อารยะประเทศทำกันอย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การทำประชามติจะไม่เกิดขึ้น เพราะขัดรัฐธรรมนูญ
คนละบริบท คนละสถานการณ์หรือเปล่า?
ในการเจรจา นายอภิสิทธิ์มักจะแก้ต่างเรื่องทำนองนี้ว่า มันคนละบริบท...คนละสถานการณ์กัน
แต่เรื่องนี้คนละบริบทคนละสถานการณ์หรือ?
-ตอนที่พันธมิตรชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์บอกว่า การทำประชามติมีแต่จะทำให้ความขัดแย้งทางความคิดลุกลามออกไป เพราะว่า"สำหรับสถานการณ์ที่เสี่ยงจะเกิดความรุนแรงอยู่ตลอดเวลาเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ "...ปัญหาคือการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของคนเสื้อแดงในเวลานี้ ไม่ได้เป็นสถานการณ์ที่เสี่ยงจะเกิดความรุนแรงอยู่ตลอดเวลาเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ หรอกหรือ?
-หรือว่าเสื้อแดงสงบเกินไป สันติเกินไป ไม่เสี่ยงเกิดความรุนแรงเกินไป ไม่ได้ยึดทำเนียบรัฐบาล ไม่ได้ยึดสนามบิน ไม่ได้ล้อมสภา ไม่ได้บุกบชน. ไม่ได้ยกกำลังไปยิงวิทยุชุมชน ไม่ได้ทำชั่วๆแบบพันธมิตร...ก็เลยทำให้"บริบท และสถานการณ์ต่างกัน" ดูแล้วเป็นสถานการณ์"ปกติ"ชนิดที่นายอภิสิทธิ์ต่อปากต่อคำว่า ลดราคาให้แล้วจากอยู่ครบเทอม1ปี9เดือน ยอมลดให้1ปีเหลือ9เดือน
หรือนายอภิสิทธิ์อยากได้"บริบท และสถานการณ์"แบบเดียวกับที่พันธมิตรเคยก่อกรรมทำเลวไว้กับประเทศชาติ จึงจะเห็นว่า"เป็นเรื่องที่รอไม่ได้"...