ที่มา บางกอกทูเดย์ 'เทพเทือก'ผวาคอนเสิร์ตสีแดง'อ้อมน้อย' แม้ว่าความปรองดองสมานฉันท์ จะเป็นสิ่งที่คนไทยทั้งประเทศอยากเห็น อยากได้ และอยากให้มีเกิดขึ้นโดยเร็ววันในประเทศไทย แต่ดูเหมือนว่าบรรดากลุ่มคนที่ยึดกุมอำนาจใหม่ในขณะนี้ กลับมีทีท่าเสพติดอำนาจ จนไม่ต้องการที่จะให้เกิดการปรองดอง เพราะจะทำให้ไม่สามารถใช้กฎหมายพิเศษ ใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้อีกต่อไป หลายๆกรณีจึงเห็นชัดเจนว่า มีความพยายามสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่า ยังคงมีความรุนแรง ยังคงมีความพยายามป่วนสถานการณ์การเมืองอยู่ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว เป็นเพียงแค่ความพยายามเรียกร้องขอความเป็นยุติธรรมที่แท้จริงให้กลับคืนสู่ผืนแผ่นดินไทย และหยุดพฤติกรรม 2 มาตรฐานให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว สถานการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เพียงแค่คนไทยเท่านั้นที่รู้สึก แม้แต่ต่างประเทศเองก็รู้สึก และพยายามที่จะสะกิดเตือนรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้เป็นนายกรัฐมนตรี มาโดยตลอด แต่ดูเหมือนไม่เคยจะได้ผล โดยเฉพาะท่าทีและการแสดงออกของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศอฉ. และบรรดาคนรอบข้างนายอภิสิทธิ์ อีกหลายคน ที่ชัดเจนว่า พอใจอย่างมากกับการมีเกราะกำบังจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ช่วยให้พูด ให้กระทำ หรือสั่งการอะไรก็ได้ แม้แต่ในสิ่งที่ถูกกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างประเทศจำนวนมาก มองว่าเข้าข่ายละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนก็ตาม ด้วยเหตุนี้เอง แม้แต่ประเทศมหาอำนาจประชาธิปไตย อย่างสหรัฐอเมริกา ยังต้องใช้การเตือนอ้อมๆ อยู่ตลอดเวลา และเลือกที่จะเตือนผ่านไปยังบรรดาผู้อาวุโสของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างล่าสุด นายอีริค จี จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ที่ห้องทำงาน ณ อาคารควง อภัยวงศ์ เป็นเวลาราว 1 ชั่วโมง โดย นายอีริค เปิดเผยว่า มาพบ นายชวน เพื่อที่จะสอบถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทยและแนวโน้มทางการเมืองของประเทศไทย ส่วนที่ว่ามีความเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทยหรือไม่ เพราะยังมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการใช้กำลังอยู่นั้น นายเอริค กล่าวว่า ตามปกติเรื่องความรุนแรงก็คงทำให้ทุกคน ทุกฝ่ายเป็นห่วงเท่ากันหมด แต่เรื่องที่สำคัญที่ควรจะเน้นย้ำ คือ จะเห็นได้อย่างไรว่า นักการเมืองทุกคน ทุกฝ่ายมารวมตัวกันและร่วมกันแก้ไขปัญหาภายในด้วยกัน คำตอบง่ายๆ คือ ไม่ควรมีใคร ฝ่ายใดที่จะสนับสนุนให้เกิดการใช้ความรุนแรงขึ้นอีก ปัญหาก็คือ การฝากแง่คิดไว้กับนายชวน ในยามนี้ จะได้ผลมากน้อยเพียงใด เพราะผู้ที่ยึดกุมอำนาจไว้ในมือโดยตรง ผ่านกลไก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังคงไม่มีทีท่าลดราวาศอกลงเลยแม้แต่น้อย อย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แค่กลุ่มคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย เตรียมจัดคอนเสิร์ต ที่ตลาดสดอ้อมน้อย จังหวัดสมุทรสาคร ในวันที่ 1ส.ค. เพื่อนำรายได้ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็มีการตั้งข้อสังเกตหวาดระแวงไว้ก่อนล่วงหน้าเลย โดยระบุว่าการแสดงคอนเสิร์ตหรือไปปราศรัยเผยแพร่อุดมการณ์และแนวทางของพรรคนั้นทำได้ ตามปกติ แต่ถ้าไปยุยงให้คนเกลียดชังจนเกิดความแตกแยกกันถือว่าผิดกฎหมาย พร้อมกับย้ำว่า ก็ต้องจับตาดู เพราะพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มคนเสื้อแดงและผู้ที่ออกมาก่อเหตุรุนแรงนั้น มีความเชื่อมโยงกันอยู่ในบางระดับ ส่วนได้ประเมินว่าจะมีการปลุกระดมคนเสื้อแดงขึ้นมาอีกหรือไม่นั้น คิดว่าไม่ควรไปคาดการณ์ก่อน ต้องรอดูว่าเขาทำแล้วเป็นอย่างไร หากไปคาดการณ์ก่อน ก็จะกลายเป็นว่า ไปว่าเขาเปล่าๆ ในขณะที่พรรคเพื่อไทยเอง ก็คงไม่ยอมให้ทางฝ่ายประชาธิปัตย์เล่นเกมทางการเมืองเข้าใส่เพียงฝ่ายเดียว จึงได้มีการตอบโต้สวนกลับเช่นกัน อย่างกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พท. และแกนนำกลุ่มนปช. แถลงว่า ในสัปดาห์น้าจะยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาทต่อนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ในฐานะโฆษกประจำหัวหน้าปชป. กรณีใส่ร้ายว่าคนเสื้อแดงจัดฝึกกองกำลังติดอาวุธที่ซอย คู้บอน 53 เขตคันนายาว รวมถึงอ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา และอ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งวันนี้พิสูจน์ชัดแล้วว่าเป็นความเท็จ โดยขณะนี้ทนายความอยู่ระหว่างร่างคำฟ้องและรวบรวมหลักฐาน หากไม่ดำเนินการใดๆ เลย นายเทพไท จะไม่สำนึก สำหรับเรื่องวันที่ 1 สิงหาคม กลุ่มคนเสื้อแดงจะจัดคอนเสิร์ต ที่ตลาดสดอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร ซึ่งไม่ได้ประกาศใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉิน โดยจะมีศิลปินเสื้อแดงที่ไม่ถูกคุมขังเข้าร่วมพร้อมเพรียง ทุกคนจะแต่งเพลงสดุดีวีรชนคนละหนึ่งเพลง ส่วนกิจกรรมเป็นการร้องเพลงเท่านั้น นายจตุพรกล่าวว่า ถ้ารัฐบาลจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพิ่มในกรณีนี้ก็เชิญหาความสำราญตามสบาย จากนั้นจะเดินสายจัดในทุกจังหวัดที่ไม่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร้อมกันนี้จะจัดนิทรรศการเคลื่อนที่แสดงภาพบันทึกเหตุการณ์สลายการชุมนุมทั้งที่แยกราชประสงค์ ผ่านฟ้า บ่อนไก่ สามเหลี่ยมดินแดง และทุกที่ๆ มีพี่น้องประชาชนบาดเจ็บล้มตาย โดยจะนำรายได้ไปดูแลญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บต่อไป
1 สิงหา'จะกลายพันธุ์'