ที่มา บางกอกทูเดย์
จะมีประโยชน์อะไร...ถ้าหากความพยายามที่จะสร้างความสมานฉันท์...คือการทำสงครามแย่งมวลชนกันต่อไป
ในเมื่อ...การแย่งมวลชนกันต่างหากที่ทำให้คนในชาติเกิดความแตกแยกกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...การโหมกระหน่ำ ด้วยงบประมาณและใช้เครื่องมือสื่อสารของทางราชการ...ก็ไม่น่าจะต่างอะไรกับการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
เพราะในแง่ของข่าวแล้ว ประชาชนผู้เสพย์...จะเป็นฝ่ายกำหนดเองว่าเขาจะเชื่อใครฝ่ายใด...การประชาสัมพันธ์ฝ่ายเดียว ก็จะได้ผลเฉพาะในกลุ่มและฝ่ายตน...ในขณะที่ฝ่ายตรงกันข้ามก็จะเชื่ออย่างที่เขาอยากเชื่ออยู่ต่อไป
วันวานที่ผ่านมา...ตั้งแต่เสื้อเหลืองเริ่มต้น...รัฐบาลก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะปิดกั้น...แต่ก็ไร้ผล...ประชาชนเสพย์อรรถรสอย่างเต็มที่จากการโจมตีของ เอเอสทีวีและผู้จัดการ...
เช่นกันกับเมื่อเสื้อแดงเริ่มต้น...เขาก็เติบโตอย่างเต็มขนาด...
กล่าวได้ว่า..ทั้งจานเหลืองและจานแดง...เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว...ในช่วงเวลาดังกล่าว...เพราะการเข้ามาเสพย์สมของประดาประชาชน...และประชาชนต่างก็ปะปนกันไปมาทั้งเหลืองและแดง
อธิบายได้ว่า...ยิ่งให้ประชาชนฟังความข้างเดียวมากเท่าไหร่...ประชาชนก็จะไปเสพย์ข่าวอีกฝ่าย อย่างให้ความเชื่อถือมากขึ้น
ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า...ประชาชนคนอิหร่าน...ซุกซ่อนเทปและคำปราศรัยของอิหม่านโคมันนี่...ทั้งๆ ที่มีความผิดรุนแรง...ก่อนที่ความเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าพลิกดินจะปรากฏขึ้น
การสมานฉันท์...คือการหยิบเอาคน 2 ฝ่ายที่ขัดแย้งกัน...มานั่งคุยกัน...ไม่ใช่การล้างผลาญกันอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างที่ปรากฏอยู่
การสมานฉันท์...คือการคืนความเป็นกลางให้กับคู่ขัดแย้ง...แล้วกลับมาตบแต่งขึ้นรูปกันใหม่...
การสนามฉันท์...ก็คือการทำให้การได้เปรียบเสียเปรียบ...นั้นหมดไป...และการต่อสู้ทั้งหลายนั้น...เกิดจากความเหลื่อมล้ำระหว่างคน 2 ฝ่าย...
หยุดขยันในสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้น...กรรมการฝ่ายเดียวนั้น...หยุดสงครามไม่ได้