WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, July 15, 2010

จุดอ่อน-จุดแข็ง"ก่อแก้ว"สู้ศึกเลือกซ่อม

ที่มา ข่าวสด


รายงานพิเศษ




17-18 ก.ค. นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้เป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้าของการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 กทม.

พรรคเพื่อไทย โจมตีการเลือกตั้งล่วงหน้าจะเป็นช่องทางให้มีการทุจริตเกิดขึ้น

หวั่นว่าจำนวนคนใช้สิทธิ์ล่วงหน้าจะซ้ำรอยกับที่เขต 3 สกลนคร ในการเลือกตั้งซ่อมกลางปีที่แล้ว

ที่มีการขนคนไปลงคะแนนจนยอดผู้ใช้สิทธิ์ล่วงหน้าคึกคักผิดปกติ เพราะสูงถึง 21,060 คน

ครั้งนั้น แม้ที่สุดแล้วผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยจะได้รับชัยชนะไปในที่สุด

แต่สภาพที่สกลนคร ถือเป็นฐานเสียงเดิมของพรรคเพื่อไทย ต่างกับเขต 6 กทม.

ที่เป็นการต่อสู้ระหว่าง นายพนิช วิกิต เศรษฐ์ จากพรรคประชา ธิปัตย์ กับ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำนปช. ที่ลงสมัครในนามพรรค เพื่อไทย

เขต 6 กทม. ประกอบไปด้วย เขตคันนายาว คลองสามวา หนองจอก บึงกุ่ม

สภาพพื้นที่เป็นเมืองกึ่งชนบท ฐานเสียงจึงแบ่งเป็น 2 ส่วน ชนชั้นกลางนั้นส่วนใหญ่สนับ สนุนพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ระดับล่าง หรือรากหญ้า จำนวนมากยังเทใจให้กับพรรคเพื่อไทย

เมื่อเสียงสนับสนุนก้ำกึ่ง เสียง "ตรงกลาง" ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้นิยมชมชอบพรรคใดพรรคหนึ่ง จึงเป็นตัวแปรที่สำคัญ

ที่สำคัญกว่านั้น เสียงของกลุ่มนี้จะเปลี่ยนผันตามสถานการณ์

ประเมินจากการเลือกตั้งส.ข. ที่ผ่านมา การที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงแบบถล่มทลาย รวมทั้งส.ข.ในเขตบึงกุ่ม และคลองสามวา จากที่ไม่เคยได้

เป็นตัววัดได้ว่ากระแสพรรคประชาธิปัตย์ดีดขึ้น

การหาเสียงในช่วงเกือบ 20 วัน ผ่านมาเกินครึ่งทาง ทั้ง 2 พรรคประเมินว่า เสียงของนายพนิช กับ นายก่อแก้ว สูสีกันมาก

นั่นหมายความว่าสถานการณ์แพ้-ชนะ พร้อมจะพลิกได้ตลอดเวลา

และเมื่อเสียงตรงกลาง เป็นตัวแปร ขณะที่กระแสประชาธิปัตย์กระเตื้อง

ก็หมายถึง หากจำนวนผู้ใช้สิทธิ์มาก โอกาสชนะของพรรคประชาธิปัตย์ย่อมเป็นบวกตามไปด้วย

ดังนั้น จึงไม่ใช่แค่พรรคประชาธิปัตย์ที่หวั่นไหว กลัวคนจะออกมาใช้สิทธิ์น้อยเพราะวันเลือกตั้งจริง 25 ก.ค. เป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง 24-27 ก.ค.

พรรคเพื่อไทยเองก็ลุ้นเสียว ว่า เสียงตรงกลางจะออกฤทธิ์ จึงออกมาไล่ถล่มการเลือกตั้งล่วงหน้า

นอกจากนี้ การขยายตัวของเมืองที่เริ่มแผ่ขยายเข้ามาในเขตชานเมือง อย่างที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขต 6 ย่อมทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบ เพราะการเลือกตั้งของคนชั้นในกับชั้นนอกที่เคยแตกต่างกัน จะค่อยๆ ผสานกลมกลืนกันไป

ประเด็นเรื่องพื้นที่นี้ ข้อมูลจากพรรคเพื่อไทย ที่ได้จากการเลือกตั้งยังยืนยันว่าเขตหนองจอก คันนายาว คลองสามวา ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยยังเกาะกลุ่ม เพราะสภาพความเป็นอยู่ยังคงรูปแบบชนบทเป็นส่วนใหญ่

ขณะเดียวกัน เพื่อไทยยังมีเสียงหนุนจากผู้อยู่อาศัย หรือเจ้าของบ้านจัดสรรระดับกลางถึงล่าง ที่มีราคา 2-3 ล้านบาทลงมา

จะยอมเป็นรองพรรคประชาธิปัตย์ก็แค่เขตบึงกุ่ม ที่สัดส่วนผู้อยู่ใหม่/บ้านจัดสรร กับคนพื้นที่เป็น 55%-45%

ส่วนกระแสประชาธิปัตย์ในพื้นที่ พรรคเพื่อไทยก็แย้งว่าที่ต้องพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งส.ข. เพราะมีการเล่นตุกติก

มีการย้ายสถานที่เลือกตั้ง ส่งผลให้คะแนนเสียงของพรรคหายและไม่ได้เตรียมตั้งรับเรื่องนี้ไว้ก่อน เพราะคิดไม่ถึง

ดังนั้น ความได้เปรียบเรื่องพื้นที่และเสียงจัดตั้ง จึงยังพูดไม่ได้ว่าใครแข็ง ใครอ่อนกว่าใคร

แต่ปัจจัยที่กลายเป็นจุดด้อยของนายก่อแก้ว ที่รับรู้กันทั่วไปคือ เสียเปรียบในฐานะฝ่ายค้าน

ไม่ว่ายุคสมัยไหนเมื่อมีการเลือกตั้ง ผู้สมัครซีกรัฐบาลย่อมได้เปรียบเพราะมีกลไกรัฐ และอำนาจในมือ

พรรคประชาธิปัตย์นอกจากมีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว ยังมีศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)

นอกจากนี้ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งกุมอำนาจรัฐ หาเสียงและสร้างกระแสข่าวด้านกว้าง

นายพนิช ลงพื้นที่หาเสียง เน้นเคาะประตูบ้าน ต่อเนื่อง

แต่นายก่อแก้ว ต้องนอนคุก

จากที่หวังจะขอคะแนนสงสาร ลงสมัครแล้วจะลงพื้นที่หาเสียงอ้อนชาวบ้าน ร้านตลาด แต่ถึงวันจริงลงสมัครเสร็จก็ถูกนำตัวกลับเข้าเรือนจำ ทำได้แค่เขียนจดหมายขอความเห็นใจ

นอกจากนี้ จะเขียนจดหมาย หรืออัดเป็นเทปเสียง ให้พรรคเพื่อไทยไปเปิดหาเสียงก็ยังต้องรอขออนุญาตตามขั้นตอน

จนถึงวันนี้ก็ยังทำไม่ได้ ในขณะเหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 วัน ก็จะถึงวันเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม จุดนี้ นายก่อแก้ว อาจตีตื้นได้ด้วยคะแนนสงสาร ความเห็นอกเห็นใจว่าถูกรังแก

และใช่ว่าเพื่อไทยไม่สามารถส่งสารได้ ตรงกันข้ามพรรคเพื่อไทยรู้จักใช้สื่อ และเทคโนโลยีทันสมัยในการสื่อสารถึงประชาชนในพื้นที่ ทั้งวิทยุชุมชน อินเตอร์เน็ต อีเมล์ เอสเอ็มเอส

และที่ประมาทไม่ได้ ว่ากันว่า กลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่เขต 6 มีจำนวนมาก อาจถึง 50% จะเป็นตัวช่วยนายก่อแก้ว หาเสียงได้ทางหนึ่ง

ภาพของนายพนิช ที่เคยเป็นผู้ช่วยของนาย กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งตีตราเสื้อเหลืองชัดเจน

และยังมีผลงานในการไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

จะเป็นตัวกระตุ้นให้เสื้อแดงเดินหน้า

เป็นจุดอ่อน จุดแข็ง ที่ยากจะคาดเดาว่าฝ่ายไหนจะชนะศึกครั้งนี้

แต่หากไม่หวังผลแพ้ชนะ การส่งผู้สมัครครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีแต่ได้ ไม่มีเสีย

ได้มีเวทีปลุกเร้าเสื้อแดง และดิสเครดิตรัฐบาลจากเหตุการณ์กลียุค ช่วงเม.ย.-พ.ค.

หากแพ้ก็บอกว่าแพ้อำนาจรัฐ

แต่หากชนะ นี่คือข้ออ้างอย่างดีในการสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายตัวเอง

และบอกว่าประชาชนไม่เอาด้วยกับรัฐบาลมือเปื้อนเลือด

เพราะค่าตอบแทนมากกว่าจำนวนส.ส. ที่เพิ่มขึ้น

เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้าย ศึกครั้งนี้น่าจะดุเดือด!!