WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, July 17, 2010

แฉทุจริต

ที่มา ข่าวสด


คอลัมน์ เหล็กใน




ไม่ธรรมดาแน่นอนที่ภาคเอกชนอดรนทนไม่ไหว ต้องออกมาแฉปัญหาการทุจริต

เพราะตามปกติแล้วเอกชนได้แต่ก้มหน้าก้มตา จ่ายทั้งบนโต๊ะ-ใต้โต๊ะ เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ

ยิ่งกับกลุ่มราชการ หรือนักการเมือง เอกชนต้องยอม"เป็นใบ้-ตาบอด" ไม่รู้ไม่เห็นใดๆ ทั้งสิ้น

จึงเมื่อนายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ออกมาระบุว่าเมืองไทยยามนี้มีปัญหาคอร์รัปชั่นระดับ 30-40%

จากในอดีตที่โกงกินหรือหักค่าหัวคิว 3-5% เท่านั้น

และยิ่งน่ากลัวเมื่อคาดการณ์ว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ยอดเงินคอร์รัปชั่นน่าจะพุ่งไปถึง 50%

มีการยกตัวอย่างงบประมาณแผ่นดินปีละ 3-4 แสนล้านบาท ในห้วงเวลานี้เข้ากระเป๋าคนโกงไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท

การออกมาแบบนี้ต้องถือว่าขีดความอดทนถึงที่สุดแล้ว

เชื่อว่านี่มิใช่การกล่าวอ้างอย่างลอยๆ เพราะหากดูความเป็นไปของรัฐบาลที่ผ่านมาจักพบว่ามีเสียงครหาเรื่องคอร์รัปชั่นอย่างมากมาย

อย่างโครงการไทยเข้มแข็ง และโครงการโน้นโครงการนี้ นักการเมืองและข้าราชการประจำอิ่มหมีพีมันไปตามๆ กัน

ยังไม่นับอีกหลายโครงการที่ถูกจับไต๋ได้ก่อนจึงต้องยุติไป(ชั่วคราว) อาทิ โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ที่ถูกขนานนามว่าเป็นโครงการรถเมล์ฝังเพชร เพราะค่าเช่าแพงรากเลือด

ล่าสุดปลุกผีเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นมาอีกรอบ

เขื่อนนี้ในทางความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับทรัพยากร และการทำลายระบบนิเวศก็ไม่คุ้มอยู่แล้ว บวกกับปัญหาเรื่องผลประโยชน์การประมูล หรือไม้ใหญ่ที่จะถูกตัด

ว่ากันว่าหากผลักดันได้จริง จะมีนักการเมืองร่ำรวยอีกมหาศาล

การออกโรงของภาคเอกชนที่กระทุ้งรัฐบาลให้หันมาใส่ใจปัญหาการคอร์รัปชั่น จึงเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมและสนับสนุนอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะแนวคิดให้นายนันเดอร์ วอน เดอลูว์ ประธานหอการค้าต่างประเทศในไทย รับผิดชอบในเรื่องการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น เพราะมองว่าฝรั่งน่าจะกล้าพูดมากกว่าคนไทย

และหากข้อมูลออกมาตอกหน้าแงรัฐบาล อย่างน้อยก็ได้รับผลกระทบไม่มากเท่าเอกชนไทย

เหมือนหลายๆ กรณีที่ใครก็ตามซึ่งอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล หรือแสดงออกไม่ถูกใจ มักจะโดนเล่นงานไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

ขนาดเด็กๆ อย่าง "มาร์ค วี11" ผู้เข้าประกวดบ้านเอเอฟ ที่สุดท้ายถูกกดดันจนต้องถอนตัวและกล่าวขอโทษ หลังเขียนข้อความแสดงความไม่พอใจนายกฯ กรณีสลายม็อบ และต้องการให้ยุบสภา

โครงการแฉทุจริตคอร์รัปชั่นนี้ถือว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง หากรัฐบาลใจกว้างพอและนำข้อมูลที่ได้ไปปรับแก้จะเป็นประโยชน์กับตัวเองและประเทศชาติอย่างมหาศาล

ว่าแต่ว่ารัฐบาลจะใจกว้างพอหรือเปล่า!?