ที่มา ประชาไท
27 ม.ค.54 ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานอัยการได้ส่งฟ้องคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด เป็นจำเลยในข้อหา มั่วสุมทางการเมืองเกิน 5 คน กีดขวางทางจราจร และ ก่อความไม่สงบแก่ประชาชน ในพื้นที่ซึ่งมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งศาลได้รับฟ้องและนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 18 มี.ค.54 เวลา 9.00 น.
ทั้งนี้ ในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาในชั้นสอบสวนระบุว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 เวลา 13.50 น. ผู้ต้องหาได้ปราศรัยอยู่บนเวทีชั่วคราวใต้ทางด่วนดินแดง ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง มีการจุดไฟเผายางรถยนต์ให้เกิดควันไฟบดบังวิสัยทัศน์ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
นายสมบัติ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนโดนฟ้องในคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินรวมแล้ว 2 คดี ก่อนหน้านี้คือกรณีที่นัดหมายประชาชนประมาณ 80 คนไปรวมตัวกันที่บริเวณสวนหย่อมถนนเลียบทางด่วน ลาดพร้าว 71 เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกัน ไม่มีการใช้เครื่องขยายเสียงใดๆ แต่เจ้าหน้าที่ถือว่าเป็นการชุมนุมกันเกิน 5 คน ส่วนกรณีนี้คือการตั้งเวทีชั่วคราวใต้ทางด่วนดินแดงในสถานการณ์ซึ่งมีการปราบปรามประชาชนเสียชีวิตไปแล้วเป็นจำนวนมาก จึงได้จัดกิจกรรม “เปลือยเพื่อชีวิต” บริเวณนั้นเพื่อสื่อสารให้ทหารหยุดยิงและสื่อว่าประชาชนไม่มีอาวุธ มีคนร่วมกิจกรรมประมาณ 40-50 คน อย่างไรก็ตาม จากกิจกรรมนั้นตนถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว คาดว่าเป็นเพราะรัฐบาลต้องการจะหยุดการเคลื่อนไหว การทำกิจกรรมของตนด้วยคดีความ ให้เกิดความหวาดกลัวหรือหวั่นไหว ซึ่งไม่เป็นผล
นอกจากนี้นายสมบัติตอบคำถามเรื่องกระแสข่าวการรัฐประหารที่เริ่มมีขึ้นในช่วงนี้ด้วยว่า การรัฐประหารดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ยังเกิดขึ้นได้ แต่หากเกิดรัฐประหารในครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของประเทศไทย เพราะจะต้องเผชิญกับคลื่นมวลชนมหาศาลที่จะไม่ยอมรับการรัฐประหารโดยเด็ดขาด และไม่เฉพาะในหมู่คนเสื้อแดงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าความขัดแย้งของประชาชนสองสีจะไม่ใช่เงื่อนไขสำคัญ ต่อให้โกรธกันขนาดไหนก็ไม่มีทางเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นได้ เพราะพื้นฐานของสังคมไทยไม่เอื้อต่อความรุนแรงในระดับนั้น