WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, September 11, 2011

สืบพยานโจทก์คดีผอ.ประชาไท เผยผู้ว่าเชียงใหม่แจ้งเบาะแสข้อความหมิ่นฯ

ที่มา ประชาไท

สอบพยานฝ่ายโจทก์วันสุดท้าย พล.ต.ท.บุญเลิศ กัลยาณมิตร เจ้าหน้าที่กองปราบปรามฯ เผย ได้รับแจ้งเบาะแสข้อความหมิ่นในเว็บไซต์ประชาไทดอทคอม จาก ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล เมื่อสามปีก่อน พร้อมยืนยัน การดำเนินคดีทำตามหน้าที่ มิได้หวังผลทางการเมือง

9 ก.ย. 54 – เวลา 9.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 910 ศาลอาญา รัชดา ศาลออกนั่งบัลลังก์สืบพยานโจทก์ คดีหมายเลขดํา อ.1167/2553 ที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนางสาวจีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการและผู้ดูแลเว็บบอร์ดประชาไท เป็นจำเลยในความผิดตามมาตรา 14 และ 15 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กรณีมีผู้โพสต์ข้อความในเว็บบอร์ดที่เข้าข่ายขัดต่อกฎหมายดังกล่าว

จากการสอบพยานโจทก์ปากสุดท้าย พล.ต.ท. บุญเลิศ กัลยาณมิตร พนักงานสอบสวน กองกับกำการ 5 จากกองบังคับการปราบปราม ผู้เป็นพนักงานเจ้าของคดี เบิกความว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับแจ้งเบาะแสจากหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2551 ว่าเว็บบอร์ดของเว็บไซต์ประชาไท มีข้อความหมิ่นเบื้องสูง

ทั้งนี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับ 10 (ชช.) ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ปัจจุบัน ม.ล.ปนัดดา เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

ต่อมา พยานได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่สืบสวนจากกระทรวงเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ (กระทรวงไอซีที) ว่ามีลิงก์ยูอาร์แอลจำนวนหลายร้อยแห่งที่มีข้อความหมิ่นเบื้องสูง จากการตรวจสอบ พบว่า มีข้อความดังกล่าวอยู่ในเว็บบอร์ดของเว็บไซต์ประชาไทจำนวน 9 แห่ง

จากการสอบพยาน พล.ต.ท.บุญเลิศยอมรับว่า นางสาวจีรนุช เปรมชัยพร ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี โดยให้ไอพีแอดเดรสของผู้ที่โพสต์ข้อความหมิ่นแก่เจ้าหน้าที่สอบสวน และได้ลบข้อความที่หมิ่นเบื้องสูงออก ตามที่ได้รับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่กองปราบปรามฯ ในทันที อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่า การที่ข้อความดังกล่าวอยู่ในเว็บไซต์ของประชาไทดอทคอม เป็นเวลา 11 วัน ถือว่ามีเจตนาตรงกับการกระทำความผิดที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

หลังการสอบพยานเสร็จสิ้น พล.ต.ท.บุญเลิศ กัลยาณมิตร เปิดเผยถึงสาเหตุที่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล มิได้มาให้การเป็นพยานในชั้นสอบสวนและชั้นศาลว่า ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล เพียงแค่แจ้งเบาะแสการกระทำผิดแก่ตำรวจเท่านั้น แต่มิได้ยื่นเอกสารฟ้องอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

นอกจากนี้ เขาระบุว่า ไม่ได้มีใครอยากทำคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือกฎหมายอาญามาตรา 112 พร้อมยืนยันว่า การดำเนินคดีกับ น.ส.จีรนุช ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองเรื่องสีหรือฝ่าย และไม่ได้เลือกปฏิบัติแต่อย่างใด เพียงแต่ดำเนินการตามความผิดที่บัญญัติไว้ตามกฎหมายเท่านั้น

อนึ่ง ในวันที่ 20-21 ก.ย. 2554 ศาลนัดสืบพยานฝ่ายจำเลยและจำเลย ทั้งหมดรวม 3 ปาก โดยในวันที่ 20 ก.ย. จะมีการเบิกความ นายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ประชาไทดอทคอม และ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการมูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาชุมชน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ส่วนในวันที่ 21 ก.ย. จะเบิกความนางสาวจีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไท และจำเลยในคดีดังกล่าว

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐

มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบาง ส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
(๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความ ตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการ ก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑)(๒)(๓) หรือ (๔)

มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔