ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
สมิงสามผลัด
ต้องยอมรับว่าการปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายที่ดีที่สุดของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
การขับเคลื่อนต่างๆ เป็นรูปธรรม บูรณาการ และนิติธรรม
ไม่ใช่ทำกันแบบไฟไหม้ฟาง
นายกฯ ยิ่งลักษณ์เพิ่งเปิดปฏิบัติการวาระแห่งชาติ "ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด" ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นอกจากตำรวจแล้ว ยังดึงทหาร และหน่วยงานต่างๆ เข้ามาร่วมปฏิบัติการด้วย
ตั้งเป้าลดยาเสพติดให้ได้ 80 เปอร์เซ็นต์ใน 1 ปี
มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ซึ่งคุมงานตำรวจ เป็นผอ.ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะ ยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.)
ภาพของร.ต.อ.เฉลิมถึงแม้จะดูเอะอะเสียงดัง แต่ในฐานะที่เป็นตำรวจเก่า บอกได้เลยว่าเป็นงานถนัด
ยิ่งได้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เป็นว่าที่ผบ.ตร. ก็ยิ่งเหมาะ
เพราะมีผลงานโดดเด่นด้านการปราบปรามยาเสพติด
ยัง มี พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.มือปราบ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. มือสอบสวน กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา สบ 10 มาร่วมทีมก็ยิ่งเดินหน้าไปอย่างสบาย
ล่าสุดรัฐบาลยังขอตัว พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร.ไปช่วยงานปราบยาเสพติด ในฐานะเลขาธิการป.ป.ส.
ยิ่งทำให้งานสอดประสานกันอย่างดี
โดยงานเร่งด่วนตอนนี้คือการ "สกัดกั้น-จับกุม"
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ตั้งชุดฉก.ของตชด. 18 ชุดลุยสกัดการลักลอบนำยาเสพติดข้ามชายแดนใน 3 จังหวัดภาคเหนือ
ซึ่งก็ได้ผล เพราะว่าช่วงเวลาแค่ 2 สัปดาห์ จับกุมยาบ้าเกือบ 3 ล้านเม็ด เฮโรอีน-ยาไอซ์อีกมหึมา
และตามมาติดๆ ด้วยนโยบาย "ยึดทรัพย์" ขบวนการยาเสพติด
แต่ที่สำคัญที่สุดคือการ "การบำบัด" ผู้เสพและ ผู้ติดยาให้กลับเป็นคนดีของสังคม
ต้องถือว่าผู้เสพและผู้ติดยาเปรียบเหมือนคนไข้และผู้ป่วย หลังบำบัดแล้วก็ต้องสร้างอาชีพใหม่ให้คนกลุ่มนี้
ไม่ให้หันกลับไปพึ่งยาเสพติดอีก
พอย้อนไปดูสถิติปัญหายาเสพติด จะเห็นได้ชัดว่ากลับมาระบาดหนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา !?
เปรียบเทียบจากปี 50 มีผู้ที่เกี่ยวข้องเพียง 409,000 คน แต่ในปีนี้มีถึง 1,386,000 คน
เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก มีคนติดยาเพิ่มขึ้นกว่า 8 แสนคน
หมู่บ้านเสี่ยงก็เพิ่มจาก 6 หมื่น เป็น 8 หมื่นหมู่บ้าน
นี่คือเหตุผลว่าทำไมต้องทำให้เป็นวาระแห่งชาติ