WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, September 13, 2011

"เหลิม" สไตล์

ที่มา มติชน



โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 11 กันยายน 2554)


เมื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งว่าที่จริงจะถูกต้องกว่า หากบอกว่า "คนชินวัตร" แสดงอาการ "รักจัดหนัก" ให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ขณะที่ ลูกชาย "วัน อยู่บำรุง" ได้เป็น ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

ส่วนคนใกล้ชิดก็มีเก้าอี้ใหญ่โตในกระทรวงมหาดไทย

ร.ต.อ.เฉลิมในวันนี้ จึง "ใหญ่บึ้ม"

และเป็นธรรมดาเมื่อได้รับจัดหนักแบบนี้ ร.ต.อ.เฉลิมก็มีหน้าที่ต้อง "จัดให้" คืน

ตามสไตล์ "เฉลิม" เมื่อต้อง "จัดให้" คืน รับประกันได้เลยว่าต้อง "แรง" ถึงใจ

ไม่ว่า การเล่นบทองครักษ์พิทักษ์ "เธอ" ในสภา

ไม่ว่า การฉวยจังหวะคืนชีพให้กับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ พร้อมตำแหน่ง ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่างรวดเร็ว เกินคาด

ไม่ว่า การสวมบทดอกเตอร์ทางกฎหมาย ช่วยอรรถาธิบายและชี้ช่องการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ไม่ ว่า การชี้แนะให้รื้อฟื้นการพิจารณาคดีจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ ขึ้นมาใหม่ ด้วยเหตุที่ศาลแพ่งชี้ว่า สัญญาการซื้อขายเป็นโมฆะ ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่ควรมีความผิดถูกจำคุก 2 ปี

เร็ว-ร้อน-แรง แบบที่รัฐมนตรีคนไหนก็ไม่อาจเทียบเคียงได้

ร.ต.อ.เฉลิมยึดพื้นที่ข่าวได้เหนือใครๆ ซึ่งอาจรวมทั้ง นายกรัฐมนตรีหญิง "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ด้วย

แต่ก็นั่นแหละ ภาวะ "เร็ว-ร้อน-แรง" จากทั้ง "ปากและการกระทำ" ของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ใช่จะมีแต่ด้าน "บวก"

หากแต่มีด้าน "ลบ" พ่วงมาด้วย

การให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนแอบหลังในสภา แม้จะดูปลอดภัย แต่ก็ฉุดภาพความเป็น "ผู้นำ" ของนายกรัฐมนตรีหญิง ให้ด้อยไปอย่างมาก

และยิ่งเมื่อต้องอ้อมๆ แอ้มๆ กับความไม่สุกงอมของนโยบาย ที่มีปัญหาเมื่อแปรไปสู่การปฏิบัติด้วยแล้ว

ไม่ถึงเดือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกปรามาสไปเรียบร้อยแล้วว่า "ดีแต่โม้" "บาร์บี้" "ไม่ใช่ของจริง" ฯลฯ

สภาวะแบบนี้ ถึงจะมีองครักษ์เข้มแข็งอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์

ส่วนเรื่อง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ เรื่องรื้อฟื้นคดี เสียงวิจารณ์ ทำสนองคุณ "ชินวัตร" ก็กระหึ่ม

และเรียกแขกได้กว้างขวาง

ในฟากข้าราชการประจำ ก็ได้เห็นการสู้ของนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกย้ายจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ

ในทางการเมือง ขบวนการ "ต้านทักษิณ" อยู่ๆ ก็เหมือนได้เงื่อนไขพิเศษ และมีเหตุผลที่จะออกมาต่อต้านรัฐบาลปูจ๋าอย่างเร็วเกินคาดด้วย

นี่คือ "ผลด้านลบ" ที่ยากจะปฏิเสธ

และ แน่นอน ทำให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เผชิญคำถามที่หนักหน่วงและตอบยากโดยเฉพาะการไม่สามารถทำตามนโยบายที่รับปาก ไว้ แต่กลับขะมักเขม้นทำเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไม่เกรงใจใคร

ส่วนตัวของ ร.ต.อ.เฉลิมเองนั้น ก็ใช่จะมีต้นทุนทางการเมือง "สูง" เท่าใดนัก

เมื่อมีอำนาจ "ล้นฟ้า"

ประกอบกับคำพูดคำจา และท่าทีอันแข็งกร้าว ล้วนแต่ก่อศัตรูได้ทั้งสิ้น

จำต้องระมัดระวังตัวอย่างสูง

การหลงอยู่ในวังวน "อำนาจ" อาจทำให้บทเรียนเก่าๆ สมัย ที่ ร.ต.อ.เฉลิมดูแลนาย คือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ กลับมาหลอกหลอนอีก

ต้องไม่ลืมว่าในตอนนั้น ร.ต.อ.เฉลิมคือ "สายล่อฟ้า" ใหญ่อันหนึ่ง ที่ทำให้สถานการณ์รัฐบาล พล.อ.ชาติชาย เลวร้ายลงและนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร

การต้องเป็น "ผู้ลี้ภัย" เจ็บปวดเพียงใด ร.ต.อ.เฉลิมน่าจะรู้ดีกว่าใครอื่น

บทเรียนเช่นนั้นไม่ควรกลับมาอีก

"รักจัดหนัก เฉลิมจัดให้" จึงต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง สมดุล สุขุม รอบคอบ รัดกุม อย่างที่สุด

ไม่เช่นนั้นมีสิทธิ "พัง"