ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
สถานการณ์ตอนนี้สรุปว่า
คนกรุงเทพฯ ต้องได้รับผลกระทบจาก "อภิมหาอุทกภัย" ครั้งนี้แน่นอน
เมื่อเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่จึงเป็นเรื่องของการผ่อนหนักเป็นเบา
ซึ่งจากการติดตามข่าวสารช่วงที่ผ่านมาพอจะเห็นภาพรวมแผนการแก้ปัญหาของรัฐบาล ซึ่งผู้เชี่ยวชาญดูแล้วเชื่อว่าน่าจะได้ผล
คร่าวๆ คือการแบ่งก้อนน้ำมหึมาหลายพันล้านลบ.ม.ที่มา "อั้น" อยู่บริเวณตอนเหนือกรุงเทพฯ เป็นสองส่วนเพื่อแยกระบายลงอ่าวไทย
ส่วนหนึ่งใช้วิธีบริหารจัดการผ่านการสร้างคันกั้น รูปขั้นบันได ค่อยๆ เบี่ยงน้ำไปทางตะวันออกของกรุงเทพฯ
พื้นที่ได้รับผลกระทบกรณีนี้คือ เขตหนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง รวมถึงจ.นครนายก และฉะเชิงเทรา
อีก ส่วนใช้วิธีบริหารผ่านการปิด-เปิดประตูคลองต่างๆ ของกรุงเทพมหานครที่เชื่อมต่อเจ้าพระยา เพื่อให้น้ำไหลออกทะเลบริเวณ จ.สมุทร ปราการ
โดยมีแม่น้ำท่าจีน จ.นครปฐม ช่วยแบ่งเบาตรงนี้ส่วนหนึ่ง
แต่ก่อนไปถึงจุดนั้นพื้นที่ได้รับผลกระทบจะเป็นฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ คือ จ.นนทบุรี นครปฐม และฝั่งธนบุรี
โดยเฉพาะเขตภาษีเจริญ ตลิ่งชัน บางกอกใหญ่ บางกอกน้อยซึ่งอยู่ติดเจ้าพระยา จะถูกน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมมากกว่าเขตที่อยู่กระเถิบออกมา
คาดกันว่าอีกราว 5-6 วันปัญหาจะไปกองอยู่เขตฝั่งธนฯ (ไม่รู้จะมีใครบอกว่าฝั่งธนฯ ไม่อยู่ในความรับผิดชอบของกทม.อีกหรือเปล่า-ไม่ฮา)
อย่าง ไรก็ตาม ปริมาณน้ำก้อนใหญ่ที่ไม่สามารถ แยกจากกันได้เด็ดขาดทำให้มีมวลน้ำอีกจำนวนหนึ่งทะลักเข้าตอนเหนือ ของกรุงเทพฯ เช่น เขตดอนเมือง สายไหม อย่างที่เห็น เป็นต้น
ตรงนี้จะบริหารจัดการผ่านเครื่องสูบน้ำ
นอก จากนี้ยังมีสิ่งที่รัฐบาลต้องเข้มงวดคือ การเฝ้าระวังคันกั้นจุดสำคัญต่างๆ ไม่ให้รั่วซึมหรือพังลงมาไม่ว่าด้วย "แรงน้ำ" หรือ "แรงมนุษย์"
และที่ต้องจัดการให้เด็ดขาดก็คือบางคนที่ยังคอยกระตุกแข้งกระตุกขารัฐบาล
ดัง นั้น การที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ "โชว์พาว" ใช้มาตรา 31 แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสา ธารณภัย สั่งสอนพวกจ้องเล่นการเมืองโดยไม่รู้จัก เวล่ำเวลา
จึงเป็นสิ่งสมควรทำ
ให้รู้กันไปเลยว่าใครคือ "ผู้นำประเทศ" ตัวจริง ไม่ใช่แค่ผู้นำท้องถิ่นดาดๆ