ที่มา มติชน
รับชมข่าว VDO
หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนหยัดสู้กับมหาวิกฤตน้ำท่วม มากกว่า 1 เดือน
ภาพของนายกฯ ผ่านสายตานักข่าว ดูอิดโรยและอ่อนล้า ยิ่งความเสียหายถาโถม ยิ่งทำให้นายกฯเครียดมากขึ้น
คำถามที่มักถามนายกฯก็คือ ท้อไหม !!!
เช่นเดียวกับเหตุการณ์เมื่อเช้าวันที่ 27 ตุลาคม เวลา 09.00 น. ณ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมทีมงาน ในหลายประเด็น
เริ่มจาก ประเด็นไฟฟ้าที่ท่าอากาศยานดอนเมืองดับ ภายหลังมีน้ำเอ่อเข้าไปยังหม้อแปลง
นายกฯ ตอบว่า ยังไม่คิดเรื่องย้าย ศปภ. จะพิจารณาเป็นเรื่องหลังสุด เพราะยังมีหน้าที่ต้องทำอยู่ กรณีหม้อแปลงไฟฟ้าดับเป็นเรื่องปกติเพราะอาจมีน้ำเข้าไปบ้าง แต่เชื่อว่าภายในวันนี้ (27 ต.ค.) เจ้าหน้าที่จะซ่อมสำเร็จ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย ขอดูแลประชาชนให้เรียบร้อยก่อน เพราะหากศปภ.ไปย้ายก่อนตนจะไม่สบายใจ
เมื่อถามว่าแปลว่าย้ายผู้อพยพเสร็จอาจจะย้ายศปภ. น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องดูอีกทีโดยประเมินเรื่องการเดินทางของเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนได้สั่งการให้ตำรวจไปดูเรื่องจุดจอดรถรวมถึงสถานที่พักใกล้เคียง ตนไม่อยากให้เกิดลักษณะเป็นการตื่นแล้วรีบย้ายสถานที่เพราะศปภ.ได้เซ็ตระบบ ต่างๆไว้ จึงไม่อยากให้เกิดการติดขัด
รับกรุงเทพวิกฤตแล้ว
เมื่อถามว่ารมว.กลาโหมเสนอให้ย้ายไปที่สโมสรกองทัพบกถนนวิภาวดีรังสิต แทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตัวตึกที่โน่นก็อยู่ได้ที่นี่ก็อยู๋ได้ แต่ตนเป็นห่วงเรื่องการเดินทาง ที่รมว.กลาโหมเสนอก็เป็นสถานที่ที่ดีแต่สุดท้ายก็จะเจอน้ำเหมือนกันจึงไม่ ต่างจากที่นี่ แต่ยืนยันว่าไม่ไปที่จ.ขลบุรี ที่ไปมีแต่ศูนย์พักพิง
เมื่อถามว่ากทม.เข้าสู่ขั้นวิกฤตจริงๆแล้วใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นอย่างนั้น เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำคือการฝืนธรรมชาติของน้ำ ต้องสู้กับทั้งน้ำ คันกั้นน้ำ และมวลชน ซึ่งต้องขอความเห็นใจ เพราะไม่อยากใช้กฎหมายกับมวลชน และทุกคนก็ทรมานด้วยกัน ควรจะมาช่วยกันทำให้น้ำไหลลงทะเลให้เร็วที่สุด ที่ผ่านมา รัฐบาลก็พยายามหลายวิธี อย่างวันนี้ (27 ต.ค.) ก็มีการนำเข้ากระสอบทรายความยาว 1 กิโลเมตร แต่ยอมรับว่ามีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้มาก
จมน้ำสูง/ต่ำไม่เท่ากัน-คาดแช่เป็นเดือน
เมื่อถามว่ายอมรับน้ำท่วมจะทุกพื้นที่ในกทม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงจะใช่แต่ระดับน้ำจะสูง-ต่ำไม่เท่ากัน ที่อยู่ใกล้เครื่องระบายน้ำคงจะไม่นานคงจะสูบออกได้ ปัญหาคือน้ำไม่ได้ไหลลงคลองมากพอจึงต้องใช้เครื่องผลักดันน้ำช่วย วันนี้การระบายน้ำทางตะวันออกทำได้ดีขึ้นเยอะ แล้วน้ำก็เริ่มลงคลองแสนแสบแล้ว เมื่อถามว่าประเมินว่าจะท่วมกทม.นานเท่าใด น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “บางพื้นที่อาจจะเป็นเดือน บางพื้นที่อาจจะเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเครื่องสูบน้ำ ซึ่งระบบสูบน้ำจะต้องหารือกับกทม.ในการเร่งระบายน้ำ ขอกราบเรียนประชาชนว่า เราต้องขอกำลังใจให้กันและกัน เพราะเจ้าหน้าที่สู้กับน้ำมาหลายเดือนแล้ว และปัญหาเรื่องการควบคุมบางครั้งไม่ได้มีปัจจัยจากศปภ.ทั้งหมด ดิฉันก็เห็นใจทุกคนโดยเฉพาะพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรมในฐานะผู้อำนวยการศปภ.ที่ทำงานจนแทบไม่ได้นาน”
วอนขาวบ้านอย่าลุกฮือ แจงทำดีสุดแล้ว
เมื่อถามว่ากลัวคนไม่พอใจการทำงานศปภ.จนลุกฮือขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลหรือ ไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อยากจะขอความเห็นใจ เพราะศปภ.มีเจ้าหน้าที่น้อย บางคนยังไปเป็นผู้ประสบภัย ศปภ.เกิดขึ้นอย่างฉุกละหุกเพราะประชุมวันเดียวแล้วก็จัดตั้งเลย ทั้งที่ศูนย์ลักษณะนี้ควรจะใช้เวลาจัดตั้งเป็นเดือน ที่สำคัญยังเป็นการนำหน่วยงานต่างๆมาร่วมกันทำงานอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมา ก่อน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน แน่นอนว่าความเข้าใจไม่ตรงกันจะต้องมี ที่สำคัญมีอยู่ศูนย์เดียวแต่ต้องทำทั้งป้องกัน ดูแล และฟื้นฟูด้วย จึงอยากขอความเห็นใจด้วย
เมื่อถามว่าการเตรียมตั้งศูนย์อพยพในจังหวัดใกล้เคียงไว้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า มีทั้งในจ.ลพบุรี ที่รองรับได้ 5 พันคน รวมถึง จ.ชลบุรีและอีกหลายจังหวัด ศูนย์พร้อม แต่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ เพราะศูนย์ใกล้กทม.มีคนใช้หมดแล้ว จึงขอความกรุณาให้ประชาชนที่มีภูมิลำเนาต่างจังหวัด ไปใช้ศูนย์ต่างจังหวัด
ยันยังดูแลคนอีสานอยู่ ไม่ได้ทอดทิ้ง
เมื่อถามว่านักวิชาการเสนอให้ใช้ถนนวิภาวดีรังสิตเป็นทางผ่านของน้ำไปลง อุโมงค์ยักษ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า กทม.เคยหารือถึงเรื่องนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะช่วยได้ เพราะเวลานี้สิ่งที่ศปภ.และกทม.จะทำร่วมกันคือระบายน้ำไปยังฝั่งตะวันออก ส่วนฝั่งตะวันตกก็พยายามอยู่แต่น้ำยังไปยากอยู่ คงจะเป็น 2 ทางที่ทำ
เมื่อถามว่าหลายพื้นที่ในภาคอีสานประสบปัญหาน้ำท่วมเช่นกันจะทำอย่างไร ให้รู้สึกว่าไม่ได้ถูกทอดทิ้งดูแลเฉพาะกทม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เวลานี้รัฐบาลกำลังป้องกันน้ำ แต่ตนจะบอกตลอดว่า อย่าลืมคนต่างจังหวัดอีก 3 ล้านคนที่ประสบภัยน้ำท่วมเช่นกัน ทั้งพื้นที่ที่น้ำลดแล้วก็เร่งฟื้นฟู ส่วนพื้นที่ที่น้ำท่วมขังแล้วให้เร่งดูแล ประชาชนที่อยู่ตามบ้านอาจจะไม่สะดวกเหมือนเดิม เรื่องสินค้าที่จะให้กลับมาขายก็จะมีเฉพาะสินค้าที่จำเป็น สินค้าอื่นๆอาจจะไม่มีขายเหมือนเดิม เพราะยังติดอยู่ในศูนย์กระจายสินค้าที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
น้ำตาคลอ-ย้ำ2หน “ไม่ท้อค่ะ”
เมื่อถามว่าอยากจะบอกประชาชนถึงความอัดอั้นในใจอะไรหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์น้ำตาซึมออกมาพร้อมกระพริบตาถี่ๆ ก่อนกล่าวว่า “ก็ ...เราเอง กราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า เรามีเจตนาดี (เสียงสั่นเครือ) และมีความตั้งใจ (เงียบไปพักหนึ่ง) ไม่ท้อค่ะ!”
เมื่อถามว่านายกฯร้องไห้บ่อยแค่ไหนตั้งแต่เกิดวิกฤตน้ำท่วม น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ไม่ได้ร้องไห้เลย ที่มีภาพออกมาเป็นจังหวะ แต่ไม่เคยร้องไห้ เพราะตนอยู่ตรงนี้ ต้องเข้มแข็ง ยืนยิ้มรับไม่ท้อค่ะ (เสียงดัง)” เมื่อถามว่ายิ้มทั้งน้ำตา น.ส.ยิ่งลักษณ์หัวเราะ
เมื่อถามว่าในช่วงวิกฤตของจริงจะมีมาตรการพิเศษอะไรออกมาเพิ่มเติมหรือ ไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังตอบเสียงสั่นว่า การป้องกันคงทำได้ยาก เพราะเพื่อนบ้านทั้งกัมพูชา เวียดนาม ลาว ก็เจอเหมือนเราหมด เท่าที่คุยกับต่างชาติก็ยอมรับว่าเป็นภัยธรรมชาติที่ยากจะควบคุมได้ มาตรการที่รัฐบาลจะออกคงเป็นเรื่องการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน ตั้งแต่คุยว่าจะใช้เครื่องสูบน้ำเท่าไร เพราะการกู้นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องใช้เป็นพันตัวซึ่งในประเทศมีไม่พอจำเป็นต้องนำเข้า อย่างที่จีนก็ยังหายากแล้ว จึงต้องสั่งไว้ล่วงหน้า นี่คือตัวอย่างในการเตรียมแผนฟื้นฟูล่วงหน้า