WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, November 29, 2011

สืบพยานโจทย์นัดแรก คดีเสื้อแดงปิดถนนลำพูนเมื่อปี 52

ที่มา ประชาไท

28 พ.ย. 54 – เวลา 13.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดลำพูน มีการสืบพยานโจทก์ 4 ปากแรก ที่พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ได้ส่งฟ้องตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.1970/2554 โดยคำฟ้องระบุว่าจำเลยคือนายจักรพันธ์ บริรักษ์ หรือ ดีเจหนึ่ง อดีตนักจัดรายการวิทยุประจำคลื่นรักเชียงใหม่ 51 FM 92.5 MHz ได้กระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา "ชักชวน ปลุกปั่น ยุยง ให้ประชาชนที่รับฟังรายการไปร่วมกันปิดกั้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 สายเชียงใหม่-ลำปาง บริเวณแยกดอยติ อันเป็นการกระทำเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 จนเกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร โดยที่ประชาชนที่ไม่ได้เข้าร่วมชุมนุมไม่อาจสัญจรไปมาได้ตามปกติ และอาจเกิดอันตรายหรือเสียหายแก่ยานพาหนะของประชาชนที่ใช้ทางหลวงดังกล่าว ทั้งนี้ โดยมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดง ความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต" ซึ่งความผิดตาม ม.116 นี้มีระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี (อ่านเพิ่มเติม: อัยการส่งฟ้องคดีเสื้อแดง "ดีเจหนึ่ง" ข้อหาปลุกปั่นฯ คดีเก่าปี 52)

โดยพยาน 4 ปากแรกเป็น เจ้าหน้าที่ขนส่ง, เจ้าหน้าที่การรถไฟ, อดีตกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ในท้องที่ จ.ลำพูน ได้ให้การว่าในวันที่ 12 – 13 เม.ย. 52 นั้นได้มีการปิดถนนตรงช่วงแยกดอยติจริง แต่พยานทั้งทั้ง 4 ปากก็ไม่ได้ระบุว่านายจักรพันธ์ มีส่วนร่วมอย่างไรกับการปิดถนนครั้งนั้น รวมถึงพยานทั้ง 4 ปากก็ไม่รู้จักและรู้ว่านายจักรพันธ์เป็นใครและทำอาชีพอะไรด้วย ทั้งนี้การสืบพยานโจทย์ในคดีนี้ยังเหลืออีก 11 ปากโดยศาลได้นัดอีกครั้งในวันที่ 14 พ.ค. 55

หลังจากการสืบพยานโจทย์ นายจักรพันธ์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าคดีนี้สืบเนื่องมาจากช่วงสงกรานต์เลือด เม.ย. 52 ที่มีการชุมนุม จ.เชียงใหม่ และได้ตั้งข้อสังเกตว่าตนเองเคยโดยคดีทำนองเดียวกันนี้คือเหตุการณ์เมื่อวัน ที่ 10 เม.ย. 52 ที่มีการรวมตัวกันปิดถนนที่บริเวณประตูท่าแพ และต่อมาถูกฟ้องร่วมกับคนอีกสิบกว่าคน แต่อัยการก็ยกคำฟ้อง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ส่วนคดีปิดถนนที่ดอยตินี้ซึ่งเป็นคดีที่คล้ายๆ กัน แต่ตนกลับโดนฟ้องคนเดียวและหมายจับก็มาออกมาในปีต่อมา (พ.ศ.2553) หลังจากการสลายชุมนุมที่ราชประสงค์ และอัยการก็พึ่งมาส่งฟ้องเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา