ที่มา Thai E-News
เชิญชวนถวายความจงรักภักดี-พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีัตนายกรัฐมนตรี ได้เชิญชวนคนไทยหันหน้าสามัคคีกัน ไม่แบ่งฝักฝ่ายฝ่าภัยพิบัติน้ำท่วม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล 84 พรรษาให้ในหลวงสบายพระทัย ทางรายการตรงไปตรงมาของอดิศร เพียงเกษ-วิสา คัญทัพ เมื่อวานนี้ (ดูนาทีที่ 5 เป็นต้นไป)
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
1 ธันวาคม 2554
ในหลวงพระราชทานเครื่องราชฯ ยิ่งลักษณ์-สามี
วานนี้ ( 30 พ.ย.) ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประจำปี 2554 ประกาศระบุว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2554 ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก ให้แก่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ในวันเดียวกันนี้ ได้มีประกาศ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2554 ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทยให้แก่ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรสของนายกรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เพิ่มเติมอีก 117 ล้านบาท
สำนักข่า่วกรมประชาสัมพันธ์ รายงาน ว่า เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณ เพื่อจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ วันที่ 5 ธันวาคม 2554 โดยแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 3 - 9 ธันวาคม 2554 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และพื้นที่โดยรอบ กิจกรรมหลัก ได้แก่ พิธีถวายพระพรชัยมงคล งานมหรสพสมโภชเฉลิมพระเกียรติ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าโครงการหลวง และโครงการส่วนพระองค์
โดยวันนี้คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมอีก 117,722,385 บาท (หนึ่งร้อยสิบเจ็ดล้าน เจ็ดแสน สองหมื่น สองพัน สามร้อย แปดสิบห้า บาท) ตามที่คณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลเสนอ
ยิ่งลักษณ์จัดงานสมพระเกียรติ เชิญชวนผ่านเฟซบุ๊คถวายพระพร
นายรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊คว่า ในวโรกาสมหามงคลในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2554 ที่จะถึงนี้ ซึ่งพระองค์จะทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา การจัดงานเฉลิมพระเกียรติในปีนี้ รัฐบาลจะจัดงานให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างสมพระ เกียรติ เนื่องจากเป็นปีมหามงคลและเป็นปีแห่งการรวมใจของคนไทยทุกคน
ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ จะมีงานพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม ณ มุขเด็จพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งจะจัดในเวลา 10.30 น. พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท คณะองค์มนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา คณะทูตานุทูต ข้าราชการตลอดจนพสกนิกร ได้มีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และในวันเวลาสถานที่เดียวกันนี้กองบัญชาการกองทัพไทยก็จะจัดพิธีถวายสัตย์ ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
นายรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ได้โพสต์ข้อความ "5 ธันวา รวมพลังคนไทย รวมหัวใจถวายพระพร" ว่า รัฐบาลขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนแสดงพลังของคนไทยทั้งประเทศ ร่วมกันจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์รวมใจกันเป็นหนึ่ง ทำสาธารณะประโยชน์ เพื่อที่จะร่วมกันน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย และแสดงความจงรักภักดี ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีคุณูปการอันใหญ่หลวง ต่อประสพนิกรชาวไทยตลอดมา
และโพสต์เพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรี เรียกเหล่าทัพหารือเตรียมงานเฉลิมพระเกียรติ "๕ ธันวาคม รวมพลังคนไทย รวมหัวใจถวายพระพร”
กทม.งดจัดไลท์แอนด์ซาวด์เฉลิมในหลวงพระชนมายุ84พรรษานำงบมาสร้างคันกั้นน้ำคลองมหาสวัสดิ์
เดลินิวส์ รายงานว่า นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า เนื่องจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตกเนื่องจากไม่มีแนว ป้องกันน้ำท่วมที่มีความคงทนถาวร
ประกอบกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว กทม.จึงของดการจัดกิจกรรม ไลท์ แอนด์ ซาวด์ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ซึ่งเดิมกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-11 ธ.ค. 54 ณ กำแพงพระบรมมหาราชวัง โดยจะโอนเงินงบประมาณในการจัดกิจกรรมดังกล่าวไปจัดสร้างเขื่อนริมคลองมหา สวัสดิ์เพื่อเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันตก
กระทรวงสาธารณสุขทุ่มงบ 290 ล้านบาท สร้างอาคารกระตุ้นพัฒนาการเด็กครบสูตรที่สุดในเอเชีย เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84พรรษาซึ่งจะทำให้เด็กพิเศษได้รับการส่งเสริมกระตุ้นพัฒนา การกระทรวงสาธารณสุขได้ทุ่มงบประมาณ 290 ล้านบาท ให้สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ใช้ในการก่อสร้างอาคารรูปเปียโน ต้นแบบใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทนไฟฟ้าทั้งอาคาร และยังเป็นอาคารให้บริการเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการทางร่างกาย สมอง และสุขภาพจิต อย่างครบวงจรแห่งแรกในเอเชีย ซึ่งจะบริการทั้งผู้ป่วยในและต่างประเทศ ภายในอาคารประกอบด้วย ห้องกระตุ้นการเคลื่อนไหว ห้องกิจกรรมบำบัด ห้องกายภาพบำบัด ห้องอรรถบำบัดฝึกพูด ศูนย์วิจัยเด็กออทิสติก ห้องฝึกการใช้ประสาทสัมผัส โรงเรียนศึกษาพิเศษ ห้องดนตรีบำบัด ห้องละครบำบัด ห้องสมุด ศูนย์ฝึกอาชีพสำหรับผู้ปกครองและเด็ก ห้องนวดบำบัด และห้องธาราบำบัด ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าประมาณร้อยละ 50 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2555
ทั้งนี้สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดหาและมอบอุปกรณ์การแพทย์พระราชทานในพระนามาภิไธยสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เช่น รถนั่งไฟฟ้า หูฟัง ให้แก่เด็กพิการและผู้พิการทั่วประเทศ ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 ถึงปัจจุบัน โดยได้รับการบริจาคอุปกรณ์ฯ จากองค์กรการกุศล ได้แก่ องค์กรวีลส์ ออฟ โฮป สหรัฐอเมริกา (Wheels of Hope, USA) โจนิและเพื่อน สหรัฐอเมริกา(Joni and Friends, USA) วีลส์แชร์ ออฟ โฮป ประเทศญี่ปุ่น (Wheelchairs of Hope, Japan) และเฮลป์ปิ้ง แฮนส์ ประเทศนอร์เวย์ (Helping Hands, Norway) หากท่านใดมีความต้องการอุปกรณ์การแพทย์ ฯ สามารถติดต่อขอรับได้ทางหมายเลข 053 890
กระทรวงวัฒนธรรม จัดพิธีอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ พร้อมกันทั่วประเทศ
นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กรมการศาสนาร่วมกับวัดทั่วประเทศ ได้จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลและพิธีอุปสมบท เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 เพื่อให้ประชาชนร่วมทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล โดยในวันนี้(30 พย) ได้จัดพิธีอุปสมบทพร้อมกันทั่วประเทศ มีข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมอุปสมบท 7,565 รูป เริ่มปฏิบัติธรรม ตั้งแต่วันที่ 1 – 11 ธันวาคม 2554 ที่สำคัญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตร เพื่อถวายพระอุปัชฌาย์ ใช้ในการประกอบพิธี จำนวน 85 ไตร นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ แก่พุทธศาสนิกชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้
ด้านพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กล่าวว่า ถือเป็นกาลมงคลสมัยพิเศษ ที่รัฐบาลในนามของพสกนิกรได้ร่วมกันบำเพ็ญความดี เพราะการพัฒนาบ้านเมืองนอกจากจะพัฒนาในด้านวัตถุแล้ว สิ่งสำคัญจะทำให้ประเทศชาติรุ่งเรืองได้ จะต้องพัฒนาที่จิตใจ ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงยึดถือปฏิบัติมาแล้ว เช่นเดียวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงถือปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาทของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้นำหลักธรรมมาดำเนินเพื่อประโยสุขของชาวไทย ดังนั้น ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม ถือว่าได้ตอบแทนในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ด้วย
กระทรวงศึกษาธิการ จัดกิจกรรมช่วยเหลือและฟื้นฟูบ้านเรือนและโรงเรียนที่ประสบอุทกภัย ถวายเป็นพระราชกุศลแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 1-5 ธันวาคมนี้
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดการจัดกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ตั้งแต่วันที่ 1 – 5 ธันวาคม 2554 โดยให้หน่วยงานกระทรวงศึกษาธิการ และบุคลกรทางการศึกษา เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ฟื้นฟูสถานศึกษา ซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน โดยในพิธีเปิดงาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้นำลูกเสือจากจังหวัดต่างๆ ร่วมบำเพ็ญประโยชน์ ทำความสะอาด และซ่อมแซมโรงเรียนที่ได้รับความเสียหาย โดยได้รับความร่วมมือจาก สำนักงานการอาชีวะศึกษา และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ช่วยฟื้นฟูหลังน้ำลดด้วย นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้เขตพื้นที่การศึกษาที่ได้รับผลกระทบ สำรวจข้อมูลและรายชื่อครูที่ได้รับความเสียหาย เพื่อนำมาวิเคราะห์ให้ความช่วยเหลือต่อไป