WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, August 24, 2009

ปชป. อย่าซ่า! ขู่คนที่อยากเลิก!

ที่มา บางกอกทูเดย์

ต้องถือว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีมีจังหวะของดวงชะตาในขณะนี้ไม่สอดคล้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริงๆแตะลงไปตรงไหน มีเรื่องตรงนั้นให้เห็นอยู่ร่ำไปตั้งรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ก็เป็นเรื่องเข้าไปแตะโผ 152 นายพล ก็เป็นเรื่องถอยลงมายุ่งกับเรื่อง โผระดับผู้บังคับการระดับสัญญาบัตรตามแรงเชียร์ของ “วอลล์เปเปอร์” นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลาที่ไม่ชอบอยู่สงขลา แต่ชอบอยู่หน้าจอเวลาที่นายกฯ ออกทีวีก็กลายเป็นเรื่องยุ่งอีกขนาดเรื่องแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ทั้งๆ ที่ตามกฎหมายให้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี เป็นคนเสนอชื่อไปให้ ก.ต.ช.เห็นชอบแท้ๆก็ยังกลายเป็นเรื่อง

แบบนี้ดวงขัดกันยิ่งกว่าดาวพุธถอยหลัง ราหูเดินเข้ามาในเรือนเกิดเสียอีกเจอแต่เรื่องไม่หยุดแบบนี้ เป็นใครก็ต้องเครียด!!!อย่าว่าแต่นายกฯ มือใหม่หัดขับอย่าง “มาร์ค” ที่มีอายุอานามแค่ 45 ปีเลยด้วยเหตุนี้ทำให้ นายอภิสิทธิ์ ประกาศก้องกลางรายการ“เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ซึ่งออกอากาศแบบขัดใจนายกฯ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า…“สัปดาห์ที่ผ่านมา...พี่น้องประชาชนได้รับรู้ข่าวสารมากที่สุดคงหนีไม่พ้นปัญหาในเรื่องของการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงอยากจะขอเรียนว่า...การแต่งตั้ง ผบ.ตร.นั้น ต้องเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องของการบริหารงานตำรวจซึ่งในกฎหมายนั้นก็กำหนดเอาไว้ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้คัดเลือกรายชื่อ ผบ.ตร. เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติที่เรียกสั้นๆ ว่า ก.ต.ช. เพื่อให้ความเห็นชอบฉะนั้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา...เราก็เริ่มต้นกระบวนการที่กำหนดไว้ในกฎหมายนั่นก็หมายความว่า...ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี และทำหน้าที่เป็นประธาน ก.ต.ช. ก็เสนอชื่อที่ผมเห็นว่ามีความเหมาะสมให้ทางคณะก.ต.ช. ได้ให้ความเห็นชอบแต่ปรากฏว่าในการลงมติในวันนั้นยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบ เพราะฉะนั้นกระบวนการนี้ก็ถือว่ายังไม่ยุติมีการวิพากษ์วิจารณ์ มีการสอบถามว่าเป็นอย่างไร...ทำไมการเสนอชื่อสามารถเสนอชื่อได้กี่ชื่ออยากจะย้ำอย่างนี้ว่า...ที่จริงในการดำเนินการในเรื่องนี้ ตั้งแต่ก่อนที่จะมีกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็จะมี

คณะกรรมการเช่นเดียวกันเป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้ผู้มีอำนาจเสนอชื่อเข้าไปจะเสนอชื่อเดียว!ทั้งเป็นประเพณีปฏิบัติ และที่สำคัญ คือถ้าตามกฎหมายปัจจุบัน การที่กฎหมายใช้ถ้อยคำว่าเป็นเรื่องที่คณะกรรมการให้ความเห็นชอบ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่จะเป็นคนคัดเลือกชื่อหมายความว่า...เสนอไปเพื่อขอความเห็นชอบถ้าเสนอหลายชื่อเขาจะไม่เรียกเห็นชอบเขาจะเรียกว่าเป็นการคัดเลือก เป็นการเลือกตั้งส่วนกระบวนการคัดเลือกนั้นเป็นหน้าที่ของผมในฐานะนายกรัฐมนตรี สำหรับการคัดเลือกและการที่จะขอความเห็นชอบในครั้งนี้ผมก็เรียนสั้นๆ นะครับว่า...ไม่ได้หมายความว่าผมก็คิดอะไรของผมเอง ผมได้มีการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานสุดท้ายผมยืนยันครับว่า...สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมต้องการจะเห็นเกิดขึ้น คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการที่จะต้องรักษากฎหมาย ดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบเรียบร้อยเป็นที่วางใจ มั่นใจ และศรัทธาของประชาชนโดยเฉพาะในยามที่ปัญหาของการเมือง ปัญหาความขัดแย้งมีมาก และปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ ที่พี่น้องบ่นมา จะเป็นเรื่องยาเสพติด จะเป็นเรื่องอะไรก็ตามมีมากฉะนั้น สิ่งที่ผมต้องการให้เห็นเกิดขึ้นก็คือ ประสิทธิภาพสูงสุดได้วิเคราะห์สถานการณ์ในวันนี้ สิ่งที่เราต้องการก็คือ...ทำอย่างไรให้ ตร. ก้าวเข้าสู่ความเป็นตำรวจอาชีพ ต้องยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมา...มีเรื่องของการเมืองเข้าไปแทรกแซง และระบบคุณธรรมในตำรวจได้รับผลกระทบอย่างค่อนข้างรุนแรงเพราะฉะนั้นบุคคลที่ผมเสนอชื่อ...ผมมองว่าจะต้องมีคุณสมบัติ 2 อย่าง อย่างแรก คือ สามารถที่จะทำให้ความขัดแย้งภายในลดลงได้ เป็นบุคคลซึ่งได้รับการยอมรับนับถือ

และมีบุคลิกในลักษณะที่จะสามารถประสานความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพประการที่ 2 ในภายนอกต้องมีความยอมรับนับถือในลักษณะของความเป็นกลางทางการเมือง และสามารถที่จะเดินหน้าคดีต่างๆ ได้อย่างตรงไปตรงมาในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา...อาจจะมีข้อมูลอาจจะมีความเห็นที่ยังไม่ตรงกัน ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาเพราะในอดีตกระบวนการที่จะได้ ผบ.ตร. หรืออธิบดีกรมตำรวจ(อ.ตร.) ในอดีตก็มีอย่างนี้ที่เคยเกิดขึ้นเหมือนกันเสนอไปครั้งแรกก็ยังไม่เรียบร้อย ก็มีการเสนอครั้งที่ 2แม้กระทั่งครั้งที่ 3 เข้าใจว่าก็ยังเคยมีเช่นเดียวกันฉะนั้นเรื่องนี้ ผมก็ทำงานต่อไป เพื่อที่จะได้เฟ้นตัว ผบ.ตร.ที่ผมคิดว่าจะมีคุณสมบัติในลักษณะที่ผมได้กล่าวมาแล้วเพื่อที่จะให้ ตร. สามารถที่จะเป็นที่พึ่งที่หวังของพี่น้องประชาชนและที่สำคัญ คือ สนองนโยบายของรัฐบาลได้ถามว่าจะดำเนินการได้เสร็จเมื่อไร ก็อยากจะเรียนว่า...ที่จริงก็เป็นความตั้งใจดีว่าอยากจะเสร็จก่อนเดือนสิงหาคมเพราะว่าในกฎหมายกฎระเบียบต่างๆ ในส่วนของตำรวจจะมีนิดหนึ่งก็คือว่า ในส่วนตำแหน่งรองลงไปจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นอำนาจของ ก.ตร. (คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ) ซึ่งมีท่านรองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นประธานอยู่ผมพยายามที่จะผลักดันว่าจะเสร็จก่อนเดือนสิงหาคมเพื่อที่จะให้ทาง ก.ตร. ได้ทราบว่าใครเป็นผู้บัญชาการคนใหม่น่าจะดีกว่า แต่ว่าท่าน ผบ.ตร.คนปัจจุบัน ท่านได้บอกกับผมว่าที่จริงแล้วก็ไม่จำเป็น แม้ว่ากระบวนการของ ก.ต.ช.เรื่อง ผบ.ตร.คนใหม่ ยังไม่เรียบร้อยก.ตร. ก็สามารถที่จะพิจารณาในส่วนของ ก.ตร. ก่อนหรือทำต่อก็ได้

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้พี่น้องประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล อาจจะต้องใช้เวลายาวกว่าที่ผมคิดนิดนึงเท่านั้นเอง แต่ว่าสิ่งที่ผมต้องการให้เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของตัวองค์กรตำรวจเองเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนนั้นผมมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างเต็มที่ และเชื่อครับว่าจะก้าวพ้นปัญหาอุปสรรคต่างๆ ได้นะครับ”ระบายกันออกมามากมายขนาดนี้ ถ้าเป็นอาการป่วยก็ต้องถือว่าถ่ายท้องกันอย่างหนักเลยทีเดียว...ไม่มียั้ง ไม่มีอั้นมีเท่าไหร่ไหลระบายออกมาหมดซึ่งอาการนี้จริงแล้วไม่ได้เกิดความอึดอัดอย่างหนักกับนายกฯ อภิสิทธิ์ เพียงฝ่ายเดียวแต่ทางฝ่ายภายในพรรคประชาธิปัตย์ คือ นายสุเทพเทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ผู้ทำหน้าที่ผู้จัดการจัดตั้งรัฐบาลมาโดยตลอด และ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีผู้เป็นเหมือนโซ่ข้อกลางระหว่างรุ่นใหญ่อาวุโส แต่เป็นรุ่นเก่าภายในพรรค กับรุ่นใหม่ที่กำลังเป็นใหญ่ภายในพรรค!!!ล้วนแล้วแต่พลอยอึดอัดแน่นเฟ้อ เรอไม่ออกตามไปด้วยซ้ำร้ายเวลานี้พรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนเนวินก็พลอยติดร่างแหไปด้วยเต็มๆ ในข้อหาก่อการกบฏในการลงมติ ก.ต.ช.ถึงขนาด ส.ส.ประชาธิปัตย์บางคน งัดเอาเพลง “จังซี่มันต้องถอน” ของ ปอยฝ้าย มาลัยพร มาขย่มข่มขู่ไล่บี้ตั้งแต่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย...ว่าสมควรถูกถอนออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้แล้วโดยมี นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันนายกองอาสาร้องด่าท้าทาย ออกมาจุดพลุให้นายอภิสิทธิ์ขับพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลปัญหาก็คือ พรรคภูมิใจไทยและก๊วนเพื่อนเนวินกลัวคำขู่ของกลุ่ม ส.ส.ซ่า ที่ตบเท้าหนุนนายอภิสิทธิ์หรือไม่???ตรงนี้ต่างหากที่น่าคิด

เพราะกระแสข่าวที่เกิดขึ้นก็คือ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ฉลาดหรือโง่ในทางการเมืองกันแน่นั้น สุดท้ายคงต้องดูกันให้ลึกๆการที่ออกมาข่มขู่ “ปู่จิ้น” ว่า หากยังดึงดันโหวตสวนนายกฯคงจะอยู่ด้วยกันไม่ได้นั้น...แค่คิดก็ผิดแล้วหลานเอ๊ยขู่แบบนี้จะไปเข้าทางปู่จิ้นเสียเปล่าๆ รวยก็รวยแล้ว เกียรติยศชื่อเสียงก็มีแล้ว อายุก็ขนาดนี้แล้ว จะยังต้องการอะไรอีกทะลึ่งมาขู่คนที่อยากจะเลิกอยู่แล้ว...แบบนี้บ้าหรือเปล่า???ที่สำคัญพรรคภูมิใจไทยเชื่อมั่นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์เองล้วนๆล้านเปอร์เซ็นต์ในเมื่อเรื่องนี้คีย์แมนคนที่ประสานงาน คือ นายสุเทพและนายนิพนธ์ ที่ระบุชัดว่าให้โหวตใคร โหวตอย่างไรซึ่งที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยก็ไม่เคยประสานตรงกับนายอภิสิทธิ์อยู่แล้ว...ดังนั้น จึงไม่ได้มีการรู้มาก่อนเลยว่านายอภิสิทธิ์จะเลือกเสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐที่ผลโหวตออกมาไม่ตรงกัน ก็เพราะในประชาธิปัตย์ไม่เคลียร์กันเองนั่นแหละคำถามคือทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่เคลียร์กับนายสุเทพและนายนิพนธ์ให้เรียบร้อยชัดเจนเสียก่อน...จะได้ไม่ต้องมาหน้าแตกหมอไม่รับเย็บแบบนี้ฉะนั้น เรื่องนี้ ส.ส.ประชาธิปัตย์ หากยังไม่รู้ลึกรู้จริงก็อย่าได้เที่ยวออกมาพูด เพราะเดี๋ยวจะยุ่งเดี๋ยวเข้าทางปู่จิ้นเสียเปล่าๆ...ที่หวังว่ารัฐบาลจะอยู่ให้ข้ามปีใหม่ อาจจะหดสั้นจุ๊ดจู๋เหมือนหางลูกอ๊อดก็เป็นได้การที่ตบเท้าออกมาทำคะแนนหรือออกมาเสนอหน้าหวังแข่งกับวอลล์เปเปอร์นั้นเข้าใจได้ แต่สำคัญคือต้องรู้ให้จริงเสียก่อน ดังนั้น หากอยากรู้เรื่องนี้ให้ลึกจริงๆ ต้องไปถามนายนิพนธ์กับนายสุเทพแล้วจะกระจ่าง!!!จะได้ไม่ทำอะไรเฟอะฟะในทางการเมืองกันอีก ..ตั้งแต่หัวแถว ปชป. ลงมาเลยนั่นแหละ ■