ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
เข้า สู่โค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง คงต้องชั่งน้ำหนักปรากฏการณ์ต่างๆ กันให้ดี มีเบื้องหน้าเบื้องหลังแอบแฝงหรือไม่ หรือบางคนทำอะไรให้เกรียวกราว เพียงแค่เรื่องหาเสียงหวังโกยคะแนนหรือเปล่า
ตอนที่มีข่าวข้ามแดนมาว่า นายสุวิทย์ คุณกิตติ ในฐานะผู้แทนไทย ได้ตัดสินใจลาออกจากคณะกรรมการมรดกโลกนั้น
ฉับพลันทันใด ได้ยินเสียงบ่นปนสงสัยจากผู้รู้ว่า เขามีสิทธิเต็มเปี่ยมที่จะตัดสินใจแทนคนไทยทั้งประเทศได้เลยหรือ!?
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ คิดกันไม่กี่คนหรือ
ที่สำคัญเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการ แต่กล้าหาญชาญชัยทำอะไรระดับโลกกันเลยหรือ
แต่แน่นอน คำประกาศของนายสุวิทย์ ทำให้กลายเป็นฮีโร่ในหมู่พวกชาตินิยมจัดทันที
เพราะเป็นบทห้าวหาญชนกับกัมพูชาในกรณีเขาพระวิหาร!
ขณะที่ชาวบ้านตามแนวชายแดนเขมร ได้แต่ส่ายหน้า ยิ่งล้มโต๊ะเจรจา ก็แปลว่าจะรบกันอีก
แล้วประชาชนตาดำๆ ก็คงต้องเตรียมอพยพลี้ภัยกันอีกใช่หรือไม่
กระนั้นก็ตามหลังฝุ่นฟุ้งจางลง
ข้อมูลหลายอย่างเริ่มปรากฏให้คนไทยได้พิจารณา
เช่นผู้อำนวยการยูเนสโกแถลงว่า วาระที่นายสุวิทย์อ้างว่าเป็นเหตุให้ไม่พอใจจนต้องยื่นลาออกนั้น ในความเป็นจริงไม่มีวาระดังกล่าว
อันนี้คงต้องมาชั่งน้ำหนักคำพูดของแต่ละฝ่าย!
แต่อย่าลืมว่าผอ.ยูเนสโก เป็นหัวหน้าองค์กรระดับโลก และไม่ใช่นักการเมือง
ประเด็นต่อมา มีข้อมูลยืนยันว่า การประกาศลาออกของนายสุวิทย์นั้น ยังไม่มีผล
เพราะหลักเกณฑ์ของยูเนสโกไม่ใช่เรื่องเด็กเล่นขายของ เขาต้องไปพิจารณากันก่อน ใช้เวลาอีกเป็นปี
ไม่เท่านั้นนักวิชาการที่มีชื่อเสียงชี้ว่า มีสถานที่ซึ่งขึ้นทะเบียนมรดกโลกในไทยมากมาย และกำลังรอขึ้นทะเบียนก็อีกเยอะ
ต้องได้รับผลกระทบตามมาแน่นอน
แม้ว่าจู่ๆ ยูเนสโกคงไม่มาไล่ถอดถอน แต่ระยะยาวก็จะต้องพ้นฐานะในที่สุด
ทั้งหมดนี้ถ้าเพื่อสนองรับอารมณ์รักชาติอย่างสุดโต่ง ก็คงสะใจกับนายสุวิทย์
แต่เอาเข้าจริงๆ คำประกาศประดุจฮีโร่นั้นในทางปฏิบัติยังไม่มีผลอะไรเลย
และทำให้ชื่อเสียงรัฐบาลเด็กไทยขจรขจายไปทั่วโลก!