ที่มา ประชาไท
บางคนที่ไม่เข้าใจเศรษฐศาสตร์การเมืองเพียงพอจะพูดง่ายๆ ว่า ความขัดแย้งในสังคมไทยที่นำไปสู่วิกฤต คือความขัดแย้งระหว่างนโยบาย “โลกาภิวัตน์กลไกตลาดเสรี” ของทักษิณและไทยรักไทย ในฐานะที่เป็น “กลุ่มนายทุนสมัยใหม่” กับนโยบาย “ปิดประเทศต้านโลกาภิวัตน์ ต้านเสรีนิยม” ของอำมาตย์หัวเก่า
ทั้งหมดนี้ไม่เป็นความจริงเลย
ในความเป็นจริง นโยบายของรัฐบาลทหารหลังรัฐประหาร 19 กันยา และนโยบายของรัฐบาลทหารของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ล้วนแต่ใช้แนวเสรีนิยมกลไกตลาดสุดขั้วที่คัดค้านการใช้รัฐและงบประมาณรัฐใน การพัฒนาสภาพคนจน
นอกจากนี้มีการส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงที่คัดค้านการกระจายรายได้ แช่แข็งความเหลื่อมล้ำ และเรียกร้องให้คนจนเจียมตัวปรับตัวกับความยากจน ซึ่งเป็นลัทธิที่เข้ากับเสรีนิยมกลไกตลาดได้ดี
รัฐบาลไทยตั้งแต่ยุคสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใช้กลไกตลาดเสรี มือใครยาวสาวได้สาวเอา หันหลังให้กับประชาชนคนจน ใช้รัฐเพื่อประโยชน์อำมาตย์อย่างเดียว พอถึงรัฐบาลทหาร รสช. ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี มีการเปิดเสรีทางการเงินมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดเศรษฐกิจฟองสบู่ ในขณะที่อัตรากำไรกำลังลดลง และในที่สุดก็เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งตามมา ไทยรักไทยจึงนำนโยบายเศรษฐกิจคู่ขนานเข้ามาเพื่อใช้รัฐพัฒนาชีวิตคนจน
วิโรจน์ ณ ระนอง และอัมมาร สยามวาลา จาก ทีดีอาร์ไอ เป็นพวกคลั่งกลไกตลาดเสรีตามสูตรอำมาตย์มานาน เขาคัดค้านการใช้รัฐเป็นเครื่องมือเพื่อช่วยคนจนที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ คัดค้านไม่ให้ไทยเป็นรัฐสวัสดิการด้วย แต่ไม่เคยคัดค้านการเพิ่มงบประมาณทหาร ไม่เคยวิจารณ์รัฐประหาร ดังนั้นเวลาเขาวิจารณ์นโยบายประกันราคาข้าวของรัฐบาลเพื่อไทย เราไม่ควรแปลกใจหรือตื่นเต้น เขาไม่ใช่ "ผู้รู้" เขาเป็นแค่นักวิชาการฝ่ายที่เข้าข้างคนรวย นายทุน และอำมาตย์เท่านั้นเอง
คนที่ไม่เข้าใจเศรษฐศาสตร์การเมือง มองว่าความขัดแย้งในสังคมไทย คือความขัดแย้งระหว่าง “โลกาภิวัตน์กลไกตลาดเสรี” ของทักษิณที่เป็น “กลุ่มนายทุนสมัยใหม่” กับนโยบาย “ปิดประเทศต้านโลกาภิวัตน์ต้านเสรีนิยม” ของอำมาตย์หัวเก่า แต่ในความเป็นจริง รัฐบาลทหารหลังรัฐประหาร 19 กันยา รัฐบาลทหารของอภิสิทธิ์ ใช้แนวเสรีนิยมกลไกตลาดสุดขั้ว ที่คัดค้านการใช้รัฐในการพัฒนาสภาพคนจน และมีการส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ที่แช่แข็งความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นลัทธิที่เข้ากับเสรีนิยมกลไกตลาดได้ดี
นี่คือสาเหตุที่คนเสื้อแดงควรคัดค้านเสรีนิยมกลไกตลาด และควรสนับสนุนการใช้รัฐและเก็บภาษีเพื่อประโยชน์คนจน
การใช้รัฐฝืนตลาดเพื่อประกันราคาข้าวให้กับเกษตรกรเป็นเรื่องดี ควรจะนำข้าวนั้นมาขายให้ประชาชนในราคาถูก ส่งออกในราคาถูก และรัฐควรใช้เงินที่มาจากการเก็บภาษีจากคนรวย และการตัดงบประมาณทหารเพื่อทำโครงการนี้ นอกจากนี้ถ้าโอนสื่อทหารให้รัฐบาล รัฐก็จะมีได้รายได้เข้าคลังเพิ่มขึ้น แทนที่จะตกอยู่ในมือนายพลมือเปื้อนเลือด
นอกจากการประกันราคาข้าวแล้ว รัฐบาลควรมีนโยบายเพิ่มค่าจ้างให้เกิน 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ และนโยบายเพื่อเริ่มสร้างรัฐสวัสดิการแบบ “ถ้วนหน้า-ครบวงจร-จากภาษีก้าวหน้าที่เก็บจากคนรวย” อีกด้วย