WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, September 7, 2011

ใจ อึ๊งภากรณ์: การประกันราคาข้าวของรัฐบาลเป็นเรื่องที่ดี

ที่มา ประชาไท

บางคนที่ไม่เข้าใจเศรษฐศาสตร์การเมืองเพียงพอจะพูดง่ายๆ ว่า ความขัดแย้งในสังคมไทยที่นำไปสู่วิกฤต คือความขัดแย้งระหว่างนโยบาย “โลกาภิวัตน์กลไกตลาดเสรี” ของทักษิณและไทยรักไทย ในฐานะที่เป็น “กลุ่มนายทุนสมัยใหม่” กับนโยบาย “ปิดประเทศต้านโลกาภิวัตน์ ต้านเสรีนิยม” ของอำมาตย์หัวเก่า

ทั้งหมดนี้ไม่เป็นความจริงเลย

ในความเป็นจริง นโยบายของรัฐบาลทหารหลังรัฐประหาร 19 กันยา และนโยบายของรัฐบาลทหารของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ล้วนแต่ใช้แนวเสรีนิยมกลไกตลาดสุดขั้วที่คัดค้านการใช้รัฐและงบประมาณรัฐใน การพัฒนาสภาพคนจน

นอกจากนี้มีการส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงที่คัดค้านการกระจายรายได้ แช่แข็งความเหลื่อมล้ำ และเรียกร้องให้คนจนเจียมตัวปรับตัวกับความยากจน ซึ่งเป็นลัทธิที่เข้ากับเสรีนิยมกลไกตลาดได้ดี

รัฐบาลไทยตั้งแต่ยุคสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใช้กลไกตลาดเสรี มือใครยาวสาวได้สาวเอา หันหลังให้กับประชาชนคนจน ใช้รัฐเพื่อประโยชน์อำมาตย์อย่างเดียว พอถึงรัฐบาลทหาร รสช. ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี มีการเปิดเสรีทางการเงินมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดเศรษฐกิจฟองสบู่ ในขณะที่อัตรากำไรกำลังลดลง และในที่สุดก็เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งตามมา ไทยรักไทยจึงนำนโยบายเศรษฐกิจคู่ขนานเข้ามาเพื่อใช้รัฐพัฒนาชีวิตคนจน

วิโรจน์ ณ ระนอง และอัมมาร สยามวาลา จาก ทีดีอาร์ไอ เป็นพวกคลั่งกลไกตลาดเสรีตามสูตรอำมาตย์มานาน เขาคัดค้านการใช้รัฐเป็นเครื่องมือเพื่อช่วยคนจนที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ คัดค้านไม่ให้ไทยเป็นรัฐสวัสดิการด้วย แต่ไม่เคยคัดค้านการเพิ่มงบประมาณทหาร ไม่เคยวิจารณ์รัฐประหาร ดังนั้นเวลาเขาวิจารณ์นโยบายประกันราคาข้าวของรัฐบาลเพื่อไทย เราไม่ควรแปลกใจหรือตื่นเต้น เขาไม่ใช่ "ผู้รู้" เขาเป็นแค่นักวิชาการฝ่ายที่เข้าข้างคนรวย นายทุน และอำมาตย์เท่านั้นเอง

คนที่ไม่เข้าใจเศรษฐศาสตร์การเมือง มองว่าความขัดแย้งในสังคมไทย คือความขัดแย้งระหว่าง “โลกาภิวัตน์กลไกตลาดเสรี” ของทักษิณที่เป็น “กลุ่มนายทุนสมัยใหม่” กับนโยบาย “ปิดประเทศต้านโลกาภิวัตน์ต้านเสรีนิยม” ของอำมาตย์หัวเก่า แต่ในความเป็นจริง รัฐบาลทหารหลังรัฐประหาร 19 กันยา รัฐบาลทหารของอภิสิทธิ์ ใช้แนวเสรีนิยมกลไกตลาดสุดขั้ว ที่คัดค้านการใช้รัฐในการพัฒนาสภาพคนจน และมีการส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ที่แช่แข็งความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นลัทธิที่เข้ากับเสรีนิยมกลไกตลาดได้ดี

นี่คือสาเหตุที่คนเสื้อแดงควรคัดค้านเสรีนิยมกลไกตลาด และควรสนับสนุนการใช้รัฐและเก็บภาษีเพื่อประโยชน์คนจน

การใช้รัฐฝืนตลาดเพื่อประกันราคาข้าวให้กับเกษตรกรเป็นเรื่องดี ควรจะนำข้าวนั้นมาขายให้ประชาชนในราคาถูก ส่งออกในราคาถูก และรัฐควรใช้เงินที่มาจากการเก็บภาษีจากคนรวย และการตัดงบประมาณทหารเพื่อทำโครงการนี้ นอกจากนี้ถ้าโอนสื่อทหารให้รัฐบาล รัฐก็จะมีได้รายได้เข้าคลังเพิ่มขึ้น แทนที่จะตกอยู่ในมือนายพลมือเปื้อนเลือด

นอกจากการประกันราคาข้าวแล้ว รัฐบาลควรมีนโยบายเพิ่มค่าจ้างให้เกิน 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ และนโยบายเพื่อเริ่มสร้างรัฐสวัสดิการแบบ “ถ้วนหน้า-ครบวงจร-จากภาษีก้าวหน้าที่เก็บจากคนรวย” อีกด้วย