ที่มา thaifreenews
โดย bozo
วันที่ 9 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ให้การต้อนรับคณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศอาเซียนที่เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ
เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมการทำหน้าที่ประธานอาเซียนของประเทศอินโดนีเซีย
ที่นำพาอาเซียนไปสู่ความสำเร็จ เข้มแข็ง รวมทั้งหวังความสำเร็จในการประชุมอาเซียนซัมมิท
ที่จะมีขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย
ในเดือน พ.ย.นี้ โดยนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเดินทางมาร่วมประชุมด้วย
ด้านอัครราชทูตอินโดนีเซียกล่าวแสดงความยินดี และชื่นชมประเทศไทย รวมทั้งระบุว่า
พร้อมให้การสนับสนุน และให้ความร่วมมือในทุก ๆ ด้านกับรัฐบาลไทย รวมทั้งได้ชื่นชมเศรษฐกิจไทย
โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะโตมากขึ้น และชื่นชมบทบาทของประเทศไทย
ในการเป็นสมาชิกอาเซียนที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานของอาเซียน
และได้เน้น 3 เสาหลักของการเป็นประชาคมอาเซียน
ทั้งด้านการเมืองความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคมและวัฒนธรรม
ที่จะร่วมมือกันให้เกิดผลสำเร็จ เพื่อการเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2015 หรือ พ.ศ.2558
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ต้อนรับคณะเอกอัครราชทูตต่างประเทศ
และหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ
และกงสุลต่างประเทศ จำนวน 102 ประเทศ ที่ประจำการในประเทศไทย
นายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลไทยได้จัดลำดับความสำคัญใน 4 เรื่องคือ
รัฐบาลจะเร่งสร้างความปรองดอง
และสมานฉันท์ รวมทั้งจะนำความสามัคคีกลับสู่สังคมไทยเป็นเรื่องแรก
รัฐบาลจะเน้นการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืน
ควบคู่ไปกับการค้า และการลงทุนกับต่างประเทศ
รัฐบาลจะเดินหน้าสู่การ เป็นประชาคมอาเซียนในปี 2015
และรัฐบาลให้คำมั่นในการเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบต่อประชาชนระหว่างประเทศ
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeE5UVTFNRFF3Tnc9PQ==§ionid=
Re:
เขียนโดย JJ_Sathon
นายกรัฐมนตรีพบคณะเอกอัครราชทูตอาเซียน
และคณะเอกอัครราชทูตต่างประเทศและหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีพบคณะเอกอัครราชทูตอาเซียน
และคณะเอกอัครราชทูตต่างประเทศและหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ (9/9/2011)
นายกรัฐมนตรีพบคณะเอกอัครราชทูตอาเซียน และคณะเอกอัครราชทูตต่างประเทศ
และหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศตามลำดับ ในโอกาสดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
คณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศอาเซียน เข้าเยี่ยมคารวะ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย
และมีการสนทนา สรุปดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีต้อนรับคณะเอกอัครราชทูตประเทศอาเซียน
จาก กัมพูชา บรูไนดารุสซาราม ฟิลิปินส์ มาเลเซีย ลาว สหภาพเมียนมาร์ สิงคโปร์ เวียดนาม
และอินโดนีเซีย พร้อมกล่าวแสดงความชื่นชมต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของอินโดนีเซีย
ในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จของอาเซียน
ทั้งในกรอบความร่วมมือต่างๆ และความเข้มแข็งของอาเซียน
อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และภูมิภาคอาเซียนโดยแท้จริง
ทั้งนี้ การประชุมอาเซียนซัมมิทที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่อินโดนีเซีย
นายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้มีการหารือ เพื่อขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ
ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศฯสมาชิก และภูมิภาค ซึ่งอาเซียนจะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเจริญรุ่งเรือง และความมั่นคงต่อไป
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าการประชุมฯจะประสบความสำเร็จด้วยดี
อีกทั้ง ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐอเมริกาจะมาร่วมประชุมฯในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ร่วมมือและผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ
และความมั่นคงร่วมกันต่อไป เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศในอาเซียน
ในโอกาสนี้ นายโมฮัมมัด ฮัตตา
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย
ในฐานะประเทศที่เป็นประธานอาเซียน ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อนายกรัฐมนตรี
ในโอกาสดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย
ซึ่งอาเซียนมีความยินดีที่จะให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทย
และมั่นใจว่าประเทศไทยจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สดใส
ภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาล รวมทั้งมั่นใจว่า
ทยจะขยายและเสริมสร้างความร่วมมือในกรอบอาเซียนให้เข้มแข็งแ
ละเกิดประโยชน์ต่อประเทศ และภูมิภาคต่อไป
ทั้งนี้ ขอชื่นชมบทบาทที่เข้มแข็งของไทยในฐานะสมาชิกอาเซียน
และหวังว่าจะได้ร่งวมมือกับไทยเพื่อให้ 3 เสาหลักของประชาคมอาเซียน
ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ได้แก่
เสาหลักด้านการเมืองและความมั่นคง เสาหลักด้านเศรษฐกิจ และเสาหลักด้านสังคม
และวัฒนธรรม บรรลุเป้าหมายและประสบความสำเร็จเพื่อเจริญมั่นคงของภูมิภาค
และของโลกต่อไป นอกจากนี้ ในด้านความสัมพันธ์ทวิภาคีกับอินโดนีเซีย
ยินดีเป็นอย่างสำหรับความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและพัฒนาก้าวหน้าไปด้วยดี
และยินดีต้อนรับนายกรัฐมนตรีเยือนอินโดนีเซีย ในสัปดาห์หน้า
จากนั้น เอกอัครราชทูตฯ แต่ละประเทศได้กล่าวแสดงความยินดีต่อนายกรัฐมนตรี
และได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่น
ในการสานต่อความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือในระดับทวิภาคีในทุกด้าน
รวมถึง ต่างแสดงความเชื่อมั่นว่าอาเซียนจะร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง
เพื่อผลักดันและเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนต่อไป
นอกจากนี้ แต่ละประเทศได้แสดงความกระตือรือล้น
ในการต้อนรับนายกรัฐมนตรีเยือนประเทศภูมิภาคอาเซียน ในอนาคตอันใกล้ ด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังตึกสันติไมตรี
เพื่อพบปะกับ คณะทูตานุทูต หัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ
และกงสุลต่างประเทศที่ประจำการอยู่ที่ประเทศไทย
โดยนายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้ กล่าวแสดงความขอบคุณ
สำหรับสารแสดงความยินดีที่ได้รับจากประเทศต่างๆ
หลังจากที่ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา
และแสดงความมุ่งมั่นที่จะนำพาประเทศชาติ การเมือง เศรษฐกิจและสังคม
ให้มีความมั่นคงเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
ตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง
พร้อมกล่าวกล่าวย้ำ สิ่งที่รัฐบาลให้ลำดับความสำคัญสูงสุด 4 ประการ ได้แก่
1. รัฐบาลจะเร่งสร้างความปรองดองสมานฉันท์และนำความสามัคคีกลับสู่สังคมไทย
สร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้ประเทศสามารถก้าวไปข้างหน้าต่อไปได้
2. รัฐบาลจะเน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืนควบคู่กับการค้า
และการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะผู้ที่ด้อยโอกาส
3. รัฐบาลจะเดินหน้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ในปี 2015(พ.ศ.2558)
ประเทศไทยจะมีบทบาทนำในอาเซียน เร่งสร้างความเชื่อมั่นกับประเทศเพื่อนบ้าน
รวมทั้งความเชื่อมโยงกันในภูมิภาค (Connectivity) และการเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน
พร้อมสร้างความตระหนักแก่ประชาชนให้มีส่วนร่วมในการเป็นประชาคมอาเซียน
4. ในระดับนานาชาติ รัฐบาลให้คำมั่น
ที่จะเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบต่อประชาคมระหว่างประเทศ
รักษาสันติภาพและความรุ่งเรืองของโลก
ไทยจะปฏิบัติตามข้อตกลงและความร่วมมือระหว่างประเทศร่วมกับพันธมิตรทั่วโลก
และเร่งฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจโลก ผ่านการค้า การลงทุน และการเจริญเติบโตด้านอุตสาหกรรม
โดยในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำกับคณะทูตานุทูตว่า
รัฐบาลชุดปัจจุบันมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับนานาประเทศ
และองค์กรระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด
ภายใต้บทบาทที่เข้มแข็งและกระตือรือร้น
เพื่อการสร้างสันติภาพและความรุ่งเรืองของโลกให้ดีกว่ายิ่งขึ้นกว่าเดิม
จากนั้น นายปีเตอร์ ชาน เจอร์ ฮิง เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย
ในฐานะหัวหน้าคณะทูตานุทูต ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ
และถือโอกาสแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
โดยเชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้ จะสามารถสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ประชาชนชาวไทย
โดยเฉพาะในเวลานี้ ที่เรากำลังจะก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน
ซึ่งไทยมีบทบาทที่สำคัญในภูมิภาคนี้
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ ยังกล่าวว่า
ไทยมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความก้าวหน้าของโลก ในศตวรรษที่21 นี้
ทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และยังมีบทบาทที่สำคัญยิ่ง
ในเวทีระหว่างประเทศ ภายใต้กรอบความร่วมมือต่างๆ
ทั้ง ในกรอบอาเซียน (ASEAN- สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้),
การประชุมผู้นำอาเซียน+3 (ASEAN + 3),
เอเปค (APEC-ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย- แปซิฟิก) ,
การประชุมเอเชีย - ยุโรป (ASEM) ทั้งในระดับอนุภูมิภาค และภูมิภาค
ในการนำมาซึ่งความสงบสุข สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของโลก ร่วมกับนานาประเทศ
-------------------------------------------
http://www.go6tv.com/2011/09/blog-post_8723.html