ที่มา ประชาไท
สถานการณ์น้ำท่วมภาคกลางยังหนักทุกพื้นที่ ด้านอุตุเตือนฝนตกหนักภาคอิสาน เรือปลัดกระทรวงสาธารณสุขล่มโชคดีที่ช่วยได้ทันส่วนเรือทหารช่างล่มเกาะญวน จ.นครสวรรค์รอด 2 หาย 1 โฆษก ปชป.ซัด นายกฯ ต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการน้ำท่วมมากกว่านี้
9 ก.ย. 54 - นายแพทย์ไพจิตร วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นางณภัค วินิจจินดา นักวิชาการกระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างนั่งเรือพายกลับจากเยี่ยมนายพัด ควรสมทบ พื้นที่หมู่ 1 ตำบลบางหลวงโดด อำเภอบางบาล โดยเรือของปลัดกระทรวงสาธารณสุข ต้องฝ่าดงกล้วยหอมออกมาจากบ้านนายพัด และแล่นผ่านสายไฟฟ้าที่อยู่ระดับต่ำ ปรากฎว่าจังหวะที่ปลัดและนักวิชา กำลังจะก้มหลบสายไฟอยู่นั้นเรือเกิดเอียงและล่มในน้ำท่วม แต่เคราะห์ดีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปช่วยเหลือทั้ง 2 ได้อย่างปลอดภัย
จังหวัดพิษณุโลก พบผู้ประสบภัยน้ำท่วมตกอยู่ในภาวะเครียด เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายจำนวนมาก ซึ่งนายชินวัฒน์ ชมประเสริฐ สาธารณสุขอำเภอบางระกำ บอกว่า จากการลงพื้นที่มาให้บริการตรวจสุขภาพกับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมอำเภอบาง ระกำ พบว่ามีผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงถึงขั้นฆ่าตัวตายแล้วจำนวน 78 ราย ถือว่าเพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมที่สำรวจพบกว่า 30 ราย สาเหตุนั้นมาจากเครียดจากน้ำท่วมทรัพย์สิน น้ำท่วมนาข้าว รวมถึงน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ซึ่งขณะนี้ได้จัดทีม อสม.เฝ้าระวังดูแลผู้ป่วยโรคเครียดทุกราย จัดยาลดเครียดและให้ทีมอาสาสมัครเข้าไปพูดคุยเพื่อผ่อนคลายภาวะเครียด เบื้องต้นพบว่าผู้ป่วยหลายรายอาการดีขึ้น
ส่วนความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในที่ต่าง ๆ ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนกำลังเร่งเข้าไปบรรเทาทุกข์เบื้องต้น เช่นที่จังหวัดนครสวรรค์สภากาชาดไทย ร่วมกับนายกเหล่ากาชาดจังหวัด มอบชุดธารน้ำใจพร้อมน้ำดื่ม จำนวนกว่า 2,700 ชุด ให้กับชาวบ้านพื้นที่ตำบลทับกฤช อำเภอชุมแสง เพื่อบรรเทาทุกข์เบื้องต้น
จังหวัดสิงห์บุรี นายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมอำเภออินทร์บุรี พร้อมกับมอบถุงยังชีพ เรือ และสุขากระดาษแก่ผู้ประสบภัยด้วย พร้อมกำชับหน่วยงานที่ข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านอย่างรวดเร็วครอบคลุมทุกพื้นที่
จังหวัดสุพรรณบุรี กำลังเร่งระดมช่วยกันทำแนวเขื่อนกั้นน้ำบริเวณตลาดเก้าห้องร้อยปี อำเภอบางปลาม้า หลังแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจ ทำให้ชุมชนเก่าแก่กว่า 300 ห้องได้รับความเดือดร้อน
เตือนภัย 19 จังหวัดภาคอีสานฝนตกหนัก
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุบลราชธานี ประกาศฉบับที่ 1 ( 22/2554) เรื่อง สภาวะน้ำท่วมจากฝนตกหนัก เนื่องจากร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 19 จังหวัดของภาคมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่ม ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 9 - 12 กันยายน 2554 และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่าง ใกล้ชิดในระยะนี้
ส่วนการคาดหมายลักษณะอากาศใน 7 วันข้างหน้า ( 9 –15 กันยายน 2554 ) การคาดหมายในช่วงวันที่ 9-12 ก.ย. ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่วนในช่วงวันที่ 13-15 ก.ย. ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 9-12 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม ส่วนในช่วงวันที่ 13-15 ก.ย.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 % ลมตะวันตก ความเร็ว10-30 กม./ชม.
สำหรับผลกระทบต่อการเกษตร เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสีย หายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและ พืชผลทางการเกษตรจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันสภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดควรป้องกันกำจัดโรคราสนิมและโรคราน้ำค้างผู้ที่เลี้ยง โคและกระบือไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะอาจป่วยเป็นโรคปากและเท้าเปื่อยได้
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 9 – 12 ก.ย. ขอให้เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหล ผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม ระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
รมว.ทส.ประชุมผู้ว่า 12 จว. แก้น้ำท่วมภาคกลาง
นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)เปิดเผยภายหลัง เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา 12 จังหวัด อาทิ สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง สมุทรปราการ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมแนวทางการบูรณาการ การดำเนินงานระหว่างหน่วยงานส่วนกลางกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่ภาคกลาง (ลุ่มน้ำเจ้าพระยา) โดยสรุปว่าให้แต่ละจังหวัดเตรียมมาตรการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัย ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ เบื้องต้นหลายจังหวัดได้รายงานว่ามีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว เช่น การจัดหาเครื่องจักรกล พร้อมกับคนสำหรับกรณีฉุกเฉินได้ทันที ส่วนระยะกลางและระยะยาวสำรวจพื้นที่รับน้ำ และอ่างเก็บน้ำตั้งแต่พื้นที่ทางตอนเหนือลงมาจนถึงท้ายน้ำ เพื่อบูรณาการให้เป็นแผนเดียวกัน รวมทั้งสำรวจความเสียหายเพื่อเตรียมจ่ายค่าชดเชยให้กับชาวบ้านที่ได้รับความ เดือดร้อน โดยจะเร่งดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วันด้วย
เรือทหารช่างล่มเกาะญวนจ.นครสวรรค์รอด 2 หาย 1
ด้านทหาร ช.พัน 4 ค่ายจิระประวัติ จ.นครสวรรค์ ซึ่งมาช่วยเทศบาลนครนครสวรรค์ลำเลียงกระสอบทรายไปทำแนวกั้นน้ำบริเวณเกาะยวน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพื่อป้องกันน้ำท่วม เจอกระแสน้ำไหลเชี่ยวพัดเรือท้องแบนล่ม โดยจ่าสิบตรีฐิติวุฒิ กุลนาดา และจนท.เทศบาลอีกคนว่ายน้ำขึ้นฝั่งได้ ขณะที่จ่าสิบเอกวสันต์ ทันนิติ อายุ 55 ปี ทหารช่างสูญหายไป ล่าสุดชุดประดาน้ำยังไม่สามารถลงค้นหาได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง
"ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" สั่งการให้ รมช.มหาดไทย อยู่ในพื้นที่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เพื่อค้นหาผู้สูญหายจากเหตุดินถล่มจนกว่าจะพบร่าง
นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานดินถล่มหลังฝนตกหนักในพื้นที่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และสูญหาย 7 ราย บ้านเรือนพังเสียหาย 13 หลัง แต่ยังไม่สามารถเข้าสำรวจพื้นที่ได้ทั้งหมด เนื่องจากถนนทั้งสายถูกตัดขาด อีกทั้งยังไม่สามารถติดต่อ ผวจ.อุตรดิตถ์ ได้เพราะอยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่
ทั้งนี้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย สั่งการให้นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย ท่ีอยู่ระหว่างลงพื้นที่สำรวจน้ำท่วมที่จ.นครสวรรค์ ให้เดินทางไปจ.อุตรดิตถ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทันที นอกจากนี้ยังสั่งการให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ดูแลเพิ่มเติมด้วย ล่าสุด รมว.มหาดไทย สั่งให้รมช.มหาดไทยอยู่ในพื้นที่เพื่อค้นหาจนกว่าจะพบผู้สูญหาย
โฆษก ปชป.ซัด นายกฯ ต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการน้ำท่วมมากกว่านี้
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค ปชป. แถลงว่า ภาพรวมการทำงานของรัฐบาลในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เห็นชัดเจนว่ามีภารกิจที่ไม่ใช่เรื่องของประชาชนเป็นหลัก แต่เป็นการช่วยเหลือพรรคพวกของตัวเอง สร้างวาทกรรมทางการเมืองใส่ร้าย ปชป. เช่น เรื่องน้ำท่วมที่พยายามกล่าวโทษรัฐบาลในอดีตใช้งบกลางหมด แต่สุดท้ายมาอนุมัติเงิน เข้าใจว่าออกมาแล้ว 34 จังหวัดใช้งบประมาณไป 871 ล้านบาท ดังนั้น อยากถามว่าทำไมเงินก้อนนี้ มีได้ทั้งที่ก่อนหน้านี้อ้างว่าไม่มีงบฯ ทำไมต้องรอให้ประชาชนทนลำบากในสถานการณ์น้ำท่วม ใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน ถือว่าไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศ
นายชวนนท์กล่าวว่า กรณีการถามกระทู้สดของ ปชป.ในสภาเมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา เรื่องการช่วยเหลือน้ำท่วม นายกฯก็ไม่มาตอบแต่มอบให้ รมช.มหาดไทยตอบแทน ตอบก็ไม่ตรงคำถาม ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันว่าจะช่วยเมื่อไหร่ ช่วยเท่าไหร่ ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้ตั้งใจที่จะช่วยเหลือ อยากถามกลับว่าจะเอาอย่างไรเรื่องเงินส่วนต่างการประกันรายได้ ถ้าไม่ให้ก็บอกไม่ให้ แล้วถ้าไม่ให้เงินส่วนต่าง แล้วเริ่มต้นโครงการจำนำ ประชาชนที่ถูกน้ำท่วมกว่าค่อนประเทศจะเอาอะไรไปจำนำ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องตอบ
"การทำงานของสารพัดโฆษกรัฐบาลคงสับสนหน้าที่ เพราะไม่พูดอะไรที่เป็นประเด็นของบ้านเมือง มากัดจิก อ้างเสียงข้างมากปฏิเสธการตรวจสอบ ถามมากๆ ขู่จะฟ้อง ที่หาเสียงไว้ไม่เกิดอะไรสักอย่าง ถามไปก็ไม่ตอบ นายกฯ ก็เลือกตอบกับคนที่เตรียมไว้ ดังนั้น คนถามต้องถามให้ตรงคำตอบ อีกหน่อยจะคุยกับนายกฯ คงต้องดูโพยคำตอบจะได้ถามให้ตรง ไม่คิดว่านายกฯ จะมีสิทธิในการบริหารประเทศอย่างนี้ ประเทศมีปัญหาวิกฤตหลายเรื่อง แต่กลับมาเล่นวาทกรรม เล่นการตลาดช่วยเหลือประชาชนในการตั้งธงไว้ในใจก่อน ประชาชนต้องร่วมกันพิจารณา ในฐานะนายกฯต้องมีความสามารถมากกว่านี้" นายชวนนท์กล่าว
ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: ครอบครัวข่าว, กรุงเทพธุรกิจ, สำนักข่าวไทย, ไทยรัฐ, ประชาชาติธุรกิจ