ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
8 กันยายน 2554
กลุ่ม 40 สว.ลากตั้งอุ้มนักข่าว7สี สภาทนายกางปีกป้อง นักข่าวอภิสิทธิ์ฟ้องฉอดๆให้ตามเอาเรื่องไม่เลิกรา
คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่มี นายสมชาย แสวงการ อดีตสื่อ สว.ลากตั้งที่ทำตัวรับใช้เผด็จการมาตลอด เป็นประธาน นายสัก กอแสงเรือง อดีตนายกสภาทนายความ สว.ลากตั้งอีกรายเป็นตัวตั้งตัวตี ได้เชิญ น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เข้าร่วมประชุมกรรมาธิการ ในวันนี้( 8 กันยายน) เวลา 14.00 น.
น.ส.สมจิตต์ ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาด้วยได้ฟ้องต่อคณะกรรมาธิการ โดยเล่าเหตุการณ์เกี่ยวกับการตั้งคำถามต่อนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ไปจนถึงการ ถูกส่งอีเมล์คุกคาม หลังจากอีเมล๋เผยแพร่ไป ว่าได้มีโทรศัพท์ติดต่อไปที่บ้านพัก และมือถือด่าทอด้วยถ้อยต่อคำที่หยาบคาย
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับ น.ส.พรทิพย์ ปักษานนท์ ประธานคนเสื้อแดงเพชรบุรีล่าสุดนั้น น.ส.พรทิพย์ได้เข้าพบกับพนังงานสอบสวนในเช้าวันนี้(8กย.)และได้ปฏิเสธทุกข้อ กล่าวหา โดยมีพ.ต.ท.กิตตินันท์ อุทธสิงห์ รองผกก.สส. สน.ดุสิตเป็นผู้สอบปากคำ ตนจึงโทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.กิตตินันท์ แต่พ.ต.ท.กิตตินันท์กลับสอบถามรายละเอียดของคดีและยอมรับว่าไม่ได้อ่านสำนวน ทั้งที่ยอมรับว่าเป็นเจ้าของคดีนี้
“เจ้าหน้าที่ตำรวจถามว่ารายละเอียดคดีของคุณเป็นอย่างไร ใช่เรื่องเกี่ยวกับเฟสบุคหรือไม่ ดิฉันชี้แจงว่าคดีนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเฟสบุค แต่น.ส.พรทิพย์จะนำข้อความจากเฟสบุคมาส่งต่อหรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่ตำรวจจะต้องตรวจสอบ ทำไมตำรวจจึงไม่ทราบเนื้อหาของคดีแสดงว่าไม่ได้อ่านสำนวนใช่หรือไม่ ซึ่งพ.ต.ท.กิตตินันท์ ก็ยอมรับว่าไม่ได้อ่านสำนวนจริงและเมื่อให้ข้อมูลว่ามีการส่งต่ออีเมล ทาง พ.ต.ท.กิตตินันท์ก็แย้งว่าน.ส.พรทิพย์ยืนยันว่าไม่ได้ส่งอีเมลมาถึงดิฉัน จึงไม่ได้ทำความผิด จึงทักท้วงไปว่าประเด็นนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการส่งต่ออีเมลถึงใคร แต่อยู่ที่เนื้อหามีลักษณะข่มขู่และการส่งต่ออีเมลไปยังเครือข่ายคนเสื้อแดง โดยมี47 คนที่ได้รับอีเมลนี้ จึงถือเป็นการเผยแพร่ในทางสาธารณะซึ่งเป็นเหตุผลในการดำเนินคดี แทนที่ พ.ต.ท.กิตตินันท์จะชี้แจง กลับกล่าวว่าผมโง่ไม่มีความรู้ความเข้าใจด้านอินเตอร์เน็ต จึงได้แย้งว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความเชี่ยวชาญด้านอินเตอร์เน็ต แต่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงและข้อกฏหมายที่ต้องการให้ตำรวจดำเนินการตามกระบวน การยุติธรรม แต่ท่าทีของตำรวจเช่นนี้มีธงอะไรอยู่ในใจหรือไม่ ทำให้พ.ต.ท.กิตตินันท์ไม่พอใจและบอกว่า พูดกันก็คงไม่รู้เรื่องไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วยก่อนจะวางหูโทรศัพท์ไป”
หลังจากที่คณะกรรมาธิการฯได้รับการชี้แจงแล้ว ได้เตรียมเรียก พ.ต.ท.กิตตินันท์ มาชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินคดี ขณะที่นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมาธิการฯในฐานะนายกสภาทนายความ เสนอว่าหากต้องการทนายความสามารถติดต่อไปยังสภาทนายความเพื่อมาช่วยเหลือ ด้านกฏหมายในทางคดีได้และจะเชิญรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสื่อ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์และผู้อำนวยการช่อง 11 มาชี้แจงต่อกรรมาธิการในสัปดาห์หน้าด้วย
นอกจากนี้ ในระหว่างการชี้แจงกรรมาธิการหลายคนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการคุกคามสื่อ ที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น โดยเห็นว่าควรจะมีการคุ้มครองเพื่อให้สื่อมีอิสระในการทำหน้าที่
ประธานเสื้อแดงเพชรบุรีเข้ารายงานตัว ตร.ให้กลับบ้านไม่ต้องประกันเพราะคดีขี้หมา
ภาพข่าว:ASTVผู้จัดการ
วันนี้(8 ก.ย.) เมื่อเวลา10.00 น. ที่สน.ดุสิต น.ส พรทิพย์ ประธานกลุ่มคนเสื้อแดงเพชรบุรี เข้าพบพ.ต.ท.พิตตินันท์ อุทธสิงห์ รอง ผกก.สส.สน. ดุสิต เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทำให้เกิดความกลัว และทำให้ได้รับความเดือดร้อน กรณีส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมล์ แฉพฤติกรรมของนางสาวสมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สี กองทัพบกช่อง 7 หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้ส่งหมายเรียกไปเพื่อให้มาพบพนักงานสอบสวนใน วันนี้
ทั้งนี้ น.ส.พรทิพย์ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมอ้างว่าสิ่งที่ทำไม่ผิด เพราะไม่ได้มีเจตนาจะส่งอีเมล์ให้นางสาวสมจิตร โดยเชื่อว่าเป็นการส่งต่อข้อความกันไปเองพร้อมยืนยันไม่มีอคติกับสื่อ และไม่รู้สึกโกรธที่ถูกออกหมายเรียก และยินดีที่สื่อพึ่งกระบวนการทางกฎหมาย โดยหวังว่าตำรวจจะทำหน้าที่แบบตรงไปตรงมา
ด้าน พ.ต.ท.พิตตินันท์ ได้เปิดเผยว่า สำหรับคดีดังกล่าวนี้ถือเป็นคดีลหุโทษ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือ ทั้งจำ ทั้งปรับ ส่วนของการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมล์นั้น ไม่เข้าข่ายกระทำความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ดีหลังจากที่ น.ส.พรทิพย์ ได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับทางพนักงานสอบสวนแล้ว ก็สามารถเดินทางกลับได้ทันที โดยไม่ต้องประกันตัวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ น.ส.พรทิพย์ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากมาให้มอบดอกไม้และกำลังใจ หลายคนเข้าสวมกอดเพื่อให้กำลังใจต่อสู้ ท่ามกลางความตื้นตันใจของประธานเสื้อแดงเพชรบุรี โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุรุนแรง หลังจากมอบตัวเสร็จทั้งหมดก็ต่างแยกย้ายทยอยเดินทางกลับ
มาคมสื่อกร่างไม่รับหนังสือประท้วง ออกท่าไม่สบอารมณ์
เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมานี้สมัชชาประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย ได้ไปยื่นหนังสือถึง สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กับสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เพื่อเรียกร้องให้สื่อหยุดคุกคามประชาชน ภายหลังจาก 2 สมาคมออกแถลงการณ์กล่าวหาว่าการที่คนเสื้อแดงไปยื่นหนังสือประท้วงต่อช่อง 7 เป็นการคุกคามสื่อ และให้ท้ายนักข่าวช่อง 7 ว่า่ทำไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติประชาชน
ตัวแทนสมัชชาประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ไปยื่นหนังสือให้ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาวิชาชีพนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แต่ทางสมาคมฯ บอกไม่ขอรับหนังสือ และแสดงท่าทางไม่พอใจกับการไปยื่นหนังสือในวันนี้ทั้ งๆ ที่มีตัวแทนสมัชชาฯ ไปแค่ 5 คนเท่านั้นเอง ไม่ได้มีท่าทางจะไปคุกคามใดๆ ทำให้มีนักข่าวหนังสือพิมพ์ที่ไปรอทำข่าวได้ท้วงติงว่าควรรับหนังสือจากตัว แทนสมัชชาฯ แต่ก็ยังทำท่าเมินเฉยกับตัวแทนสมัชชาฯ ทำให้ตัวแทนสมัชชาฯ จำต้องเปิดจดหมาย และอ่านข้อความข้างในเพื่อให้นักข่าวที่มาทำข่าวได้ยินในถ้อยแถลงนั้น
ส.ส.เมืองเพชรพรรคแมลงสาบเรียก"ท่านนักข่าว"เป็นกลางสุดๆแล้ว
ก่อนหน้านี้พรรคฝ่ายค้านก็ได้นำเรื่องดังกล่าวไปตั้งกระทู้ถามในสภา โดยอ้างว่านางสาวสมจิตต์ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง โดยนายอรรถพร พลบุตร ส.ส.ประชาธิปัตย์กล่าวว่า"คุณสมจิตต์ท่านก็มีสไตล์การทำงานของท่านแบบถามตรง ไปตรงมา หัวหน้าพรรคของผมก็โดนถามแบบนี้เหมือนกัน" แต่ร.ต.อ.เฉลิม อยูบำรุง รองนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า แกนนำเสื้อแดงเพชรบุรี นางสาวพรทิพย์ ปักษานนท์ ส่งอีเมล์ว่าน.ส.สมจิตต์ทำหน้าที่ไม่เป็นกลางนั้นเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ตำรวจก็รับแจ้งความ"ผมก็บอกตำรวจว่าทำไปตามขบวนความ แม้ว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรเป็นการใชสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ตำรวจอย่าซ้ำเติมเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา"
มาดูพฤติการณ์นักข่าว7สีที่ปชป.บอกว่า"ท่าน"สัมภาษณ์นักการเมืองทุกฝ่ายสไตล์ดุดัน
สัมภาษณ์สุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วยท่าทางนอบน้อมคารวะผู้ใหญ่ จนแทบจะถอนสายบัวสัมภาษณ์อยู่แล้ว
คลิปข่าวนักข่าวช่อง7เดินตามมาร์ค แล้วมัวแต่มองสุดปลื้มจนทำให้เดินสะดุดหัวปักหัวปำ วันมาร์คไปเปิดตัวหนังสือที่เธอเป็นคนเขียนเชลียร์ เรียกว่าคนละอารมณ์กับตอนถามจิกตีจนนายกฯยิ่งลักษณ์ต้องเดินหนีเลยทีเดียว
และไปชมช็อตเด็ดด้านล่างนี้แล้ว ขอให้สมาคมสื่อตอบมาชัดๆว่านี่เป็น พฤติการณ์ที่"เป็นกลาง ปราศจากอคติ ยึดถือผลประโยชน์ประเทศประชาชน ขอให้กำลังใจ"ตามที่สมาคมสื่อออกแถลงการณ์ให้ท้ายนักข่าวรายนี้หรือไม่...
“ทุเรศ นักข่าวไม่เป็นกลาง จะเขียนเข้าข้างก็เขียนไป”-ส.ส.สตรีเพื่อไทยบริภาษนักข่าวช่อง7ด้วยความเหลืออดจากรกณีข้างต้น
******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:
'อาย'-คำที่สมาคมสื่อสะกดไม่เป็น
-ไหนว่าไม่มีอคติแฉวีรกรรมเก่านักข่าว7สีจิกหัวเสื้อแดงซ้ำ ไำม่ทำหน้าที่สื่อสวมบทองครักษ์พิทักษ์มาร์ค