ที่มา มติชน
โดย สรกล อดุลยานนท์
มี 2 วรรคทองของ "บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา" เจ้าสัวสหพัฒน์ ที่ผมชอบมาก
วรรคทองแรก
"ชีวิตของคนเราจะสำเร็จหรือไม่ต้องดูหมากตาสุดท้าย"
คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่า "บุณยสิทธิ์" ประสบความสำเร็จแล้วเพราะมีธุรกิจมากมาย อาณาจักรสหพัฒน์ก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
แต่ "บุณยสิทธิ์" คิดว่าแม้เขาจะอายุ 73 ปีแล้ว แต่เขาถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ
"จนกว่าจะวางหมากตาสุดท้าย"
เขายกตัวอย่างนักธุรกิจบางคนรุ่งเรืองและร่ำรวยตอนอายุ 40 ปี แต่ตอนตายธุรกิจกลับไม่เหลือเลย
แบบนี้ถือว่าวาง "หมากตาสุดท้าย" ผิดพลาด
ครับ ไม่ใช่เพียงแต่ "นักธุรกิจ" เท่านั้น
"คนดี" ทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน
สะสม "ความดี" และได้รับแต่คำชื่นชมมาชั่วชีวิต
แต่วาง "หมาก" ผิดไปตัวเดียว
ระเนระนาดเลยครับ
จนถึงวันนี้ยังงงๆ และก่งก๊งอยู่เลย
ไม่รู้ว่าก่อนถึง "หมากตาสุดท้าย" เขาจะแก้เกมได้หรือไม่
เพราะ "หมากตาสุดท้าย" คือ "ภาพจำ" ของคนเรา
จะให้คนรุ่นหลัง "จำ" ว่าเราเป็นอย่างไร
"หมากตาสุดท้าย" สำคัญที่สุด
อีกประโยคหนึ่งของ "บุณยสิทธิ์"
เมื่อมีคนถามว่าทำไมเขาจึงใช้ชีวิตอย่างสมถะมาก รวมทั้งบริษัทในเครือสหพัฒน์ก็ไม่หวือหวา สำนักงานก็เรียบง่าย
"บุณยสิทธิ์" ตอบด้วยการถามกลับว่า "คุณเคยเห็นคนปีนเขาไหม"
ตอนที่ขึ้นเขา ทุกคนต้องก้มตัวเพื่อรักษาสมดุล
แต่ตอนลงเขา ทุกคนจะยืดตัว
"ถ้าคนไหนยืดมาก แสดงว่าเขากำลังลงจากยอดเขาแล้ว"
อ่านวรรคทองนี้แล้วนึกถึง "นักการเมือง"
ลำพังแค่นักการเมืองฝ่ายค้านที่เปรียบเหมือนกับคนที่กำลังจากยอดเขา
การยืดตัวเพื่อแสดงให้เห็นว่า "ฉันยังแน่" ไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะวิญญาณ "รัฐบาล" ยังไม่ออกจากร่าง
การยืดตัวจึงเป็นท่าทีปกติของคนที่เพิ่งเดินลงจากยอดเขาแห่ง "อำนาจ"
แต่ที่น่าแปลกก็คือฝ่ายรัฐบาล
ทั้งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีบางคน
เพิ่งขึ้นสู่ "อำนาจ" แท้ๆ
ภาพที่ทุกคนเห็นคือการเดินขึ้นยอดเขา
แต่สังเกตไหมครับว่าการวางตัวและการให้สัมภาษณ์ของเขาเหมือนกับคนที่เดินลงจากยอดเขา
ทะนงตนและวางอำนาจ
ไม่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน
คำสัมภาษณ์แต่ละประโยคเหมือนกับวิญญาน "ฝ่ายค้าน" ยังไม่ออกจากร่าง
กลายเป็น "ฟาร์มเพาะศัตรู" โดยไม่จำเป็น
ถ้ารัฐมนตรีแต่ละคนคือ "หมาก" ของรัฐบาล
การวางหมากผิด 1 ตัว
บางทีอาจนำไปสู่การแพ้ทั้งกระดานก็ได้