WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, October 1, 2011

"กาย" ลูกชาย มท.1 เล่าเรื่องน้ำตาของ "พ่อ" เทียบ "ทักษิณ-ยงยุทธ" เป็นราชินีคู่นางสนมใน "สตาร์วอร์"

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ



สุภาพบุรุษที่เคียงข้างคู่กายของ "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้ครอบครองตำแหน่งใหญ่อันดับสอง รองจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คือ "ลูกกาย"


"กาย วิชัยดิษฐ" ลูกชายรองนายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ฝันใฝ่ในอาชีพนักการเมืองตั้งแต่เริ่มศึกษาตำรารัฐศาสตร์เล่มแรกใน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ประชาชาติธุรกิจ-สนทนากับลูกไม้ใต้ต้นของ หัวหน้าสำนักพรรคสีแดง ทั้งเรื่องแรงบันดาลใจ และงานใหม่ ไม่ใช่หน้าที่ของ "ลูก" แต่เป็นงานในตำแหน่ง "เลขานุการส่วนตัว" เจ้าของรหัส มท.1


กายเล่าว่า "ผมเริ่มเรียนที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตกหลุมรักเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ได้แบ่งปันความฝันที่จะทำงานด้านการเมืองแก่ผม ระหว่างที่เราคบกัน ความฝันของเธอก็กลายมาเป็นความฝันของผมไปด้วยว่าผมก็ฝันที่จะทำงานด้านการ เมือง"


งานของ "กาย" ไม่ใช่แค่วอลเปเปอร์ติดตัว "มท.1" แต่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ตื่น จนถึงเข้านอนพร้อม "พ่อ"

ระหว่างวันที่ "มท.1" รับแขกการเมือง "กาย" ฝึกงานด้วยการเสิร์ฟน้ำชา กาแฟ

ตั้งแต่เด็ก ๆ "กาย" ใฝ่ฝันเสมอว่าต้องทำงานการเมือง แต่เขาไม่รู้เลยว่าเส้นทางนั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เริ่มต้นจากตรงไหน เพราะตัวเขาไม่อยากมีทางเดินที่ซ้ำรอยกับลูกนักการเมืองคนอื่น มีพ่อเป็นนักการเมือง แล้วลูกก็เดินตามเส้นทางซึ่งพ่อ "กรุยทาง" ไว้ให้

กาย-บอกตัวเองว่า "น่าจะไปเป็นรุ่นน้องของคุณพ่อที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ แล้วมันก็เป็นไปตามนั้น มันคงเป็นก้าวแรกที่ผมเริ่มทางการเมือง"

ระหว่างที่เป็น "สิงห์ดำ" ตัวใหม่ของคณะรัฐศาสตร์ รุ่น 49 ความฝันทางการเมืองของ "กาย" เริ่มชัดขึ้น หลังเรียนจบระดับปริญญาตรีเขาเดินทางไปเรียนต่อถึงระดับปริญญาเอกด้านปรัชญา นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ความเชี่ยวชาญทฤษฎีการเมืองที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีชีวิตไป ๆ กลับ ๆ เมืองไทย ฝรั่งเศส นานถึง 13 ปี

ในที่สุดเมื่อเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เขาจึงเห็นว่าประเทศเกิดวิกฤต และเขาคงอยู่นิ่งเฉยไม่ได้

ชีวิต "กาย" แทรกอยู่ในทุกอณูการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ไทยรักไทย มาสู่ยุคพลังประชาชน กระทั่ง "พ่อ" ขึ้นเป็น "หัว" เพื่อไทย

"หลังจากพรรคมีมติเลือกพ่อเป็นหัวหน้าพรรค นาทีนั้นก็เริ่มมีเอกสาร เริ่มทำงาน สถานการณ์บังคับทำให้ผมต้องเริ่มงานกับพ่อทันที จากจุดตั้งใจเดิมกรุยทางทางการเมืองด้วยตัวเอง ผมจึงไม่มีตัวเลือกอื่น จึงต้องมายืนเคียงข้างหัวหน้าพรรคเพื่อไทย"

ลูกชาย-หัวหน้าเพื่อไทย ยอมรับว่าช่วงหาเสียงเป็นช่วงที่เหนื่อยที่สุด ลำบากที่สุด เพราะเกิดขึ้นท่ามกลางข่าวลือต่าง ๆ มากมาย ทั้งข่าวทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทย

กายเล่าถึงประสบการณ์ตลอด 2 เดือน ช่วงหาเสียงว่า "สิ่งเดียวที่เห็นช่วงเวลานั้นคือตารางนัดหาเสียง ผมเตรียมแผนหาเสียงไปจนกระทั่งรักษาความปลอดภัยให้กับหัวหน้าพรรค คาดการณ์อะไรไม่ได้ เห็นแต่ตารางนัดและการเดินทาง งานเอกสาร"

"วันที่ผมไปส่งคุณพ่อรายงานตัวการเป็น ส.ส.ที่รัฐสภา ตอนนั้นเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง คุณพ่อกระซิบบอกว่าอีกไม่นานพ่อจะมาส่งลูกที่รัฐสภา เพื่อมอบตัวลูกเป็น ส.ส."

ตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยและรองนายกรัฐมนตรี ที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ" พี่ชายนายกรัฐมนตรีมอบหมาย คือภารกิจของ "พ่อ" ที่ "กาย" และคนการเมืองในพรรค เชื่อว่ามาจากการตอบแทนยามสุขร่วมสุข ยามทุกข์ร่วมต้าน

วันที่ได้รับตำแหน่ง "กาย" เห็น "พ่อร้องไห้" ถึง 3 ครั้ง

"ตอนที่ท่านยิ่งลักษณ์กระซิบบอกคุณพ่อในที่ลับตาคนว่าจะได้เป็นรัฐมนตรี คุณพ่อร้องไห้ พอท่านยิ่งลักษณ์เห็นก็เข้ามากอดแล้วร้องไห้ตามไปด้วย ทั้งสองคนก็ร้องไห้ด้วยกันทั้งคู่ คุณพ่อเดินลงมากอดผมแล้วเริ่มร้องไห้อีกรอบ บอกว่าพ่อได้เป็นรัฐมนตรี"

แม้หลายคนในตระกูล "วิชัยดิษฐ" จะชื่นชมว่าการได้รับตำแหน่งของ "ยงยุทธ" เป็นการสร้างเกียรติประวัติมาให้กับวงศ์ตระกูล แต่ "กาย" กลับมองว่า ไม่ว่าผู้เป็นพ่อจะเป็นเพียงคนขายพวงมาลัย เป็นคนขับรถแท็กซี่ แต่ความภูมิใจที่มีแต่พ่อคนนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลง

ในขณะเดียวกัน แม้หลายคนจะมองว่า "ยงยุทธ" เป็นหัวหน้าพรรคตัวปลอม "ทักษิณ" เป็นตัวจริง และกุมชะตาพรรคเพื่อไทยไว้ทั้งหมด แต่ผู้เป็นลูกคนนี้กลับมองในอีกมุม โดยเปรียบ "ทักษิณ" และพ่อของเขาคือตัวละครในภาพยนตร์อมตะเรื่อง "สตาร์วอร์"

"มีตัวละครตัวหนึ่งชื่อ ราชินีอมิดาลา แห่งเมืองนาบู ที่มีนางสนมอยู่คู่กาย เมื่อถึงช่วงวิกฤต ตัวจริงที่เป็นราชินีจะสลับตัวกับนางสนม และนางสนมก็กลายมาเป็นราชินี จนในที่สุดก็ชนะสงครามมาได้ และในภาคที่สองคนที่รับเคราะห์แทนราชินีอมิดาลาตัวจริงก็คือนางสนมที่ปลอม ตัวมานั่นเอง"

กายเล่าเรื่องพ่อเทียบกับตัวเอกของสตาร์วอร์ว่า "ในเวลาวิกฤตมันอาจมีการสลับตัวกันอยู่ และยังมีความซับซ้อนอย่างมาก บางทีรัฐมนตรีก็พูดในแบบรัฐมนตรีเองว่าในความเป็นตัวจริงก็มีความเป็นตัว ปลอมอยู่ และในความเป็นตัวปลอมก็ยังมีความเป็นตัวจริงอยู่"

"และตัวปลอมในเวลาวิกฤตคำสั่งของหัวหน้าพรรคก็มีความหมาย คนในพรรคก็ปฏิบัติตาม คนในพรรคก็คิดว่าเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริง ยิ่งเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนผ่านทางการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ดังนั้น การที่วิกฤตมีตัวสลับกันได้หลายตัว มันเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะรอดในช่วงเวลาที่วิกฤต คุณยงยุทธคือตัวปลอมที่จะทำให้พ้นวิกฤต"

และตัว "กาย" เองก็คือ ตัวสลับของ "ยงยุทธ" เหมือนกับ "อมิดาลา" กับ "นางสนม"

แต่สิ่งที่เขาคิดว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเขามากกว่าคำว่า "ตัวสลับ" หรือ "เงา มท. 1" คือคำว่า "ลูกชาย"

ในฐานะเลขานุการส่วนตัวของ มท.1 จ็อบดิสคริปชั่นของเขาคือ 1.ทำเพื่อความรักประชาธิปไตย และเพื่อนร่วมอุดมการณ์ 2.ทำทุกอย่างไม่เคยเกี่ยงงาน ตั้งแต่ถ่ายเอกสารไปจนถึงเสิร์ฟน้ำ 3.ถ้าทำแล้วคนอื่นจะเห็นความสามารถ

"กาย" เชื่อว่าถ้าทำ 3 ส่วนนี้แล้ว ประชาชน ผู้ร่วมงาน คนอื่น ๆ ก็จะยอมรับและมอบอนาคตให้กับเขาเอง และจะไม่กลัวคำครหาว่าเป็นลูกนักการเมืองอีกคนที่มาเล่นการเมืองบนรอยเท้า ผู้เป็นพ่อ

ที่สำคัญหลายคนทักเขาว่าเหมือน "Chris Delivery" พิธีกรรายการภาษาอังกฤษชื่อดัง แม้แต่ "นพดล ปัทมะ" ก็ยังทักทายไว้เช่นนั้น

ฉะนั้นอนาคตเขาจึงฝันว่า เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง เขาอยากให้คนที่พบ "Chris" ที่ไหน ก็จะต้องพูดว่าเหมือน "กาย วิชัยดิษฐ"

ก่อนจบการสนทนา ผู้สื่อข่าวย้อนถามถึง "คนต้นเรื่อง" ที่เป็นผู้หญิงซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้เขาได้เป็น "คนการเมือง"

กาย-ไม่ตอบ แต่ส่งรูปถ่ายคู่กับเขาในชุดรับปริญญา พร้อมกล่าวว่า

"เธอเป็นโรคที่สถิติ 0.006 ของโลกเขาเป็นกัน เป็นโรคที่ภูมิคุ้มกันไม่สามารถแยกสิ่งแปลกปลอมภายนอกกับร่างกายตัวเองได้ เม็ดเลือดขาวทำลายสมอง เป็นเจ้าหญิงนิทรา ตัวผมเองทำงานเพื่อตัวเองและส่วนของตัวเธอด้วย สิ่งเดียวที่ผมสามารถทำให้เธอมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปได้ก็คือการได้พูด ถึงและระลึกถึงเขา"