ที่มา thaifreenews
บทความ โดย Bugbunny
จากกระแสข่าวที่แพร่หลายไปทั่วว่า กองทัพบกไทยสมัยพลเอกสุรยุทธเป็น ผบ.ทบ.ได้กระทำการโดยไม่แจ้งรัฐบาลให้ทราบ แอบอ้างเป็นทหารไทยใหญ่ถล่มอาวุธหนักทั้งระเบิดและปืนใหญ่สังหารชาวพม่ากว่า 300 ศพ ในช่วงที่นายพลหม่องเอมาเยือนประเทศไทยในสมัยรัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร และข่าวนี้ ดร.ทักษิณ ได้กล่าวด้วยตนเองผ่านระบบวิดีโอลิงค์ว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้พลเอกสุรยุทธไม่พอใจตนจนร่วมเข้าวางแผนทำการยึดอำนาจในสมัย 19 กันยา 49 เพราะงานนี้ทำให้ต้องถูกย้ายไปเป็น ผบ.สส.นั้น ข่าวนี้ได้สร้างความสนใจให้กับคณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ จนเตรียมการที่จะส่งคณะกรรมการเข้ามาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรื่องเรื่องดังกล่าวในประเทศไทยและพม่าเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง อาจถือได้ว่าเป็นการก่ออาชญากรรมระหว่างประเทศในข้อหากระทำสงครามล้างเผ่าพันธุ์ต่อประชาชนผู้บริสุทธิก็ได้ กรรมการชุดนี้น่าจะเข้ามาทำการสอบสวนกรณีดังกล่าวในช่วงกลางเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไปทั้งในทางลับและทางเปิดเผย
แหล่งข่าวระดับสูงให้ข้อมูลว่า สาเหตุของการกระทำครั้งนั้นเป็นเพียงเพื่อแสดงการเอาอกเอาใจบุคคลผู้หนึ่งที่เปรยออกมาว่า พม่าเป็นศัตรูของชาติไทยมาแต่ยุคโบราณในประวัติศาสตร์ ถึงวันนี้คนพม่ากลุ่มนั้นยังบังอาจมีส่วนในการนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายแพร่หลายในเมืองไทย นับเป็นการรุกรานไทยในยุคใหม่ ที่สมควรได้รับการลงโทษอย่างสาสม ผู้สั่งการให้ดำเนินการดังกล่าวจึงรีบทำการถล่มเพื่อเป็นการแสดงการตอบสนองปรารถนาปรารภนั้นทันที โดยไม่ได้คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ของประเทศเพื่อนบ้าน และหลักการสิทธิมนุษยชนของโลกเลยแม้แต่น้อย
หากมีคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้จริง ก็น่าจะเป็นข่าวที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างรุนแรงอีกครั้งหลังกรณีโรฮิงยา และพลเอกสุรยุทธในฐานะ ผบ.ทบ.ในยุคนั้น คงต้องมีส่วนรับผิดชอบในระดับนานาชาติด้วยเช่นกัน ซึ่งตนเองก็กำลังลำบากอย่างหนักอยู่แล้วในเรื่องภาพลักษณ์ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร่วมวางแผนก่อการยึดอำนาจ 19 กันยา และการลอบสังหารอดีตนายกทักษิณ ถือได้ว่าเป็นอาการผีซ้ำด้ามพลอย แต่ที่หนักเป็นพิเศษกว่าปกติก็คือ ผีที่ซ้ำคราวนี้เป็นผีฝรั่งเสียด้วย เครื่องรางของขลังที่ห้อยคุ้มตัวเองอยู่นั้น คงไม่น่าจะคุ้มกันจากผีฝรั่งที่ทรงพลังอินเตอร์ได้แต่ประการใด