ที่มา มติชน
คอลัมน์ วิภาคแห่งวิพากษ์
"ไม่เข้าใจว่าทำไมยุคนี้ถึงได้นำสถาบันองคมนตรีมาโจมตี ที่ผ่านมา คนไทยไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยดึงองคมนตรีมาโจมตีทางการเมือง"
น่าพิจารณาอย่างยิ่ง
อย่าว่าแต่เรื่องขององคมนตรีและสถาบันองคมนตรีเลยที่ตกเป็นเป้าแห่งการเปิดโปง โจมตีทางการเมือง หากแม้กระทั่งเรื่องการยึดทำเนียบรัฐบาล การยึดสนามบินอย่างดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ก็ได้เคยเกิดขึ้น
ทั้งยังเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีการจัดการใดๆ ทางกฎหมาย แม้ว่าจะมีพระราชกำหนดการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินประกาศและบังคับใช้อยู่ในมือก็ตาม
นั่นก็คือ สถานการณ์ยึดทำเนียบรัฐบาลเมื่อเดือนสิงหาคม 2551
นั่นก็คือ สถานการณ์ยึดสนามบินดอนเมือง และยึดสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551
แม้กระทั่งทำเนียบรัฐบาลก็ถูกยึด แม้กระทั่งสนามบินอันเป็นเหมือนห้องรับแขกของประเทศมีความสำคัญในทางเศรษฐกิจเป็นอย่างสูงก็ยังถูกยึดโดยที่ไม่มีการดำเนินการใดๆ ในทางกฎหมาย
อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ในประเทศนี้
สถานการณ์ยึดทำเนียบรัฐบาลถือได้ว่ารุนแรงร้ายกาจอย่างยิ่งแล้ว สถานการณ์ยึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิก็มีความรุนแรงร้ายกาจปานๆ กัน
ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ประชุม ครม. เป็นกองบัญชาการของรัฐบาล
เมื่อกองบัญชาการของรัฐบาลถูกยึดครอง การประชุม ครม.ก็ดำเนินไปในลักษณะเร่ร่อนไม่มีความแน่นอน
เกียรติภูมิของรัฐบาลจะเหลืออะไรอีกในสายตาของนานาชาติ
เมื่อสนามบินดอนเมือง และโดยเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติถูกยึดผลสะเทือนไม่เพียงแต่ต่อธุรกิจการขนส่ง การท่องเที่ยว เท่านั้น หากที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ ผลสะเทือนในด้านความเชื่อมั่นต่อประเทศ
เกียรติภูมิของรัฐบาลจะเหลืออะไรอีกในสายตาของนานาชาติ
ผลก็คือ รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ไม่สามารถบริหารได้ในทางเป็นจริง ผลก็คือ รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่สามารถบริหารได้ในทางเป็นจริง นายกรัฐมนตรีก็เสมอเป็นแค่เจว็ดไม่มีฤทธานุภาพใดๆ
ชะตากรรมเดียวกันนี้กำลังทดสอบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่อย่างแหลมคมยิ่ง
มีความเรียกร้องต้องการเห็นความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย มีความเรียกร้องต้องการเห็นขื่อแปในบ้านเมืองดำรงอยู่ในทางเป็นจริง
แต่ถามว่าสถานการณ์ยึดทำเนียบรัฐบาลเมื่อเดือนสิงหาคม 2551 มีการจัดการอย่างไร
แต่ถามว่าสถานการณ์ยึดสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 มีการจัดการอย่างไร
อย่าถามแต่กลุ่มเสื้อแดงที่ออกมาชุมนุมโดยมิได้เข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาล
ให้ถาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ในฐานะที่ทั้ง นายสมัคร สุนทรเวช และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เคยมอบความไว้วางใจให้คลี่คลายปัญหาและวิกฤตที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
ให้ถาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะที่ห้วงเวลานั้นท่านอยู่ในฐานะเป็นผู้นำฝ่ายค้านท่านได้แสดงความรับผิดชอบอย่างไร นอกเหนือจากนำ ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล
และต่อมาท่านได้แต่งตั้งให้ผู้ร่วมในการยึดทำเนียบรัฐบาล ร่วมในการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ดำรงตำแหน่งเป็นทั้งรัฐมนตรีและที่ปรึกษารัฐมนตรีในรัฐบาลของท่าน เหมือนกับเป็นบำเหน็จรางวัลภายหลังการเคลื่อนไหวต่อสู้
แล้วอย่างนี้กฎหมายที่วางอยู่ในกำมือของท่านจะมีความศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร
ไม่ว่าสถานการณ์อันเกิดขึ้นกับองคมนตรี ไม่ว่าสถานการณ์อันเกิดขึ้นรอบๆ ทำเนียบรัฐบาล
นอกจากเสนอความสงสัยไปยังประชาชน เสนอความสงสัยไปยังผู้อื่น แต่ละคนไม่ลองหันมาสนใจและถามอย่างจริงจังถึงบทบาทของตนเองบ้างว่าเคยคิดเคยทำอย่างไรมาแล้วบ้าง
นี่เป็นเรื่องของกรรม นี่เป็นเรื่องของวิบากอันสัมพันธ์กับกรรมที่เคยก่อโดยแท้