ที่มา ไทยรัฐ
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กล่าวถึงการที่มีข่าวแพร่สะพัดว่า รัฐบาลจะมีการใช้กำลังสลายการชุมนุม รวมทั้งได้สั่งปิดดีทีวีว่า การกระทำดังกล่าวยิ่งทำให้สถานการณ์ เลวร้ายลงไปอีกเพราะเป็นการเลือกปฏิบัติ จึงขอเตือนรัฐบาลว่า อย่าคิดใช้กำลังสลายการชุมนุมของประชาชนเด็ดขาด รวมทั้งทหารอย่าคิดปฏิวัติ เพราะประเทศบอบช้ำมาพอแล้ว นอกจากนี้การที่จะทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุขได้ต้องเริ่มจากการที่กระบวนการยุติธรรม ต้องไม่ เลือกข้าง ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งผิดตลอด อีกฝ่ายถูกตลอด ทุกองค์กรต้องบังคับใช้กฎหมายให้เสมอภาคกัน ที่สำคัญที่สุดขอให้ทุกฝ่ายหยุดแอบอ้างสถาบันได้แล้ว การปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ได้ทำความเสียหายต่อประเทศชาติและสถาบันมากที่สุด เพราะมีการกระทำมิบังควร แอบอ้างเบื้องสูงกันอย่างมาก ซึ่งเราคนไทยยอมรับไม่ได้ และต้องร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่าให้ใครบังอาจนำพระองค์ท่านมาแอบอ้างเพื่อทำลายล้างศัตรูอีกต่อไป และถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยจะต้องร่วมกันจัดการกับพวกที่บังอาจดึงฟ้าต่ำให้ถึงที่สุด
เมีย “โกอ่ำ” ย้ำเจตนารมณ์สามี
ขณะเดียวกัน ก็มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในส่วนภูมิภาค โดยช่วงบ่ายวันเดียวกันที่วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง หมู่ 1 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจณบุรี มีพิธีรดน้ำและบำเพ็ญกุศลศพนายศิลป์ชัย คูหาอุดมลาภ หรือ “โกอ่ำ” อายุ 59 ปี เซียนพระชื่อดังเจ้าของแผงพระในตลาดอำเภอท่าม่วง หนึ่งในแกนนำเสื้อแดงกาญจนบุรี ที่หัวใจวายขณะนำกลุ่มคนเสื้อแดงไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ เมื่อคืนวันที่ 30 มี.ค. และเสียชีวิตในวันที่ 31 มี.ค. ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวของโกอ่ำ และสมาชิกคนเสื้อแดงที่เดินทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพกันอย่างเนืองแน่น ทั้งนี้ นางธิดาพร คูหาอุดมลาภ อายุ 52 ปี ภรรยาผู้ตายกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ไม่คิดว่าสามีจะจากไปเร็วแบบนี้ โดยยังไม่ทันสั่งเสีย ทำให้ขณะนี้ครอบครัวขาดเสาหลัก แม้มีลูกชายด้วยกัน 2 คน โดยคนโตทำงานเป็นวิศวกร และคนเล็กกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปี 2 คณะวิศวะเคมี ตนจึงอยากฝากบอกกับเสื้อแดงทั่วประเทศว่าสามีของตนทุ่มเทให้กับเสื้อแดงมากที่ผ่านมา อยากให้ทุกคนสู้ต่อไปเพราะสามีก็ต้องการเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็ขอความช่วยเหลือหาทุนส่งเสียลูกชายคนเล็กให้เรียนให้จบด้วย
ใช้เวลา 4 ชม.กู้สัญญาณคืน
กระทั่งเวลา 18.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาณดีทีวีสามารถเชื่อมต่อและออกอากาศได้ตามปกติ และสามารถแพร่ภาพการชุมนุมได้เหมือนเดิม ซึ่งขณะนั้นบนเวทีปราศรัย นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ กำลังปราศรัยอยู่ จึงได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมทราบ ซึ่งเรียกเสียงเฮจากคนเสื้อแดงที่ปิดล้อมทำเนียบฯ ได้อย่างกึกก้อง ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าฝ่ายเทคนิคของดีสเตชั่นระบุว่า ถูกตัดสัญญาณมาตั้งแต่ราวบ่าย 3 โมง รวมเวลาที่จอดำประมาณ 4 ชั่วโมง โดยใช้จานดาวเทียมใหม่ลิงค์มาที่สถานีดีสเตชั่น และยิงสัญญาณออกอากาศแทน ซึ่งเป็นการแก้สถานการณ์เฉพาะวันที่ 1 เม.ย.ก่อน หลังจากนี้อาจยุติการออกอากาศชวนประชาชนมาที่ กทม.แทน
“นพดล” พร้อมแฉเหตุพระวิหาร
ทั้งนี้ นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.กระทรวงการต่างประเทศ และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า วันนี้ตนมาในฐานะสมาชิกบ้านเลขที่ 111+37 เพื่อให้กำลังใจชาว นปช.และคนเสื้อแดง ในการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ตนจะขึ้นเวทีนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีพิพาทเขาพระวิหาร เพื่อชี้ให้เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ได้มีการบิดเบือนข้อมูลจนทำให้ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา เสื่อมลงในหลายๆด้านจนถึงขั้นวิกฤติ โดยเฉพาะการที่มีนายกษิต เป็นตัวปัญหาสำคัญ
พระ 120 รูป ขึ้นเวทีสวด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่สัญญาณ ดีทีวีหายไปจากจอ หรือจอดำนั้น และทางแกนนำต้องแก้ไขให้วิทยุชุมชนต่างๆ รับถ่ายทอดสัญญาณเสียงแทนไปก่อน พร้อมระดมให้คนเข้ามาที่ทำเนียบฯมากๆนั้นได้มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส. รวมถึงสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เดินทางมาร่วมเวทีและให้กำลังใจผู้ชุมนุม ซึ่งมีจำนวนล้นหลาม เพราะตั้งใจมารอฟังการปราศรัยผ่านระบบวีดิโอลิงค์ผ่านดาวเทียมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดย ส.ส.อดีต ส.ส. กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และพลังประชาชน ที่มาปรากฏตัวบนเวทีปราศรัยในครั้งนี้ มีอาทิ น.ส.วิสาระดี เตชะธีระวัฒนะ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ นต.ศิธา ทิวารี อดีต ส.ส. กทม.ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีคณะสงฆ์จากวัดต่างๆในเขต กทม. และปริมณฑล จำนวน 120 รูป มาร่วมชุมนุมและขึ้นเวทีสวดเจริญพระพุทธมนต์ 3 บท เพื่อให้นำชัยคนเสื้อแดงประสบความสำเร็จในการนำบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ด้วยความสงบสันติและอหิงสา
“อดิศร” ขู่บุกไอซีทีถามความจริง
ต่อมานายอดิศร เพียงเกษ ประธานบริษัทดีสเตชั่น จำกัด ในฐานะ ผอ.สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมดีสเตชั่น (ดีทีวี) กล่าวถึงกรณีสัญญาณดีทีวีล่มในครั้งนี้ว่า ส่วนตัวยังคงเชื่อมั่นว่าสื่อมวลชนไทยยังคงมีเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบ จึงยังไม่คิดว่ารัฐบาลจะสั่งปิดการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ของดีทีวี เนื่องจากเบื้องต้นได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคว่า เกิดข้อขัดข้องที่ระบบเสาส่งสัญญาณไมโครเวฟ ที่ทางดีทีวีเชื่อมต่อสัญญาณกับ บมจ.ทีโอที ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทีโอทีกำลังแก้ไขอยู่ แต่ถ้าหากเป็นการตัดสัญญาณโทรทัศน์จริง บอกได้คำเดียว “มึงยุ่งแน่” เพราะตนจะนำประชาชนเดินทางไปบุกทุกที ไม่ว่ากระทรวงไอซีที รวมทั้งอาจบุกไปเผาพรรคประชาธิปัตย์ ตนให้เกียรตินายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าคงไม่ใช่ผู้สั่งการ กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ อย่ามาอ้างเหตุสั่งปิดว่าเป็นเพราะดีทีวีถ่ายทอดการปราศรัยของทักษิณและแกนนำ นปช.ไปกระทบความมั่นคงของรัฐ เพราะตนยังไม่เห็นว่าไปกระทบตรงไหน