ที่มา ไทยรัฐ
ฉายา “ประชาธิปัตย์ถนัดกู้” ฟังแล้วคงแสลงหูแสลงใจรัฐบาลเป็นอย่างยิ่ง
ขุนพลปากมีดโกนพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องออกมาตอบโต้ฝ่ายค้านที่ตั้งฉายานี้ให้
แต่ว่าไปแล้ว ฉายา “ประชาธิปัตย์ ถนัดกู้” ก็เป็นกระจกสะท้อนความจริงนะท่าน
เพราะถ้าประชาธิปัตย์ไม่ถนัดกู้ ก็คงไม่กู้จนติดเพดานต้องขยายเพดานเงินกู้ขึ้นไปถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีประเทศ
“แม่ลูกจันทร์” ไม่ได้คัดค้านการที่รัฐบาลจะก่อหนี้ เพราะในสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจอย่างนี้ การกู้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
รวมทั้งการที่รัฐบาลเก็บภาษีตํ่ากว่าเป้าถึงสองแสนห้าหมื่นล้านบาท การกู้เงินมาเติมส่วนที่ขาดก็ไม่มีใครว่า
แต่การกู้เงินของรัฐบาล ซึ่งทำให้ ยอดหนี้สาธารณะของประเทศสูงทะลุเพดานการก่อหนี้ อันนี้ต้องรอบคอบ!!
เพราะเมื่อ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” พ้นไปแล้ว ลูกหลานไทยก็ยังแบกหนี้ที่รัฐบาลนี้สร้างไว้ต่อไปอีกบานแห้ว
ข้อสำคัญ การกู้เงินที่สูงเกินไป จะมีผลกระทบต่อภาระการใช้หนี้
เพราะเมื่อเงินรายได้ของประเทศส่วนใหญ่ต้องเอาไปใช้หนี้ ก็จะไปเบียดงบประมาณ ที่จะใช้ในการพัฒนาประเทศ
นี่คือสิ่งที่ใครต่อใครที่มีความปรารถนาดีต่อรัฐบาลนี้ต้องออกมาทักท้วงกันเซ็งแซ่
เอาเถอะ เมื่อทีมเศรษฐกิจของรัฐ-บาลมั่นใจว่าการกู้เงินเป็นแนวทางแก้ ปัญหาที่ถูกต้อง “แม่ลูกจันทร์” ก็ขอเอาใจช่วย
แต่ก็ต้องขอสะกิดเอาไว้หน่อยว่าเงินกู้ ไม่ใช่เงินแจกฟรี เพราะกู้แล้วต้องผ่อนใช้คืนบวกดอกเบี้ย
เงินที่รัฐบาลกู้มาใช้จึงต้องให้เกิดการจ้างงานเพื่อกระจายรายได้
งบรายจ่ายที่ไม่เกิดการจ้างงาน งบรายจ่ายที่ไม่เร่งด่วน และงบรายจ่ายตามนโยบายประชานิยม รัฐบาลอย่ากู้!!
รอไว้เศรษฐกิจดีรัฐบาลมีเงินเหลือใช้ แล้วค่อยจ่ายให้สะบัดช่อ
ที่ “แม่ลูกจันทร์” กระชุ่นเตือนไว้ตรงนี้ เพราะได้อ่านแผนเงินกู้มาลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจก๊อก 2 ของรัฐบาล เป็นระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปลายปีนี้จนถึง 2555
รวมยอดหนี้สูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ
เป็นสถิติใหม่ที่ยืนยันฉายา “ประชาธิปัตย์ถนัดกู้”
น่าเสียดายที่เงิน 1.5 ล้านล้านบาท รัฐบาลจะใช้ลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆแค่ 60 เปอร์เซ็นต์ของเงินทั้งก้อน
ส่วนอีก 40 เปอร์เซ็นต์ของหนี้ก้อนนี้ เป็นโครงการสังคมและโครงการประชานิยม ซึ่งไม่เกิดผลในการจ้างงานและการกระจายรายได้
สรุปว่าหลายโครงการรัฐบาลจำเป็นต้องกู้
เช่น โครงการลงทุนพัฒนาระบบการจ่ายน้ำ เพิ่มพื้นที่ชลประทานเพื่อการเพาะปลูกอีก 23 ล้านไร่ และแก้ปัญหาแล้งซ้ำซาก
“แม่ลูกจันทร์” สนับสนุนเต็มที่
แต่โครงการสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน โครงการรถไฟรางคู่ โครงการสร้างทางด่วน ฯลฯ รัฐบาลไม่จำเป็นต้องลงทุนเองทั้งดุ้น ควรให้เอกชนร่วมลงทุนกับรัฐบาล หรือให้เอกชนลงทุนเองทั้งหมดก็ได้
โครงการลงทุนพัฒนาพลังงาน โครง การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว โครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมปล่อยให้เอกชนลงทุนไปเลยจะดีมั้ยท่าน??
ยอดหนี้สาธารณะของประเทศไทยจะได้ไม่บานทะโร่
ลูกหลานไทยรุ่นต่อไปๆ จะได้ไม่ ต้องแบกมรดกหนี้.
“แม่ลูกจันทร์”