ที่มา ประชาไท
16 พ.ค. 52 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวันนี้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำนวนมากได้รวมตัวที่ท้องสนามหลวงฝั่งทิศเหนือ ด้านสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดยตั้งเวทีปราศรัยขึ้นป้ายด้านหลังข้อความว่า "17พฤษภาทมิฬ ทวงคืนรัฐธรรมนูญประชาชน ประชาธิปไตย เสรีภาพ เสมอภาค" ขณะที่แกนนำนปช.เข้าร่วมการชุมนุม อาทินายจตุพร พรหมพันธุ์ น.พ.เหวง โตจิราการ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท
นายจรัล กล่าวปราศรัยเล่าเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ โดยโจมตีบทบาท พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ผู้นำการชุมนุมรุนแรง พร้อมทั้งเรียกร้องให้คนเสื้อแดงประ ท้วงธนาคารกรุงเทพ ที่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานที่ปรึกษา รับเงินเดือนละ 1 ล้านบาท และให้การสนับสนุนรัฐประหาร เมื่อมีการตั้งรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็ตั้งนายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัฐ ประธานบอร์ดธนาคารกรุงเทพ เป็นรองนายกรัฐมนตรี กลุ่มเสื้อแดงจะต่อต้านธุรกรรมทุกอย่างที่สนับสนุนเสื้อเหลือง
จากนั้นเวลา 18.50 น. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำ นปช.รุ่น 2 ขึ้นประกาศบนเวทีให้ผู้ชุมนุมกว่าร้อยคนที่นำสมุดบัญชีเงินฝาก ใบถอนเงินและบัตรเอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ ออกมาทำลาย โดยนายสมยศได้นับหนึ่งถึงสามเพื่อเป็นสัญญาณให้ผู้ชุมนุมทำการฉีกสมุดเงินฝาก ใบถอนเงิน และหักบัตรเอทีเอ็ม แล้วโยนขึ้นฟ้า พร้อมทั้งตะโกนด่าทอธนาคารกรุงเทพด้วยความสะใจ และนายสมยศ ได้ประกาศสำทับอีกครั้งว่าให้ผู้ชุมนุมเลิกทำธุรกรรมกับธนาคารแห่งนี้โดยสิ้นเชิง
ต่อมาเวลา 19.15 น.นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรช แกนนำ นปช.รุ่นสอง กล่าวหลังการฉีกสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพว่า ธนาคารกรุงเทพถือเป็นธนาคารที่สนับสนุน อำนาจนอกระบบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จนทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เห็นได้ชัดเจนจากกรณีที่ธนาคารกรุงเทพ เป็นคนออกเช็คช่วยชาติ ให้รัฐบาลพรรคประชาธิปไตยซึ่งก่อนหน้านี้แบงค์กรุงเทพ ก็เคยสนับสนุนอำนาจเผด็จการผ่าน คมช.
ดังนั้นเพื่อให้การเรียกร้องประชาธิปไตยเกิดอย่างแท้จริง นปช.ต้องแสดงแนวทางอารยะขัดขืนด้วยวิธีการสันติอหิงสา และเรียกร้องให้พี่น้องประชาชน ผู้มีหัวใจเป็นประชาธิปไตยให้ยุติการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารกรุงเทพ โดยหลังจากนี้ นปช.จะมีการรณรงค์ ทำความเข้าใจกับประชาชนให้ต้านแบงค์กรุงเทพทุกรูปแบบ จนกว่าธนาคารกรุงเทพจะออกแถลงการณ์ชี้แจงและยุติการสนับสนุนอำนาจนอกระบบ
โดย นปช.จะเคลื่อนไหวผ่านองค์กรพุทธศาสนา ซึ่งเป็นองค์กรที่นำเงินไปฝากที่ธนาคากรุงเทพมากที่สุด โดยจะเคลื่อนไหวผ่านวัดต่างๆ ผ่านถึงองค์กรชาวพุทธที่เป็นแนวร่วมกับ นปช. ซึ่งขณะนี้มี 3- 4แสนคน นอกจากนี้ นปช.จะมีการเคลื่อนไหว ต่อต้านห้างร้าน ต่างๆ กว่าร้อยบริษัท ที่ทราบว่าให้การสนับสนุนอำนาจนอกระบบ หลักๆ ประกอบด้วยธนาคารกสิกรไทย บริษัทในเครือสหพัฒน์ฯ จำกัดและเครือซีพี เป็นต้นทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ห้างร้านเหล่านี้นำเงินไปอุดหนุนทำแนวทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย