WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, May 22, 2009

ข้อเสนอทางการเมืองที่ “สามานย์” ของบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ทาสอำมาตย์

มา thaifreenews

เขียนโดย ลูกชาวนาไทย
วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม 2009 เวลา 05:33 น.

alt

จากบทความของบวรศักดิ์ http://www.prachatai.com/05web/th/home/16892

ผม อ่านปาฐกถาพิเศษ ของ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เรื่อง “บทบาทสื่อมวลชนกับการปฎิรูปการเมือง” แล้วผมรู้สึกรับไม่ได้กับข้อเสนอหรือความเห็นของนักวิชาการที่ทำตัวเป็น “ทาสรับใช้ที่ซื่อสัตย์” ของอำมาตยาธิปไตยอย่างเต็มที่

หากใครอ่าน ปาฐกถานี้อย่างไม่พินิจพิเคราะห์และไตร่ตรองอย่างละเอียด ก็จะถูกการบิดเบือนด้วยภาษาและการวิเคราะห์ที่ดูเหมือนซับซ้อนลากตามไปให้ เห็นด้วย แต่หากอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วจะเห็นว่า “นายบวรศักดิ์” ไม่เคยพูดถึงปัญหาที่เกิดจาก “อำมาตยาธิปไตย” ที่เป็น ตัวแปรที่สำคัญของวิกฤติการณ์ทางการเมืองในปี 2549-2552 นี้เลย เป็นการวิเคราะห์ทางเดียวว่า ประชาชนลุกขึ้นมาด้วยสาเหตุอะไร แต่ไม่เคยวิเคราะห์ว่า “ตัวการที่เป็นต้นเหตุ” ของสาเหตุเหล่านั้นคืออะไร

อ่านต่อ และ แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่


ผม ยอมรับส่วนการวิเคราะห์ส่วนหนึ่งว่า “พฤติกรรมของผู้เลือกตั้งเปลี่ยนไป คนจนตระหนักถึงพลังอำนาจของหนึ่งเสียงของตนเอง” ซึ่งผมเคยพูดไว้นานแล้ว และพูดก่อนนักวิชาการคนใดด้วยซ้ำไปเรื่องพฤติกรรมเลือกตั้งของคนชนบทที่ เปลี่ยนไปในขณะที่นักวิชาการอำมาตย์พวกนี้ยังท่องแต่ว่า “ทักษิณชื้อเสียง” อะไรประมาณนี้อยู่

แต่ข้อสรุปของนายบวรศักดิ์คือ ทักษิณเป็นเผด็จการควบคุมพรรค โดยหาตีความไม่ว่า ที่ทักษิณทำอย่างนั้นได้เพราะประชาชนเลือกทักษิณ เมื่อรวบรัดสรุปอย่างนี้ ข้อเสนอของบวรศักดิ์ในปาฐกถานี้คือ ให้มีการเลือกตั้ง โดย สส.ไม่ต้องสังกัดพรรค เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีตัวแทนของตน ข้อเสนอนี้ดูเหมือนสวยหรูแบบพวกเอ็นจีโอ

แต่สิ่งที่พวกนี้หมกเม็ด คือ “การทำลายความเข็มแข็งของพรรคการเมือง” ซึ่งก็คือ การทำให้รัฐบาลอ่อนแอนั่นเอง เพราะ สส.ไม่สังกัดพรรค ก็เท่ากับว่าเปิดโอกาสให้มีการ “ล็อบบี้” จากอำมาตยาธิปไตย พวกที่อ้างตัวว่า “ใกล้ชิด” หรือ “มีข้อมูลใหม่” ได้เสมอ ข้อเสนอนี้เข้าทางพวกอำมาตย์อย่างเต็มที่ เพราะไม่มีพรรคการเมืองที่เข็มแข็งเท่ากับไม่มี “อำนาจที่เข็มแข็งต่อต้าน” เครืองข่ายของพวกอำมาตย์แบบ พล.อ.เปรมกับพวกได้

ข้อเสนอนี้ “สามานย์” อย่างแท้จริง คนอย่างบวรศักดิ์ที่ทำตัวเป็น “ทาสรับใช้อำมาตย์” กำลังรณรงค์ในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ โยนความผิดให้กับนักการเมือง โดยไม่ได้พูดสักคำเลยว่า บ้านเมืองวุ่นวายมาสามปีนี้ เพราะพวกอำมาตยาธิปไตยแบบพวกเอ็งนี่แหละ
ข้อเสนอนี้จึง "หมกเม็ด" และ "สามานย์อย่างเต็มที่"

เป็น การ ใช้วิชาการ เพื่อรับใช้อำมาตยาธิปไตยอย่างเต็มที่ ไม่มีประเทศประชาธิปไตยประเทศใดที่ พรรคการเมืองไม่เข็มแข็งแล้วประเทศจะเจริญขึ้นมาได้ เมื่อพรรคการเมืองไม่เข็มแข็ง รัฐบาลก็อ่อนแอ ท้ายที่สุด กลุ่มอำนาจที่ได้ผลประโยชน์อย่างเต็มที่คือ พวกอำมาตยาธิปไตยนั้นเอง

ปัญหา ของประเทศไทยไม่ใช่ เผด็จการของ แกนนำพรรค พราะถึงอย่างไรแกนนำพรรค ก็ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ประชาชนเขาดูว่าใครเป็นหัวหน้าพรรคเขาจึงเลือก มันก็เหมือนระบบเลือกนายกฯ ทางอ้อมนั้นเอง และหัวหน้าพรรค เขาก็ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนอยู่แล้ว

ปัญหา ของประเทศไทยคือ "อำมาตยาธิปไตย" เช่น พล.อ.เปรม ที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนเป็นต้น ซึ่ง บวรศักดิ์ไม่เคยพูดถึงปัญหาพวกนี้เลย

ดังนั้น บวรศักดิ์คือ "ทาสรับใช้อำมาตย์" นั้นเอง