ที่มา ประชาไท
สุรีย์ มิ่งวรรณลักษณ์
ช่วงรอบสองเดือนที่ผ่านมา TBPS ได้เสนอสกู๊ป “วาระประเทศไทย” พร้อมการแสดงความคิดเห็นของพิธีกรรายการ เนื้อหาส่วนใหญ่นั้น สะท้อนปัญหาคนยากคนจนในสังคมไทยยุควิกฤตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะคนจนในชนบท และมักจะพูดว่า “เป็นปัญหาโครงสร้างสังคม” โดยอ้างอิง ประเวศ วะสี เป็นเจ้าทฤษฎี
TBPS เสนอเรื่องเล่า มีตัวละครเดินเรื่องทำมาหากินในชีวิตของพวกเขา และสะท้อนถึงปัญหาของพวกเขา ช่วงตอนท้าย TBPS มักหาตัวอย่างของคนจนบางคนออกมาพูด และก็เรื่องจบด้วยการสรุปทางออกให้คนจนพึ่งตนเอง ไม่ไว้ใจนักการเมือง และต้องไม่หลงใหลบริโภคนิยม ต้องรู้จักพอเพียง เกิดจาก “เป็นปัญหาโครงสร้างสังคม”
บางเรื่อง เช่นเรื่อง การปฏิรูปการเมืองก็วิพากษ์นักการเมืองที่แก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ ต้องการแก้ไขเพียงเพื่อตัวเอง ไม่เกี่ยวกับประชาชน การปฏิรูปการเมืองแก้ไขปัญหาประชาชนไม่ได้ พูดเหมือนรายการ ASTV เลยก็ว่าได้
และพูดสรุปท้ายรายการว่าปัญหาประชาชน “เป็นปัญหาโครงสร้างสังคม” การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สามารถแก้ไขปัญหาประชาชนได้
การนำเสนอทางออกของรายการวาระประเทศไทยได้สะท้อนถึง
1.องค์ความรู้ของผู้จัดทำรายการวาระประเทศ เรื่อง “ปัญหาโครงสร้างสังคม”
เป็นการมักง่ายมากที่รายการนี้ จะสรุปรวบยอดว่า ปัญหาต่างๆของคนยากคนจนเกิดจาก“ปัญหาโครงสร้างสังคม” แต่ไม่บอกให้ชัดเจนว่า “ปัญหาโครงสร้างสังคม” เป็นอย่างไรในรายการละเอียด หรือการพูดคำใหญ่ๆ เท่ห์ๆ ตามนักวิชาการให้ดูมีภูมิเท่านั้นเองหรือ?
หรือ “ปัญหาโครงสร้างสังคม” ที่ให้ความหมาย ก็คือ เป็นเพียงเพราะ กิเลสตัณหาของมนุษย์ที่ไม่รู้จักพอ หลงใหลวัตถุ อยากได้แต่ความสะดวกสบาย ทำการผลิตตามระบบตลาดทุนนิยม ใช้ปุ๋ยเคมี กู้เงินมาลงทุนเอง ฯลฯ ดังนั้นจึงต้องพึ่งตนเองพอเพียง เพื่อเป็น”ชุมชนต้นแบบ” เป็นทางเลือกเดียวเท่านั้นตามแนวคิดของรายการนี้
ที่จริงมีงานศึกษาวิจัยปัญหาความยากจนในชนบทจำนวนมาก มานานนับหลายสิบปีแล้วจนปัจจุบัน ที่ได้ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงว่า สังคมชนบทเปลี่ยนไป ไม่ได้หยุดนิ่งกับที่ มีปฏิสัมพันธ์กับส่วนต่างๆ หมู่บ้านไม่ได้อยู่เพียงลำพัง อิทธิพลของรัฐและระบบทุนนิยมได้เข้ามีส่วนในชุมชนทั่วทุกหัวระแหง มีทั้งด้านที่บวก เช่น มีเทคโนโลยีที่ทำให้การใช้แรงงานไม่ลำบากอัตคัดเหมือนสมัยก่อน มีการติดต่อสื่อสารผ่านมือถือ มีทีวีให้รับรู้ข้อมูลข่าวสารโลกสมัยใหม่ ถนนหนทางสะดวกรวดเร็วขึ้น ฯลฯ ขณะที่อีกด้านหนึ่งนั้น เกิดปัญหาการกระจุกตัวของที่ดินให้คนส่วนน้อย ชาวนาส่วนใหญ่เป็นหนี้สินมากขึ้น บางส่วนล้มละลายเป็นแรงงานรับจ้างในเมือง ฯลฯ
สาเหตุสำคัญ เป็น “ปัญหาโครงสร้างสังคม” หมายถึงว่า โครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม เช่น โครงสร้างกฎหมายด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติผูกขาดโดยระบบราชการ ชุมชนไม่มีส่วนร่วม กฎหมายกลายเป็นเครื่องมือของรัฐในการครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ
โครงสร้างด้านกลไกตลาดบิดเบือนไม่มีความเป็นธรรม ลงทุนลงแรงทำการผลิตไม่คุ้มค่ากับราคาผลิตที่พ่อค้ารับซื้อ โครงสร้างด้านการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน ภาคการเกษตรกรรมรัฐอุดหนุนน้อยกว่าภาคการผลิตส่วนอื่นๆ รัฐไม่ลดงบประมาณกองทัพ
ปัญหาโครงสร้างด้านภาษีที่คนรวยเสียภาษีไม่ได้มากกว่าคนจน ฯลฯ ตลอดทั้งโครงสร้างอำนาจทางการเมืองที่เกี่ยวพันกับปัญหาของโครงสร้างของอำนาจชนชั้นสูงที่เอาเปรียบอำนาจของไพร่ ปัญหาโครงสร้างรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจกับอำมาตยาธิปไตยมากกว่านักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ฯลฯ
ดังนั้นจึงต้องแก้ไขปัญหาโครงสร้างสังคมดังกล่าว ที่ได้สร้างความเหลื่อมล้ำ ไม่มีการกระจายรายได้ ผลพวงของการเติบโตทางเศรษฐกิจให้คนส่วนน้อยได้ประโยชน์คนส่วนใหญ่เสียเปรียบ มิใช่โดยการแก้ไขปัญหา ”โครงสร้างพึ่งตนเองพอเพียง” ตามที่รายการวาระประชาชนเสนอ
2.ตั้งใจเป็นเครื่องของรัฐอภิสิทธิ์ ที่ต้องการบิดเบือนรากเหง้าปัญหา
หรือว่าคณะผู้ทำรายการ วาระประเทศไทย มีความรู้ดีถึง ปัญหาโครงสร้างสังคม ที่มิใช่ทางออกด้วย การพึ่งตนเองพอเพียง เพียงแต่ว่าต้องการเสนอรายการเพื่อบิดเบือนทางออกอื่นๆที่มิใช่พึ่งตนเองพอเพียง ตามนโยบายของรัฐอภิสิทธิ์ ที่ต้องการใช้การครอบงำมอมเมาผ่านสื่อสารมวลชนเพื่อให้ประชาชนคนดูว่า ชาวนานั้นโง่ จน เจ็บ ไม่รู้จักพอเพียงพึ่งตนเอง
ทั้งๆที่พวกเขารู้ดีว่า “ปัญหาโครงสร้างสังคม” นั้นเป็นปัญหาของการเอารัดเอาเปรียบกันของคนส่วนน้อยกระทำต่อคนส่วนใหญ่ ผู้มีอำนาจกดขี่ผู้ไร้อำนาจ ฯลฯ เหมือนเช่นรู้ดีว่า รัฐธรรมนูญ 50 นั้นสร้างปัญหาให้กับประชาชนไม่น้อยที่ต้องการเลือกพรรคการเมืองที่พวกเขามองว่ามีนโนบายที่พวกเขาพอใจในการแก้ไขปัญหาพวกเขา หรือรัฐธรรมนูญ50 ไม่เคารพศักดิ์ศรีความเสมอเท่าเทียมของมนุษย์ที่กำหนดให้คนจบปริญญาตรีเท่านั้นเป็นสมาชิกวุฒิสภาได้ ฯลฯ
หรือเหมือนเช่น รายการบางรายการที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงต่างๆรวมทั้งช่วงเหตุการณ์การปราบปรามผู้ชุมนุม 13 เมษายน 2552 ด้วย โดยส่วนใหญ่ตั้งใจนำเอานักวิชาการ นักพัฒนาองค์กรเอกชน นักสิทธิมนุษยชน ฯลฯ ที่ดูดี ดูเหมือนกระทำตนเป็นกลางอย่างเนียนๆ แต่แท้จริงแล้วล้วนเป็นพวกนิยมเสื้อเหลืองทั้งหลายมาออกรายการเพื่อบอกว่าเสื้อแดงผิด ทำลายความชอบธรรมของเสื้อแดง กระนั้นเอง
สรุปว่า คณะ TBPS ว่าด้วย “วาระประเทศไทย” พวกเขาไม่มีองค์ความรู้ หรือเพียงเพราะพวกเขาต้องการกระทำตัวเป็นเด็กดีของรัฐอภิสิทธิ์กันแน่?