ที่มา ประชาไท
แนวร่วมคนเสื้อแดง
การต่อสู้ของขบวนการเสื้อแดง เพื่อล้มระบอบอำมาตยาธิปไตยที่ฝังรากลึกในสังคมการเมืองไทยมายาวนานนั้น เพื่อสร้างประชาธิปไตยให้มั่นคงนั้น ย่อมต้องสร้างพลังมวลมหาประชาชนที่ตื่นตัวมีจิตสำนึกอย่างขนานใหญ่ ขยายฐานให้กว้างขวาง ย่อมเป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อยาวนานในสภาวะวิสัยที่ยังเป็นรองฝ่ายอำมาตยาธิปไตยที่ครองอำนาจเป็นใหญ่ทั้งทางอุดมการณ์และกลไกรัฐ ทหาร ตำรวจ ศาล และยังไม่ถึงเวลาแตกหัก
หากจะทบทวนบทเรียนเพื่อเสริมสร้างพลังมหาประชาชนคนเสื้อแดงให้เข้มแข็งขึ้นนั้น ผู้เขียนในฐานะแนวร่วมคนเสื้อแดง เป็นมิตรร่วมรบกับคนเสื้อแดง มีข้อสังเกตและข้อเสนอเบื้องต้นบางประการในการถกเถียงพิจารณากันเพื่อสิ่งที่ดีขึ้นในอนาคต
1. ขบวนการเสื้อแดง จำเป็นต้องขยายการนำให้มีตัวแทนทั้งลักษณะบุคคลสังกัดพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย(พรรคเพื่อไทย) และองค์กรแนวร่วมที่ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย(พรรคเพื่อไทย) เพิ่มขึ้นที่มีจุดร่วม “โค่นล้มระบอบอำนาจอำมาตยาธิปไตย” เพื่อการสร้างการนำรวมหมู่โดยนำเป็นคณะ จำเป็นต้องมีการประกาศแกนนำบุคคลและองค์กรตัดสินใจรวมหมู่ที่ชัดเจนต่อมหาประชาชนเสื้อแดง มีลักษณะประชาธิปไตยรวมศูนย์ เป็นประชาธิปไตยที่รวมศูนย์พลังความคิดพลังคนของกลุ่มย่อยต่างๆที่เป็นอิสระในการขับเคลื่อนให้เป็นหนึ่งเดียว ที่ฟังเสียงจากของมวลมหาประชาชน กลุ่มย่อยต่างๆของพลังเสื้อแดงด้วย
ยกตัวอย่างรูปธรรม เช่น มีคุณ
2 .องค์กรในระดับจังหวัด ท้องถิ่น ภาค ก็มีการจัดตั้งเช่นเดียวกับ ขบวนการเสื้อแดงศูนย์กลาง ก็ต้องคิดค้นการนำแบบเดียวกับข้อที่1 นำจุดร่วม ของกลุ่มพลัง กลุ่มย่อยต่างๆที่ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองเพื่อไทย รวมกันสร้างการนำที่เปิดกว้างขึ้น ขยายฐานองค์กร ขยายฐานมวลมหาประชาชน เพื่อไม่ให้การเคลื่อนไหวโดดเดี่ยวแคบเกินโดยไม่จำเป็น
3.ขบวนการเสื้อแดง ไม่ได้ปฏิเสธทักษิณ ชินวัตร เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญ เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการเสื้อแดง แต่ก็ต้องเสนอเนื้อหาหลักการประชาธิปไตยที่ชัดเจนกว่าการชูตัวบุคคล เพื่อไม่ให้ศัตรูฝ่ายตรงข้ามฉวยโอกาสทำลายความชอบธรรมในการต่อสู้ว่า ขบวนการเสื้อแดงทำเพื่อคนคนเดียวเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาและเป็นอยู่มวลมหาประชาชนคนเสื้อแดงก็ก้าวพ้นตัวบุคคลไปแล้ว รวมทั้งต้องขยายสำนึกประชาธิปไตยทั้งในระบบรัฐสภาและประชาธิปไตยนอกระบบรัฐสภาด้วยเช่นกัน
4. ขบวนการเสื้อแดงต้องชูธงการต่อสู้แบบสันติ ไม่ใช่การต่อสู้แบบขบวนการใต้ดินหรือติดอาวุธ ซึ่งทำให้ศัตรูอ้างเหตุในการปราบปรามได้ และไม่สามารขยายแนวร่วมให้กว้างขวางได้ด้วย ภายใต้เงื่อนไขทางสภาวะวิสัยที่ไม่จำเป็นแต่อย่างใด นอกจากศัตรูปิดเงื่อนไขในการต่อสู้อย่างสันติ
5.ขบวนการเสื้อแดง ต่อสถานการณ์ปัจจุบันนั้น ไม่เพียงแต่การเสนอเพื่อยกเลิกอำนาจของอำมาตยาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ 40 ทวงคืนรัฐธรรมนูญ 40 เท่านั้น ต้องมีการสรุปบทเรียนจุดอ่อนข้อด้อยของรัฐธรรมนูญ ปี40 ที่ผ่านมา และมีการระดมข้อเสนอจากประชาชนและมวลชนเสื้อแดงเพิ่มเติมที่ก้าวหน้ากว่ารัฐธรรมนูญปี 40 ด้วยเช่นกัน
6.ขบวนการเสื้อแดง ต้องคิดค้นการจัดตั้งสมาชิกในรูปแบบต่างๆ ยกระดับด้านจิตสำนึกประชาธิปไตยให้เข้มข้นขึ้น นำพาและร่วมการต่อสู้กับสมาชิกในชีวิตประจำวัน ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องราวต่างๆที่สมาชิกถูกกดขี่เอารัดเอาเปรียบ (สมาชิกขบวนการเสื้อแดงส่วนใหญ่เป็นคนจนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจำนวนมาก)
7. ขบวนการเสื้อแดง ต้องคิดค้นเสนอทางออกสังคมไทยที่เป็นสังคมที่เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ ปฎิรูปที่ดิน กระจายอำนาจ ปกครองท้องถิ่น รัฐสวัสดิการ ฯลฯ ที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงภายใต้ยุคทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ คิดค้นทางออกแผนประเทศไทยใหม่ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและการเมืองเหมือนเช่น ข้อเสนอของคณะราษฎร
“ภาระกิจการต่อสู้เพื่อโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย เป็นภารกิจทางประวัติศาสตร์ ย่อมเป็น การต่อสู้ที่ยืดเยื้อและยาวนาน ต้องมั่นสรุปบทเรียน การจัดตั้งที่เข้มแข็งย่อมนำพาสู่ชัยชนะที่ถาวรในที่สุด ”