ที่มา ประชาไท
22 ส.ค.53 ที่ศาลา3 วัดคลองเตยนอก ครอบครัวแสนประเสริฐศรี จัดงานทำบุญครบรอบ 100 วันการเสียชีวิตของนายมานะ แสนประเสริฐศรี หรือเบิร์ด อายุ 21 ปี อาสาสมัครกู้ชีพที่ถูกยิงเข้าที่ศีรษะระหว่างเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บจากการ สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 15 พ.ค.53 บริเวณซอยงามดูพลี บ่อนไก่ โดยมีญาติมิตรเพื่อนฝูง รวมทั้งนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของนางสาวกมนเกด อัคฮาด หรือเกด อายุ 25 ปี พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนารามเมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 ร่วมงานด้วย
นางนารี แสนประเสริฐศรี มารดาของเบิร์ดกล่าวว่าแม้จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกระทรวงพัฒนาสังคมฯ แล้ว 4 แสนบาท แต่ก็ไม่คุ้มค่ากับการสูญเสียลูกชายคนเล็กของบ้านไป และสิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือให้ผู้กระทำผิดไม่ว่าจะเป็นใครถูกลงโทษตาม กระบวนการยุติธรรม
สำหรับประวัติของเบิร์ดนั้น นางนารี กล่าวว่า เบิร์ดเป็นลูกชายคนเล็กในบรรดาลูก 4 คน และมีนิสัยชอบช่วยงานอาสาสมัครมาตั้งแต่ยังเล็ก อายุ 10 กว่าปีก็ไปนั่งเฝ้าดูรถดับเพลิงที่สถานีดับเพลิงใกล้บ้าน และเมื่อโตขึ้นก็มักติดตามไปช่วยงานดับเพลิงเป็นประจำ รวมทั้งงานอาสาสมัครช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจนกระทั่งเรียนหนังสือไม่จบ และออกมาทำงานรับจ้างขนของ ขายขนมปัง ขับมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ขับแท็กซี่ ในช่วงเหตุการณ์สึนามิเบิร์ดก็ลงพื้นที่ไปเป็นอาสาสมัคร และเมื่อสอบเข้าเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิปอเต๊กตึ๊งเต็มตัวเบริ์ดรู้สึก ภูมิใจมาก และไม่คิดว่าเขาจะถูกยิงขณะที่เข้าไปช่วยเหลือคนอื่นๆ แบบนี้
เบส พี่ชายของเบิร์ดกล่าวว่า น้องชายเป็นคนที่มีจิตอาสามาตั้งแต่ยังเด็ก สมัยที่ขับแท็กซี่ก็มีชุดอาสาสมัครติดรถ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเขาถึงกับเคยขอให้ผู้โดยสารลงก่อนถึงที่หมาย โดยไม่คิดเงิน เนื่องจากต้องการไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ
นาง พะเยาว์ อัคฮาด มารดาของเกด กล่าวว่า ตนเองและบรรดาญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงผู้บาดเจ็บ จะเดินไปยังกรมค้มครองสิทธิและเสรีภาพในวันพรุ่งนี้ (23 ส.ค.) เพื่อทวงถามความช่วยเหลือ การเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทุกคน เนื่องจากทราบว่าคณะกรรมการฯ ที่ติดตามเรื่องนี้ได้เลื่อนประชุมจากเดือนที่แล้วเนื่องจากองค์ประชุมไม่ ครบและเกรงว่าในเดือนนี้จะมีการเลื่อนประชุมอีก จึงต้องการทวงถามและเรียกร้องหน่วยงานต่างๆ ที่ดูแลเรื่องนี้ว่าควรจะกระตือรือร้นในการให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะกับผู้ บาดเจ็บจำนวนมากที่ยังไม่ได้ค่าชดเชย เพราะพวกเขาประสบความยากลำบากอย่างมากเพราะขาดรายได้และต้องมีค่าใช้จ่ายใน การรักษาพยาบาล
“ที่ สำคัญ พวกเราอาจแวะไปที่ดีเอสไอด้วย เพื่อร่วมฟังการแถลงข่าวผลการชันชันสูตรศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ว่าจะออก มาเป็นอย่างไร และอยากรู้ว่าในฐานะญาติผู้สูญเสียเขาจะให้เราเข้าฟังด้วยหรือไม่” นางพะเยาว์กล่าวก่อนเดินทางไปเยี่ยมนายฐานุทัศน์ อัศวสิริมั่นคง อายุ 54 ปีซึ่งได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน 3 นัดบริเวณบ่อนไก่วันที่ 15 พ.ค.ปัจจุบันยังไม่สามารถเดินและขยับท่อนล่างของร่างกายได้