ที่มา มติชน
เปิดข้อหาใหม่คดี"ผู้พิพากษาอุทธรณ์"ฉาว ใช้ใบแพทย์ปลอม
ประกันผู้ต้องหายาเสพติดตบตาศาลฎีการีด7ล้าน
ผู้สื่อข่าว"มติชนออนไลน์"รายงานว่าความหน้า
กรณีมีการทำหนังสือร้องเรียนถึงคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.)กล่าวโทษ
ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รายหนึ่งว่า มีพฤติการณ์ฉันท์ชู้สาวกับหญิงที่มีสามี
และ ยังอาศัยหญิงรายดังกล่าว(คนสนิท)ใช้ในการเรียกรับสินบน
ในการตัดสินพิพากษาคดีต่างๆหลายคดีเป็นเงินรวมแล้วกว่า 70 ล้านบาท
จน ก.ต.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงว่า
นอกจากเรื่องกล่าวแล้วยังมีอีกข้อหาหนึ่งที่ผู้ร้องได้กล่าวหา
ผู้พิพากษารายนี้คือ กรณีผู้พิพากษารายนี้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินวิ่งเต้น
ให้ประกันตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดคนหนึ่งจำนวน 7 ล้านบาท
โดยใช้หลักฐานใบรับรองแพทย์ปลอมจากโรงพยาบาลราชฑัณฑ์ว่า
ผู้ต้องหามีอาการป่วยหนักจนถึงขั้นจะต้องได้รับการรักษาผ่าตัดดวงตา
นำไปอ้างต่อชั้นศาลฎีกาจนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กรณีนี้หลังจาก ก.ต.ได้รับเรื่องร้องเรียน
คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจจริงได้ตรวจสอบจนพบว่า
กลุ่มผู้ถูกร้องให้ญาติของผู้ต้องหาไปเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเรือนจำกลางแล้ว
ให้โรงพยาบาลกลางของเรือนจำออกใบรับรองแพทย์ให้
จากนั้นญาติของผู้ต้องหาได้ร่วมกับกลุ่มผู้ถูกร้องนำแบบฟอร์ม
ใบรับรองแพทย์ดังกล่าวไปทำรับรองแพทย์ขึ้นมาใหม่
และ เขียนบรรยายอาการป่วยอย่าสงละเอียดจนน่าเชื่อถือว่า
ผู้ต้องหาคดียาเสพติดมีอาการเจ็บป่วยขั้นรุนแรงจริง
จนผู้พิพากษาศาลฎีกาหลงเชื่อว่าเป็นใบรับรองแพทย์จริงจึงตัดสินใจให้ประกันตัว
"ความจริง สามีของผู้หญิงที่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รายนี้
มีความสัมพันธ์ด้วย ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดในดวงตาจนตาบอด
ฝ่ายหญิงก็นำเอาอาการเจ็บป่วยของสามีตัวเอง ไปเขียนบรรยายในใบรับรองแพทย์
ให้ดูหนักแน่นเสมือนจริง เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการวิ่งเต้นประกันตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด
เป็นเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งที่ผู้ร้อง รับไม่ได้เพราะเห็นว่า
เป็นคดียาเสพติดจึงร้องเรียนเอาผิดผู้พิพากษารายนี้" แหล่งข่าวกล่าว
และว่าความจริงก.ต.จะต้องแจ้งความเอาดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ถูกกล่าวหากลุ่มนี้ด้วย
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ผู้พิพากษารายดังกล่าวถูกร้องเรียน 4 ข้อกล่าวหา
1. มีการเรียกสินบนเป็นเงิน 70 ล้านบาทในการพิจารณาคดีบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง
ที่กลุ่มผู้บริหารบริษัท ถูกกล่าวหาว่า กระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ในการยักยอกทรัพย์หรือไซ่ฟ่อนเงินของบริษัทและเกี่ยวพันกับตระกูลนักการเมืองระดับรัฐมนตรี
ซึ่งศาลชั้นต้นสั่งยกฟ้อง
2.คดีโรงแรมชื่อดังย่านสุขุมวิท
3. คดีการประกันตัว เจ้าของบริษัทที่เปิดขึ้นบังหน้าเป็นจำเลยในคดีตาม พ.ร.บ. การกู้เงิน
อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่มีการเรียกเงินสินบน 2 ล้านบาท
หลังจากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว
จำเลยได้ซื้อรถยนต์ Benz รุ่น S 280 ปี 2002 ในราคา2.1 ล้านบาท
ที่เหลืออีก 1.5 ล้านบาทบาท จัดไฟแนนซ์ให้อีกด้วย
4.เรียกสินบน 3.5 ล้านบาทในการสั่งอนุญาตการปล่อยชั่วคราวชาวต่างประเทศรายหนึ่ง
โดย ทนายความหญิงของจำเลยได้ยื่นคำร้องประกอบการขอปล่อยชั่วคราวต่อศาลอาญา
และศาลอุทธรณ์มาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่ได้รับการอนุญาต
ทนายความจึงติดต่อผ่านหญิงที่มีสัมพันธ์กับผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์
ซึ่งตกลงเรื่องเงินสินบนเป็นเงิน3.5 ล้านบาท
จากนั้นเมื่อเดือนกันยายน 2552 ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รายดังกล่าว
มีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยตามข้อตกลง