ที่มา ประชาไท
ผม เห็นด้วยกับข้ออ้างของประชาธิปัตย์ที่ว่า ราชประสงค์เป็นพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนไม่ว่าจะสีไหน หรือพรรคการเมืองอะไรก็มีสิทธิ์เข้าไปใช้อย่างเท่าเทียม
แต่ก็มี ความเห็นต่างออกไปว่า การที่ประชาธิปัตย์จะเปิดปราศรัยที่ราชประสงค์ซึ่งได้กลายเป็น “พื้นที่ทางประวัติศาสตร์” แห่งความขมขื่นของไพร่ในพายุเกี้ยวกราดแห่ง “ราชประสงค์” นั้น มันเป็น “การฆาตกรรมซ้ำ” ที่เลือดเย็นอำมหิตจนเกินไป!
ฆาตกรรมซ้ำที่ว่านี้ ผมหมายถึง “ฆาตกรรมมโนธรรมของสังคม”
เพราะ หากการปราศรัยนั้นเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เป็นการอ้างการรักษากฎหมาย แต่เบี่ยงเบน “เจตนารมณ์” ในการใช้กฎหมายปกครองบ้านเมือง ก็เท่ากับคุณกำลังพยายามทำให้ “มโนธรรมของสังคม” หรือสำนึกถูก ผิด ดี ชั่วทางการเมืองของสังคม “บิดเบี้ยว” ไป
การพยายามทำให้มโนธรรมของ สังคมบิดเบี้ยว ไม่เที่ยงตรง ด้วยการโกหก แถ หรือใช้ข้ออ้างต่างๆ นานา เพื่อที่จะสรุปว่า “ประชาธิปัตย์ไม่มีความผิดใดๆ เลย ในการสลายการชุมนุมช่วง เมษา-พฤษภา 53” เท่ากับเป็นการ “ฆาตกรรมมโนธรรมของสังคม”
และมันเป็นการฆาตกรรมที่เลือดเย็นอำมหิตใน ความหมายว่า คุณรู้อยู่แล้วว่าคุณขึ้นมาเป็นรัฐบาลโดยการสนับสุนนของทหาร อำมาตย์ หรือ “อำนาจนอกระบบ”
แม้ว่าโดย “พิธีกรรม” แล้ว คุณจะผ่านกระบวนการรัฐสภา แต่โดยที่มีการสนับสนุนที่ว่านั้นอยู่เบื้องหลัง คุณจึงไม่มีความชอบธรรมตั้งแต่แรก และโดยความไม่ชอบธรรมดังกล่าว จึงทำให้คนเสื้อแดงมีความชอบธรรมที่จะมาเรียกร้องอำนาจของประชาชนกลับคืน
ทว่า สถานการณ์มันเลยมาถึงคนตาย 91 ศพ บาดเจ็บร่วม 2,000 คน ความสูญเสียดังกล่าวนี้ เกิดจากการสลายการชุมนุมของคุณ แล้วคุณยังมาบอกว่า คุณไม่มีส่วนผิดใดๆ เลย นี่มันจึงสะท้อน “ธาตุแท้” ที่เลือดเย็นและอำมหิตเหลือที่จะเข้าใจได้
ความเลือดเย็นอำมหิตในอีก ความหมายหนึ่งคือ พ่อแม่ญาติมิตรของคนตาย คนบาดเจ็บ พิการอีกจำนวนมากที่เขาเจ็บปวดเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม และประชาชนอีกจำนวนมากที่ต่างก็รู้กันว่า คนที่ตายและบาดเจ็บจำนวนมากไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ไม่ใช่ขบวนการล้มเจ้า
คน เหล่านี้เขารอมากว่าหนึ่งปี เพื่อให้รัฐบาลประชาธิปัตย์ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการให้เกิดความเป็น ธรรม แต่ก็ไม่มีความชัดเจนใดๆ เลย
แล้ววันที่ 23 มิถุนายนนี้ ประชาธิปัตย์บอกว่าจะไปเปิดเผย “ความจริง” ที่ราชประสงค์ ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง การเปิดเผย “ความจริง” ในบริบทของสถานการณ์เช่นนี้มันจึงอำมหิตเลือดเย็นมาก
คือ มันอำมหิตต่อประชาชนที่ถูกฆ่าตาย คนบาดเจ็บ คนพิการ และพ่อแม่ญาติมิตรของพวกเขา และมันดูถูกสติปัญญาของประชาชนที่ติดตามข่าวสารการเมืองมาตลอดเป็นอย่าง ยิ่ง!
ถ้าประชาธิปัตย์มี “ความจริง” ที่เห็นว่า เปิดเผยออกมาแล้วมันจะทำให้ประชาชนได้เข้าใจถูกต้อง เป็นความจริงที่ผ่านการตรวจสอบมาถูกต้องชัดเจนแล้วอย่างแฟร์กับทุกฝ่ายที่ เกี่ยวข้อง และการนำมาเปิดเผยจะเป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองจริง แล้วทำไมจึงเจาะจงมาเปิดเผยตอนนี้ที่ราชประสงค์
ทำไมกว่า 1 ปี ที่ผ่ามาจึงไม่นำ “ความจริง” ที่ว่านี้มาเปิดเผยเลย!
ฉะนั้น การอ้างว่าจะเปิดเผย “ความจริง” และเจาะจงจะเปิดเผยความจริงดังกล่าวที่ราชประสงค์ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหา เสียง จึงเป็นการกระทำที่ไม่ตรงไปตรงมา
ความไม่ตรงไปตรงมานี้ มันหมายถึงการไม่เคารพ “ความจริง” ไม่เคารพ “ความหมายทางประวัติศาสตร์” ของราชประสงค์
และในที่สุดก็คือ ในฐานะพรรคการเมืองช่างไม่เคารพประชาชน ไม่เคารพ “มโนธรรมที่เที่ยงตรง” ของสังคมเอาเสียเลย!
สำหรับ คนเสื้อแดง โดยเฉพาะพ่อแม่ญาติมิตรของผู้บาดเจ็บล้มตาย อาจต้อง “อดทน” กับความอำมหิตเลือดเย็นดังกล่าวมา แต่หากเรามองอีกแง่หนึ่ง การที่พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจเลือกปราศรัยที่ราชประสงค์ย่อมมีความหมาย สำคัญมาก
ความหมายสำคัญมากที่ว่านี้คือ พรรคประชาธิปัตย์จะได้ช่วยเขียน “ประวัติศาสตร์ราชประสงค์” ให้สมบูรณ์ขึ้น
หมายความว่า ประวัติศาสตร์ราชประสงค์จะได้จารึกเอาไว้ว่า “ที่นี่มีคนตาย และมีพรรคการเมืองที่ทำให้คนตายมาทำฆาตกรรมซ้ำอีก”