ที่มา มติชน
คำ ผกา
ระหว่างเสวนาในห้องประชุม ม.ศิลปากร
กลาย เป็นประเด็นที่ถูกเขียนถึง ในสังคม"โซเชียล เน็ตเวิร์ก" หลังจาก "คำ ผกา"นักเขียนชื่อดัง พูดในงานเสวนา "Be Young and Shut Up? พิธีกรรมการรับน้องใหม่ในสถาบันอุดมศึกษาของไทย" เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยงานนี้จัดขึ้นในห้องประชุม ของมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ
หลัก ใหญ่ใจความที่ "คำ ผกา" พูดถึงคือ เธอเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งรู้สึกว่าตัวเองเก๋าพอที่จะไม่เข้าร่วมพิธีกรรมรับน้อง จึงไม่เคยเข้าห้องว้าก ไม่เคยขึ้นดอยสุเทพ ซึ่งเป็นประเพณีที่รุ่นพี่ให้รุ่นน้องทำทุกปี
นอกจากนี้นักเขียนชื่อ ดังได้กล่าวว่า ระหว่างทางเดินขึ้นห้องประชุม เห็นมีการรับน้องปีหนึ่งอยู่ข้างล่าง และเด็กทุกคนมีป้ายชื่อ ว่า "เห็น เด็กปี1 ทุกคนใส่ป้ายชื่อ และมีซีเรี่ยลนัมเบอร์เหมือนสัตว์ในฟาร์ม และมีความสุขความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบนี้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะเปลี่ยนคือต้องเปลี่ยนอุดมการณ์ความภาคภูมิใจของสังคม ทั้งหมด ว่า ความภาคภูมิใจ ศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัยไม่ได้อยู่ที่ความยิ่งใหญ่ของสถาบันในเชิงพิธีกรรม แต่ขึ้นอยู่ว่ามหาวิทยาลัยของคุณ มีรางวัลได้โนเบลกี่คน มหาวิทยาลัยศิลปามีศิษย์เก่าไปแสดง exhibition ที่ไหนในโลกนี้ และได้รับการยอมรับในระดับโลกบ้าง"
"ขอฟันธงเลยว่าสาเหตุที่ ศิลปากรไม่มีศิลปินระดับโลก เป็นเพราะยังรักษาระบบรับน้องอย่างเหนียวแน่น เพราะว่ามันไปบล็อกต่อมความคิดสร้างสรรค์ และวิญญาณที่อยากจะท้าทาย establishment ทั้งหมด ในเมื่อคุณไม่คิดอยากท้าทาย establishment ใดๆ ทั้งสิ้น คุณไม่มีทางเป็นศิลปินที่น่าสนใจได้เลยในโลกนี้"
จาก คำพูดเหล่านี้ ทำให้เกิดกระทู้ในเว็บไซต์ชื่อดัง อย่าง "พันทิป" ในหัวข้อ "คำพูดของ คำ ผกา ดูหมิ่นมหาวิทยาลัยศิลปากรมากเกินไปนะ" และร้อนแรงจนกลายเป็นกระทู้แนะนำในห้องสยามสแควร์ไปแล้ว
ใน ความคิดเห็นเกือบ 200 ความคิดเห็น ส่วนมากอ้างตัวเป็นนักศึกษาหรืออดีตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร และเห็นด้วยกิจกรรมรับน้อง ได้ตอบโต้"คำ ผกา" ว่า เธอไม่เคยผ่านระบบรับน้องแล้วจะรู้ถึงข้อดีข้อเสียของพิธีกรรมนี้ได้อย่างไร
นอก จากนี้ ยังมีอีกส่วนกล่าวว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้ผลิตบุคคลผู้มีผลงานในระดับโลก อย่าง อ.ถวัลย์ ดัชนี จิตรกรชื่อดัง และศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ซึ่งอ.ถวัลย์ เป็นศิษย์เก่าคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ และได้เป็นศิษย์รุ่นท้ายๆ ของ ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี
ขณะ ที่ผลิตบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายและส่วนมากเป็นศิลปินแห่งชาติ ไม่ว่าจะเป็น "อังคาร กัลยาณพงศ์"กวีและจิตรกรชื่อดัง "สุจิตต์ วงศ์เทศ"นักประวัติศาสตร์และนักเขียน "เผ่าทอง ทองเจือ"ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ "จักรพันธุ์ โปษยกฤต"ศิลปินชื่อดัง "เกียรติศักดิ์ ชานนนารถ" "นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน" "มานิต ภู่อารีย์" "ฤทัย ใจจงรัก" "พล.อ.ต.อาวุธ เงินชูกลิ่น" "เสนีย์ วิลาวรรณ" รวมทั้งนายชวน หลีกภัย
ส่วน ประเด็นที่ว่า เด็กปี1 ต้องใส่ป้ายชื่อ เหมือนสัตว์ในฟาร์มนั้น มีผู้ตอบโต้ว่า "เรื่องการมีหมายเลขประจำตัว เท่ากับเหมือนสัตว์ในฟาร์ม ผมก็ไม่รู้ว่า คุณคำผกา สักแต่พูดแรงเพื่อเปรียบเทียบหรือเปล่า แต่ถ้าบอกว่ามีหมายเลขประจำตัว เท่ากับเหมือนสัตว์ในฟาร์ม ผมว่า เราชาวไทยทุกคน รวมทั้งคุณคำผกา ก็เป็นสัตว์ในฟาร์มเหมือนกันหมด เพราะเรามีหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนมาตั้งแต่เกิดครับ"
นอก จากในกระทู้เดือดของเว็บไซต์พันทิป ซึ่งมีการโพสต์ลิงก์ประวัติของเธอ ทั้งประวัติส่วนตัว ผลงานเขียน และบทสัมภาษณ์พิเศษที่แสดงถึงทัศนคติของเธอ รวมทั้งข้อความตอบโต้อย่างเจ็บแสบ
ยังมีการตั้งแฟนเพจในเฟซบุ๊คตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจชื่อ่วา "มั่นใจว่าเด็กศิลปากรไม่พอใจคำพูดของคำผกา" โดย มีรายละเอียดว่า การสร้างเพจนี้ขึ้นมาไม่ใช่เพื่อจะจุดประเด็น แต่เพื่อต้องการแสดงจุดยืนว่า เราไม่ชอบ และไม่ต้องการให้บุคคลดังกล่าว มากล่าวว่าสถาบันของคนอื่นอย่างเสีย ๆ หาย ๆ และมีสมาชิกแล้วจำนวน 3,948 คน (เมื่อเวลา 14.20น. วันที่ 20มิ.ย.) และเฟซบุ๊ค "มั่นใจว่าเด็กมช.และศิลปากรส่วนใหญ่ไม่พอใจ คำผกา" มีจำนวนสมาชิก 3,059 คน (เมื่อเวลา 14.20น. วันที่ 20มิ.ย.)
และยังมีแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า รวมพลคน"เกลียดคำผกา" อีกต่างหาก
ลาม ไปจนถึงเฟซบุ๊คของ "คิดเล่นเห็นต่างกับคำผกา" (รายการของเธอที่ออกทางช่อง voice tv) มีศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันมาโพสต์กร่นด่าในทำนองเดียวกับกระทู้พันทิปและ อีก 2 แฟนเพจ แต่ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ผู้โจมตีนักเขียนสาวเพียงฝ่ายเดียว ยังมีแฟนคลับของเธอเข้ามาในกำลังใจประชันด้วย
แม้จะไม่เท่ากับผู้ที่ต่อต้านเธอก็ตาม..