WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, June 23, 2011

จากใจนายจตุพร ถึงนายอภิสิทธิ์

ที่มา Voice TV

จากใจนายจตุพร ถึงนายอภิสิทธิ์

จตุพร ชี้ อภิสิทธิ์ หวังแต่ชนะการเลือกตั้ง จึงยัดเยียดข้อกล่าวหาให้กลุ่มคนต่าง ๆ จนไปเปิดปราศรัยที่ราชประสงค์

ผมนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ถูกคุมขังจากการกล่าวหาของเจ้าหน้าที่รัฐในความผิดฐานก่อการร้าย ได้มีโอกาสรับทราบบันทึกของนายอภิสิทธิ์เรื่อง “จากใจนายอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ” รวม 5 ตอน ที่เผยแพร่ในเฟซบุค ตลอดจนคำสัมภาษณ์ คำปราศรัยหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยกล่าวถึงเรื่องการสลายการชุมนุมของประชาชน “แนวร่วมประชิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” ทั้งบริเวณสี่แยกคอกวัวและสี่แยกราชประสงค์ และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 91 ศพ บาดเจ็บ 2,000 กว่าคน และในวันที่ 23 มิถุนายน นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์จะไปปราศรัยที่ราชประสงค์ พฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์ในช่วงระยะเวลานี้

นายอภิสิทธิ์คงลืมฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีและความเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนการ ยุบสภา เพราะความเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์ในเวลานี้ นายอภิสิทธิ์คงคิดแต่เพียงอย่างเดียวว่าทำอย่างไร “พรรคประชาธิปัตย์จะชนะการเลือกตั้ง” เท่านั้น

แต่หากนายอภิสิทธิ์ ไม่ลืมฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ คงไม่พูดในลักษณะยัดเยียดข้อหาเผาบ้านเผาเมือง หรือข้อหาก่อการร้ายให้กับใคร หรือพรรคการเมืองใด เพราะในฐานะนายกรัฐมนตรีหรือรักษาการนายกรัฐมนตรีในเวลานี้ ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารไม่ควรชี้นำกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาล อีกทั้งรัฐธรรมนูญก็คุ้มครองว่า “ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้” นายอภิสิทธิ์ คิดเช่นนี้ นายอภิสิทธิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีคงไม่เผยแพร่เฟซบุคกล่าวหาใคร และนายอภิสิทธิ์ต้องบอกกับพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้มาเปิดปราศรัยใหญ่ที่แยก ราชประสงค์

แต่เพราะเหตุที่นายอภิสิทธิ์ มุ่งชนะการเลือกตั้งในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่สนใจ ไม่นำพาต่อตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี และไม่สนใจต่อคำพูดของตนเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551 ที่กล่าวหานายกรัฐมนตรีในอดีตท่านหนึ่งว่า “ผมไม่นึกไม่ฝันว่า เรามีรัฐ ที่ได้ทำร้ายประชาชนถึงขั้นเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส แล้วยังมีรัฐ ที่พยายามยัดเยียดความผิดกลับไปให้ประชาชนอีก เป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้ครับ บัดนี้ เขาสูญเสียไปแล้ว นายกฯ ไปยัดเยียดข้อหาใส่เขาอีก พฤติกรรมอย่างนี้ไม่มีทางนำพามาซึ่งความสมานฉันท์ ความปรองดอง”

ถามว่า การที่นายอภิสิทธิ์ไปยืนพูดปราศรัย ที่สี่แยกราชประสงค์ ในวันที่ 23 มิถุนายน นายอภิสิทธิ์ คงมิใช่คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เพราะหากนายอภิสิทธิ์ สำนึกว่าตนเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยแล้ว นายอภิสิทธิ์ก็จะต้องสำนึกถึงคำพูดของตนที่เคยกล่าวหา อดีตนายกรัฐมนตรีคนอื่น โดยเฉพาะคำพูดของตนที่ว่า “บัดนี้เขาสูญเสียไปแล้ว นายกฯ ไปยัดเยียดข้อหาใส่เขาอีก” และอยากจะถามว่า การที่นายอภิสิทธิ์ไปยืนปราศรัยยัดเยียดข้อหาให้กับผู้สูญเสีย แล้วนายอภิสิทธิ์โชคดีได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ถามว่านายอภิสิทธิ์จะนำพาความสมานฉันท์ ความปรองดองให้เกิดกับสังคมตามที่ตนเคยพูดไว้อย่างไร

เมื่อนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจที่จะเลือกปราศรัยที่สี่แยกราชประสงค์ ผมก็มีคำถามถึงนายอภิสิทธิ์ ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี (ซึ่งนายอภิสิทธิ์คงลืมไปแล้วในเวลานี้) มิใช่ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดังนี้

1. “ใครฆ่าประชาชน”

(1) ชายชุดดำที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวอ้างตลอดระยะเวลา 1 ปีเศษ นับแต่เกิดเหตุ เป็นใคร ทำไมถึงจับกุมไม่ได้ และในเวลาที่อ้างชายชุดดำเป็นผู้ก่อการร้าย มีทหารจำนวนมาก แต่ทำไมสามารถจับกุมชายชุดดำ ผู้ก่อการร้ายไม่ได้แม้แต่คนเดียว

(2) การฆาตกรรมหมู่ที่วัดปทุมวนารามจำนวน 6 ศพ “เขตอภัยทานของวัด” ทำไมทั้งคุณ และนายสุเทพ ได้ตอบอภิปรายในสภาอันทรงเกียรติไม่ยอมรับว่า ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 หลังจากเวลา 18.30 น. แล้วไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่บนรางรถไฟบีทีเอสอย่างแน่นอนและเด็ดขาด ข้างล่างก็ถอน ข้างบนก็ถอน ไปตั้งหลักอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม และยืนยันว่าการปะทะอยู่ที่มุมซ้าย ไม่ใช่ที่หน้าประตูวัด” รายละเอียดปรากฎตามบันทึกรายงานการประชุมสภาหน้า 251 – 253 และนายสุเทพ ยังอ้างตอบอภิปรายว่า “สงสัยว่ายิงกันเอง”

รายละเอียดปรากฎตามรายงานการประชุมสภา หน้า 257 ส่วนตัวคุณเองยังอ้างอีกว่า เป็นการยิงจากแนวราบไม่ใช่เป็นการยิงจากที่สูง คำพูดของคุณในฐานะนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่ตอบญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภาอันทรง เกียรติแตกต่างกับคำพูดหรือคำให้การของทหารกองพันรบพิเศษที่ 1 กรมรบพิเศษที่ 3 ลพบุรี ได้แก่ 1. จ.ส.อ.สมยศ ร่มจำปา 2. ส.อ.เดชากร มาขุนทศ 3. ส.อ.ภัทรนนท์ มีแสง 4. ส.อ.สุนทร จันทร์งาม 5. ส.อ.ชัยวิชิต สิทธิวงษา 6. ส.อ.เกรียงศักดิ์ สีบุ 7. ส.อ.วิฑูรย์ อินทำ

แม้จะเป็นนายทหารชั้นประทวนก็ยังกล้ารับว่าในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 พวกตนปฏิบัติหน้าที่บริเวณวัดปทุมวนารามขึ้นปฏิบัติการบนรางรถไฟฟ้าตั้งแต่ สถานีสนามกีฬา ไปยังสถานีสยาม โดยมี พ.ต.นิมิตร วีระพงศ์ เป็นหัวหน้าภารกิจป้องกันหน่วยทหาร ร.31 พัน 2 รอ. ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณวัดปทุมวนาราม จึงถามว่าคำพูดของพวกคุณ กับนายสุเทพที่ปฏิเสธว่า ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารบนรางรถไฟฟ้านั้น จะให้เลือกเชื่อพวกคุณ หรือทหารดังกล่าวที่ให้การไว้ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ

(3) หลักฐานสำคัญที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รวบรวมมาได้แก่

3.1 การที่กองพันรบพิเศษที่ 1 กรมรบพิเศษที่ 3 ลพบุรี มาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของ ศอฉ. ที่นายอภิสิทธิ์ตั้งขึ้น โดยมีนายสุเทพฯ เป็นผอ. ศอฉ. ร่วมกับพลเอกอนุพงษ์ฯ และพลเอกประยุทธ์ฯ คือ คำสั่งศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ที่ 44/2553 เรื่องให้กำลังพลปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งของ ศอฉ. ตั้งแต่ 8 เมษายน 2553 จนจบภารกิจ “หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ” เป็นหน่วยทหารที่ขึ้นตรงต่อกองทัพบก อย่างนี้แล้ว พลเอกอนุพงษ์ฯ และพลเอกประยุทธ์ฯ คงจะหนีความรับผิดชอบไม่พ้น ส่วนนายอภิสิทธิ์ฯ และนายสุเทพฯ ในฐานะผู้กำกับควบคุม ดูแล

ศอฉ. ไม่ต้องพูดถึง หนีความรับผิดชอบไม่ได้อยู่แล้ว หลักฐานที่ว่า ปรากฎตามคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษที่44/2553 คุณจะยังปฏิเสธว่าคุณมิได้สั่งการให้ทหาร มาใช้กำลังอีกหรือไม่

3.2 หลักฐานสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ฆาตกรได้นำมาฆาตกรรมหมู่ประชาชนจำนวน 6 ศพที่วัดปทุมฯ คือ กระสุนหัวเขียว ในร่างผู้ตายหลายศพมีเศษหัวกระสุนเขียวฝังอยู่ในร่าง ซึ่งพ.ต.นิมิตร ฯได้ให้การไว้ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า กระสุนปืนของชุดปฏิบัติการที่ใช้เป็นขนาด5.56มม. โดยเป็นชนิดM855 โดยจะแตกต่างจากกกระสุนปืนอย่างอื่นคือ ที่บริเวณหัวกระสุนจะเป็นสีเขียว สามารถมองเห็นได้ชัด และเบิกจ่ายให้กับชุดปฏิบัติการของพ.ต.นิมิตร ฯด้วย โดยเบิกกระสุนปืนดังกล่าวมาจากต้นสังกัดที่ลพบุรีนอกจากนี้ในรายงานการ ชันสูตรพลิกศพผลการตรวจวิถีกระสุนจำนวน3ศพ บ่งชัดว่า เป็นการยิงจากด้านบนลงด้านล่าง ไม่เป็นไปตามที่คุณพูดว่าเป็นการยิงในแนวราบ เช่นนี้คุณจะยังปฏิเสธว่าการตายของประชาชนที่วัดปทุมวนาราม มิใช่การตายจากทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่อีกต่อไปหรือไม่

3.3 เหตุใดการตายทั้ง 91 ศพ ไม่ผ่านกระบวนการในการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ อาญา มาตรา 150 ว่า “ผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใดและถึงเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ถ้าตายโดยคนทำร้าย ให้กล่าวว่าใครเป็นผู้กระทำร้ายเท่าที่จะทราบได้” แม้แต่การตายของพันเอกร่วมเกล้าฯ ก็ไม่มีการชันสูตรพลิกศพ นับแต่มีเหตุตาย เป็นเวลาปีเศษแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งชาติภายใต้การกำกับ ควบคุม ดูแล ของคุณและนายสุเทพฯ ก็โยนกันมาไม่สามารถส่งเรื่องให้ศาลทำการไต่สวนตามกฎหมาย ถามว่า ทำไมจึงไม่ให้ศาลไต่สวน พวกคุณกลัวอะไร ถ้าให้ผมตอบคุณคงกลัวว่า หากศาลไต่สวนแล้วเห็นว่าการตายเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐพวกคุณต้อง รับผิดชอบใช่หรือไม่

ทุกวันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งชาติคงไม่กล้าทำอะไรกับพวก คุณหรอก ในทางกลับกัน เมื่อพวกคุณไม่ให้มีการชันสูตรพลิกศพและไต่สวนตามกฎหมาย ถามว่าแล้วหากคุณมีสิทธิอะไรมายัดเยียดข้อกล่าวหาว่าใครเป็นคนฆ่าใคร หลักฐานหามีไม่คนที่เสียชีวิตก็ไม่มีอาวุธอยู่ในมือ พวกคุณก็ยังยัดเยียดข้อหาให้เขาอีก มันอยู่ในหลักนิติธรรมหรือไม่

2. กรณีการวางเพลิง

การวางเพลิง โดยเผาเซ็นทรัลเวิร์ลหรือตามจุดต่างๆของประเทศไทย ขณะนนี้เรื่องอยู่ในกระบวนการของศาลยุติธรรมที่จะพิจารณาพิพากษาคดีแต่ทำไม คุณและนายสุเทพฯ จึงมาพูดใส่ร้ายผู้ชุมนุมเป็นผู้เผา ทั้งๆที่คุณและนายสุเทพฯ ทราบบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเป็นอย่างดีว่าก่อนมีคำพิพากษาคดีอันถึงที่สุดแสดง ว่าบุคคลใดได้กระทำความผิดจะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิด มิได้ การที่พวกคุณในฐานะเป็นผู้กุมอำนาจฝ่ายกล่าวว่าหาว่าผู้ชุมนุมและพวกผมเป็น ผู้ก่อให้เกิดการวางเพลิงทั้งๆ ที่ยังไม่มีการพิพากษาคดี พวกคุณจึงกล่าวหาเองและสรุปเองทั้งสิ้น จึงมีคำถามดังนี้

2.1 คุณในฐานะนายกรัฐมนตรีหัวหน้าฝ่ายบริหารก้าวล่วงตุลาการ หรือไม่ เพราะคดีเรื่องวางเพลิง คุณในฐานะหัวหน้ารัฐบาลใช้กลไกลกล่าวหาผู้ชุมนุมและพวกผมทำไม คุณไม่ปล่อยให้ศาลพิจารณาหรือพิพากษาคดีให้ถึงที่สุดเสียก่อน หากเป็นเช่นนี้ถามว่าคุณก้าวล่วงและละเมิดต่อการพิจารณาโดยการชี้นำกระบวน การยุติธรรมใช่หรือไม่

2.2 การเผาเซ็นทรัลเวิลด์มีชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหาร มีอาวุธครบมือ โดยมีระเบิดข่มขู่ใส่เจ้าหน้าที่ จนได้รับบาดเจ็บหลายคน เพื่อไล่ให้ออกจากศูนย์การค้า คนเหล่านั้นเป็นใครกล้าจับ คุณต้องตอบคำถามนี้

2.3 คุณต้องตอบคำถามของพันตำรวจโทชุมพล บุญประยูร เลขาธิการ สมาคมอาสาบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทยที่กล่าวว่า “ตลอดเวลา 2 เดือนเต็มเราได้ประสานไมตรีกับผู้ชุมนุมมาเป็นอย่างดี โดย เฉพาะพวกการ์ดแทบจะรู้จักกันทุกคน แต่ในวันเกิดเหตุเผาเซ็นทรัลเวิลด์ขอบอกว่าไม่เห็นหน้าคนเหล่านั้นเลย มีแต่พวกที่เรียกตัวเองว่า กองกำลังไม่ทราบฝ่าย กลุ่มนี้แหละที่เขาบอกว่าเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นผู้ก่อการร้ายที่แม้แต่ตำรวจและทหารไม่กล้าแตะ ถามว่าทำไมคุณและนายสุเทพฯ ไม่สืบสวนจับกุมคนพวกนี้ คนกลุ่มนี้เข้าออกในที่เกิดเหตุโดยไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกเขา เจ้าหน้าที่มีข้อมูลทุกอย่าง แต่ทำไมถึงจับคนร้ายไม่ได้”

2.4 เวลา 16.30 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถืออาวุธครบมือได้เข้าไปในเซ็นทรัลเวิลด์แต่ต้องถอย ร่นเนื่องจากมีผู้บุกรุกที่แต่งกายคล้ายทหารมีทั้งอาวุธและลูกระเบิด เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมความปลอดภัยของเซ็นทรัลเวิลด์รายงานให้ผู้บริการทราบ แต่ทำไมกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเข้ามารักษาความสงบในศูนย์การค้าต้อง ถอนตัวออกไปจากศูนย์การค้า และถามว่าทำไมทหารที่สี่แยกราชประสงค์ที่มีอยู่จำนวนมากในเวลานั้นไม่เข้ามา รักษาความปลอดภัยในศูนย์การค้า

2.5 ทำไมเจ้าหน้าที่รัฐ หรือ คุณ หรือ นายสุเทพฯ ที่มีหน้าที่ต้องสืบสวนสอบสวนหาความจริงจึงไม่ตรวจสอบหรือเรียกดูกล้องซีซี ทีวี (CCTV) จากห้างเกสรพลาซ่า,จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโรงพยาบาลตำรวจ มาตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุเพราะกล้องทุกตัวสามารถมองเห็นเซ็นทรัลเวิลด์ และถนนโดยรอบเซ็นทรัลเวิลด์ได้ ทำไมไม่ตรวจสอบหรือกลัวว่าตรวจสอบแล้วจะกล่าวหาผู้ชุมนุมไม่ได้ การตรวจสอบสอบนี้รวมถึงคำถามไปยังห้างเซ็นทรัลเวิลด์ด้วยว่ากล้อง ซีซีทีวี (CCTV) ที่บันทึกเหตุการณ์ในอาคารของ เซ็นทรัลเวิลด์ เอาไปเก็บไว้ทำไม และเหตุใดจึงไม่รักษาสิทธิของตนกลัวอะไรจะเกิดขึ้น เพราะกล้องซีซีทีวี (CCTV) จากฝั่งเกสรพลาซ่า สามารถจับภาพตอนอาคารทางเชื่อมของ เซ็นทรัลเวิลด์ ยุบถล่มอย่างต่อเนื่องและมีภาพนาทีอาคารถล่มเท่านั้นที่ปรากฎสู่สาธารณะ ถามว่าภาพก่อนหน้านั้นตั้งแต่เช้า สาย บ่าย และเย็นของวันนั้นเกิดอะไรขึ้น จึงไม่อาจปรากฏสู่สาธารณะชน ทำไมความจริงในบางขณะเวลาจึงหายไปหรือมีอะไรอยู่ในภาพเคลื่อนไหวเหล่านั้น ที่สามารถบ่งบอกชี้วัดได้ว่า ใครเป็นผู้เผาเซ็นทรัลเวิลด์ พวกคุณ และ นายสุเทพฯจึงไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐสอบสวน

2.6 จริงหรือที่คนเสื้อแดงถูกฆ่าตายเพราะไปเผาบ้านเผาเมือง คำถามที่คุณต้องตอบคือ ทำไมคุณไม่สอบสวนว่าใครไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมา ใครไม่ให้นักดับเพลิงเข้าไปดับไฟเพราะถ้าเป็นคนเสื้อแดงเผาจริงคงต้องถูก ปราบปราม และหากจับไม่ได้ก็คงเป็นศพเกลื่อนในศูนย์การค้าแล้ว แต่นี่ไม่สามารถจับผู้วางเพลิงที่แท้จริงได้ส่วนที่ถูกดำเนินคดีอยู่ที่ศาล หาความจริงแล้วน่าจะเป็นแพะ ผมจึงถามคุณและนายสุเทพฯว่าจริงหรือไม่ที่มีการกล่าวว่า “ประเทศไทยของเราอย่าให้ใครมาเผา(แล้วห้ามเข้าไปดับ) อีก”

ผมหวังว่าแม้ในช่วงเวลานี้เป็นความยากลำบากในชีวิตของผมที่ถูกเจ้าหน้าที่ รัฐภายใต้การกำกับดูแลของพวกคุณมากล่าวหาผม แต่ผมก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแม้ผมจะต้องถูกจองจำ ชีวิตผม ครอบครัวของผม ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงของผมต้องมีความลำบากในชีวิตไปพร้อมกับผม แต่ผมหวังว่าในที่สุดแล้วความจริงและความยุติธรรมในสังคม ก็หวังว่าจะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งผมจะรอวันนั้นด้วยความอดทน แต่ระหว่างที่รอพวก คุณควรจะได้ตอบคำถามที่ผมถามคุณด้วย

นายจตุพร พรหมพันธุ์

23 มิถุนายน 2554