ที่มา ข่าวสด
เมื่อ เวลา 06.30 น. วันที่ 21 มิ.ย. ที่ซอยโยธินพัฒนา 3 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี และด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปค์ (PIKE) บุตรชาย ร่วมกันทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 44 ปี ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยนิมนต์พระจากวัดบึงทองหลางจำนวน 9 รูป มารับบาตร ในบริเวณสนามฟุตบอลข้างบ้าน
ในวันนี้ถือเป็นการเปิดตัวครอบครัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการทำกิจกรรมร่วมกันต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นอย่างทางการ โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์และครอบครัวจูงมือกันมา มีใบหน้ายิ้มแย้ม เมื่อใส่บาตรกับพระสงฆ์และกรวดน้ำแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ยืนคุยกับครอบครัวและดึงน้องไปค์มาหอมแก้ม 1 ครั้ง ก่อนที่จะให้น้องไปค์หอมแก้มคืนอีก 1 ครั้ง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันเกิดปีนี้ น้องไปค์มอบโมบายที่ทำขึ้นเองเป็นของขวัญวันเกิด ซึ่งในโมบายเขียนคำอวยพรของสามีและลูก ขอให้ตนมีสุขภาพที่แข็งแรง ประสบความสำเร็จดังที่ใจคิด
เมื่อถามว่า หากได้เป็นนายกฯและมีเวลาน้อยลง จะจัดสรรเวลาให้กับครอบครัวอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงต้องมีบางช่วงที่ต้องพยายามหากิจกรรมทำรวมกันให้ได้ แต่เรื่องของประชาชนและเรื่องของประเทศชาติถือเป็นเรื่องหลักและในวันเกิดตน ไม่ได้อยากได้ของขวัญอะไร แต่อยากเห็นประเทศไทยกลับมาเป็นสยามเมืองยิ้ม และอยากให้เศรษฐกิจในประเทศกลับฟื้นคืนมาเหมือนเดิม
ด้านนายอนุสรณ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้เมื่อภรรยากลับมาถึงบ้านก็จะสลบเพราะหาเสียงตลอดทั้งวัน ส่วนเรื่องที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ตัดสินใจมาทำงานการเมืองนั้นตนก็ได้มีการพูดคุย กันตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เชื่อว่าจะมาเล่นการเมืองจริง ๆแต่เมื่อเป็นสิ่งที่ตัวเขาอยากทำก็คงห้ามไม่ได้ เมื่อเลือกที่จะทำแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด หากจะเล่นการเมืองก็ต้องอดทนเพราะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ซึ่งก็ต้องทำใจ ส่วนตนเองก็ไม่มีปัญหา แต่อาจคุยกันน้อยลง และต้องปรับตัวเรื่องเวลา ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีปัญหา เพราะเขาเป็นคนไฮเปอร์อยู่แล้ว ตนได้ให้คำแนะนำเรื่องความอดทนใครพูดอย่างไร เมื่อเราเป็นคนสาธารณะก็ต้องรับให้ได้ และเมื่อเป็นนักการเมืองแล้วก็ต้องรับกับการตรวจสอบ
เมื่อถามว่ากลัวตัวเองจะถูกตรวจสอบไปด้วยหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ แต่ส่วนตัวไม่ได้มาทำงานด้านการเมือง ทำแต่ธุรกิจก็คงไม่เท่าไหร่ เป็นห่วงแต่น.ส.ยิ่งลักษณ์มากกว่า ส่วนการหาเสียงโค้งสุดท้ายก็คงเดินทางไปให้กำลังใจบ้างก็คงแค่เชียร์คงไม่มี บทบาทอะไร
เมื่อถามถึงกรณีที่ถูกโจมตีเรื่องครอบครัว นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เรื่องครอบครัวถูกโจมตีมาตลอด ซึ่งก็ชินแล้ว เรื่องอย่างนี้อยู่ที่ครอบครัวมากกว่า คนนอกพูดอย่างไร แต่คนในครอบครัวเข้าใจกันก็จบ ความจริงก็คือความจริง ตอนนี้ทุกคนก็คงต้องทำใจ เพราะทั้งญาติพี่น้องต่างก็โนกันหมด ซึ่งทุกเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมชาติและชินแล้ว
เมื่อถามว่า อยากบอกอะไรกับคนที่นำเรื่องครอบครัวมาโจมตีหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เข้าใจว่าคนที่นำเรื่องนี้มาพูดส่วนใหญ่ต่างก็มีครอบครัวมีลูกมีพ่อแม่ ดังนั้นอะไรที่ให้ร้ายเป็นเรื่องไม่จริงก็ขอให้คิดถึงครอบครัวของตัวเอง เพราะเรื่องอย่างนี้ส่งผลกระทบถึงเด็ก พ่อแม่และผู้ใหญ่ ถ้าเป็นเรื่องไม่จริง ทำร้ายจิตใจคนอื่นก็อาจให้เอาความรู้สึกของตัวเองไปอยู่ตรงนั้น อยากให้มีเมตตาต่อกันและความจริงแล้วประเทศไทยก็เป็นเมืองพุทธ
ด้านน้องไปค์ กล่าวว่า ของขวัญวันเกิดแม่เป็นโมบายที่ทำขึ้นเอง โดยใช้เวลาทำอยู่ 2 วัน ซึ่งด้านบนจะเป็นดอกกุหลาบ ส่วนอีกด้านจะเป็นภาพครอบครัวและอีกด้านจะเขียนคำอวยพรของพ่อและตน ที่ขอให้แม่มีสุขภาพ มีความสุขและสำเร็จในสิ่งที่คุณแม่หวัง ที่ทำเป็นโมบายเพราะถ้าเป็นการ์ดจะทำยากและไม่สวยเท่า
เมื่อถามว่า อยากให้คุณแม่เป็นนายกฯ หรือไม่ น้องไปค์ กล่าวว่า ก็อยากอยู่ครับ
เมื่อถามว่า ถ้าแม่เป็นนายกฯอาจจะมีเวลาน้อยลง น้องไปค์กล่าวว่า น้องไปค์ก็คงต้องอยู่บ้าน
ถามว่า จะอวยพรอะไรให้คุณแม่อีกหรือไม่ น้องไปค์ กล่าวว่า ขอให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรงมีสำเร็จในสิ่งที่หวัง สำคัญที่สุดคือ ขอให้เขามีความสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังพูดคุยกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าปลาบปลื้มในตัวลูกชายพร้อมบอกว่า เป็นคนที่กล้าแสดงออกตั้งแต่เด็กๆ ให้จับไมค์ขึ้นเวทีร้องเพลงตั้งแต่ 3 ขวบ เลยชินกับการที่ต้องอยู่กับคนเยอะๆ ตอนสัมภาษณ์สังเกตว่าเขาแทนตัวเองว่าผม ซึ่งเราก็คาดไม่ถึงเพราะอยู่กับครอบครัวจะแทนตัวเองว่าไปค์ ส่วนอนาคตเราก็ไม่ได้กำหนด แต่ดูเหมือนจะชอบด้านธุรกิจ
ส่วนของขวัญเกิดลูกชายแอบนำมาวางไว้ที่หัวเตียงตั้งแต่ช่วงดึกที่ผ่านมา เพื่อให้คุณแม่ตื่นมาเห็นตอนเช้า สำหรับความสัมพันธ์กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในฐานะคุณลุงนั้น ก็สนิทกันเพราะต่อสายพูดคุยกันประจำ และน้องไปค์พูดเสมอว่าเขาภูมิใจ ดีใจที่ได้เกิดมาเป็นหลานลุง เพราะถ้าไม่มีลุงก็คงไม่มีแม่และมีไปค์วันนี้