ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
สมิงสามผลัด
ใจชื้นขึ้นมาทันทีที่เห็น 4 กกต.บินกลับถึงเมืองไทยเมื่อเช้าวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา
เพราะช่วงที่ทั้ง 4 กกต.บินไปเมืองนอกเมื่อสัปดาห์ก่อน แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
สร้างความวิตกกังวลกันไปทั่วเมือง
กลัวจะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มิ.ย.นี้หรือเปล่า
เลือกตั้งใหญ่ 3 ก.ค.นี้จะเกิด"อุบัติเหตุทางการเมือง" อย่างที่คนไทยหวั่นไหวใจกันหรือไม่ !!
พอเห็นทั้ง 4 กกต.กลับมาโดยสวัสดิภาพก็โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง
แต่ก็ยังต้องลุ้นกันต่อไปว่า ถึงที่สุดแล้วจะมีการเลือกตั้งจริงหรือไม่อยู่ดี
สถานการณ์การเมืองตอนนี้ยังง่อนแง่น
"ยุทธศาสตร์ราชประสงค์"ของพรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นที่กังวลอยู่
ว่าจะเป็น"เงื่อนไข"นำไปสู่ความวุ่นวายอีกครั้งหรือเปล่า
อีกทั้งคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อว่าการเมืองไทยต่อจากนี้ไปจะปลอด"อำนาจพิเศษ"
อย่าว่าแต่คนไทยเลย แม้แต่นานาชาติก็จับจ้องมองการ เมืองไทยชนิดไม่กะพริบตา
สำนัก ข่าวเอพีรายงานบทวิเคราะห์การเมืองไทยล่าสุดโดยนายโจชัว เคอร์แลนต์ซิก ผู้เชี่ยวชาญสถาบันวิจัยด้านกิจการวิเทศสัมพันธ์ของสภาด้านความสัมพันธ์ต่าง ประเทศสหรัฐ
มองว่าแม้โพลหลายสำนักของไทยต่างระบุตรงกันว่าพรรคเพื่อไทยของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีคะแนนนิยมนำโด่ง
แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะได้เป็นนายกฯหญิงคนแรก
เพราะเห็นว่าการแข่งขันครั้งนี้จะขยายวิกฤตการเมืองของไทย
ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยอาจถูกทำให้เป็นโมฆะด้วยการรัฐประหาร
หรือการเล่นเกมจัดตั้งรัฐบาลหลังฉากของพรรคประชาธิปัตย์
ซึ่ง 2 เหตุการณ์นี้น่าจะทำให้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นอีกครั้ง
อีกสำนักข่าวรอยเตอร์เผยแพร่บทความพิเศษของนายมาร์ติน เพ็ตตี้ ซึ่งวิเคราะห์การเลือกตั้งไทยว่า
หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ชนะนายอภิสิทธิ์ การรัฐประหารจะเป็นทางเลือกหนึ่ง
แม้ว่าสิ่งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นแล้ว
และจะทำให้คนเสื้อแดงออกมาชุมนุมบนท้องถนนซ้ำรอยเหตุการณ์ครั้งที่แล้ว
บทวิเคราะห์ทั้ง 2 ชิ้นเป็นมุมมองของสื่อต่างประเทศ
ในขณะที่กองทัพก็ออกมาประกาศแล้วว่าจะวางตัวเป็น กลางในการเลือกตั้งครั้งนี้
ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเด็ดขาด
ฉะนั้น ต้องรอดูผลการเลือกตั้งหลังวันที่ 3 ก.ค.นี้
เมืองไทยจะหนีพ้นวิกฤตดังที่สื่อระดับโลกห่วงใยหรือไม่ !?