ที่มา thaifreenews
โดย ปลายอ้อกอแขม
อ่านไทยรัฐออนไลน์ หน้าการเมือง คอลัมน์ Report today เมื่อ 20 กันยายน 2553 เรือง “เช็คแถวอดีตคมช_ ครบ4ปีปฏิวัติ19ก_ย_ ปัจจุบันทำอะไรกันอยู่” เพราะนักข่าวอยากรู้ว่า พวก คมช.ที่รวมหัวกันปล้นประชาธิปไตยเมื่อ 19 กันยา 49 นั้น บัดนี้ อยู่กันอย่างไร ล่วงลับดับสูญตายโหงตายกระเทียมกันไปบ้างหรือเปล่า มือหงิกตีนง่อยเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตไปแล้วกี่คน อยู่ห้อง ไอ.ซี.ยู โรงบาลใด ที่สำคัญเผาหรือฝังไว้ที่ไหนกันบ้างแล้ว ..เพราะประชาชนอย่างผมเป็นห่วงเหลือเกิน !
นักข่าวไทยรัฐจึงดั้น ด้นค้นหาตัวเหล่าบรรดากบฏยุค ปี 2549 ทั้งหมด ก็พบว่าทุกคนยังมีชีวิตอยู่กันถ้วนทั่ว ยังไม่มีใครตายหรือเป็นง่อยเปลี้ยเสียขาตามที่ประชาชนทั่วไปพากันใฝ่ฝันถึง โดยผมจะเล่าย่อๆให้ฟังพอเป็นสังเขป..ฟังนะ
ผมขอนำมาพูดเพียง 2 ท่านเท่านั้น ..เพราะสุดยอด
เริ่มจากเขาละ พล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และอดีตผู้ช่วยเลขาธิการ คมช.
ท่าน ผู้นี้ ช่วงนั้น เป็นที่ฮือฮาของบรรดาคอการเมือง มีฉายาเป็นวีระบุรุษหลายรายการ เช่น วีระบุรุษผ้าขาว วีระบุรุษนั่งบินฟรี และเป็นวีระบุรุษยอดวิศวกร (ชื่อนี้ได้ตอนที่ไปตรวจสอบสนามบินสุวรรณภูมิคู่กับ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน และบอกว่าสนามบินทรุด โดยแค่เพียง “ใช้มือกดพื้น”เท่านั้น) ยิ่งกว่านั้น ท่านผู้นี้ได้หมายมั่นปั้นมือจะเป็น ผบ.ทบ.แต่ในที่สุดก็กิน “แห้ว” ไปนั่งตบยุงอยู่ในกระทรวงกลาโหม เป็นแค่รองปลัด..แต่รับรองว่าไม่ใช่ปลัดขิก
ชีวิตของสะพรั่ง วันนี้ “ ศึกษาธรรมะ และทำกิจกรรมเกี่ยวกับการสนทนาธรรมะ ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาของ อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำให้ชีวิตมีคุณค่ายิ่งขึ้น และเป็นชีวิตที่สังคมไทยปัจจุบันต้องการ” ..หึ หึ หึ !
ในความ เห็นของผม อ้ายนี่ ซ่าส์และกร่างที่สุดในบรรดา คมช.ในตอนนั้น แถมโง่ด้วยอีกต่างหาก พยายามแสดงเพาเวอร์เพื่ออยากจะเป็น ผบ.ทบ.ให้ได้ แต่แล้วก็ไปกินแห้วกระป๋องที่สุพรรณฯบ้านผม เลยต้องหันมาเอาธรรมะเข้าข่ม..น่าเห็นใจนะ
ส่วนบุคคลในดวงใจของผม จะเป็นใครไปไม่ได้ นั่นก็คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. ..ผู้ยิ่งหย่าย !
ชีวิต หลังเกษียณของอ้ายบังน่าสนใจยิ่ง งานหลักของไอ้บัง “ขุนศึกสามแม่ครัว”ตอนนี้คือการเขียนหนังสือ และเรียนปริญญาเอกด้านสาขารัฐศาสตร์การเมือง ที่ ม.รามคำแหง ..บอกให้รู้ว่ากำลังเรียนอยู่นะ ไม่ได้ไปหาอีแม๊ะเพิ่ม
ส่วน หนังสือที่กำลังเขียนอยู่ นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิทยาทานให้กับสังคม โดยอ้างอิงจากปรัชญาด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจ เพื่อให้ผู้อ่านนำไปเป็นข้อคิดในการปฏิบัติตัว ทั้งนี้ หนังสือที่เขียน นั้น จะมีทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกิจการต่างประเทศ โดยอาศัยประสบการณ์ที่ตนไปทำงานด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ เช่น กัมพูชา ลาว พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย...เฮ้ย มันรู้เรื่องกับเขาด้วยเรอะ ?
แล้วประโยคนี้ ..ฟังไอ้บังมันพูด
“ทั้ง นี้ หนังสือของตนเองที่ได้รับความสนใจมากที่สุดโดยเฉพาะในต่างประเทศก็คือ หนังสือที่มีชื่อว่า THE TRUTH ซึ่งจะมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ 19 ก.ย. เพราะชาวตะวันตกมีความสนใจมากกว่า เพราะเหตุใดการปฏิวัติดังกล่าว จึงเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีความขัดแย้งไม่มีการต่อต้าน และแถมยังได้รับดอกไม้จากประชาชน ซึ่งตนจะได้บรรยายถึงเทคนิคและ แท็คติกต่าง ๆ ที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยตนเองจะพยายามเร่งให้หนังสือเล่มดังกล่าว เสร็จทันจำหน่ายให้ได้ภายในปีนี้ “
เริ่มต้นมันพูดว่า “หนังสือของตนเองที่ได้รับความสนใจมากที่สุดโดยเฉพาะในต่างประเทศก็คือ หนังสือที่มีชื่อว่า THE TRUTH “ แต่ประโยคสุดท้ายมันพูดว่า “โดยตนเองจะพยายามเร่งให้หนังสือเล่มดังกล่าว เสร็จทันจำหน่ายให้ได้ภายในปีนี้” ..อ้าวยังไงวะ ?
มันบอก หนังสือของมันได้รับความสนใจโดยเฉพาะในต่างประเทศ ..ผมเข้าใจว่ามันวางขายเรียบร้อยแล้ว กะจะไปอุดหนุนสักเล่มเพื่อเป็นทาน แต่ตอนท้ายมันบอกว่าหนังสือยังไม่เสร็จ กำลังเร่งเขียนอยู่ ..ตกลงว่าเอ็งบ้าหรือกูเมากันแน่ !
ที่สำคัญ อ้ายบังมันคุยว่า “ หนังสือที่มีชื่อว่า THE TRUTH ซึ่งจะมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ 19 ก.ย. เพราะชาวตะวันตกมีความสนใจมากกว่า เพราะเหตุใดการปฏิวัติดังกล่าว จึงเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีความขัดแย้งไม่มีการต่อต้าน และแถมยังได้รับดอกไม้จากประชาชน ซึ่งตนจะได้บรรยายถึงเทคนิคและ แท็คติกต่าง ๆ ที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ”..ดูมัน
มัน คงลอยหน้าลอยตาพูดกับนักข่าวด้วยความภูมิใจว่า ฝรั่งสนใจ เพราะไม่มีการต่อต้าน แถมยังมีประชาชนนำดอกไม้มาให้ ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ อ้ายบังจะแนะแท็คติกการปฎิวัติให้ นัยว่าเพื่อเป็นหลักสูตรในการปฏิวัติครั้งต่อๆ ..ว่างั้น !
ผมว่า อ้ายบังมันคงหูหนวก ตาบอด สมองพิการหรือเปล่า ที่ไม่รู้ว่าคนทั้งโลกเขาประณามพวกมันกันขนาดไหน ทั้ง อียู ทั้ง ยูเอ็นเขาประกาศจะคว่ำบาตรมัน มันคงคิดว่าเขาพากันชื่นชมโสมนัสมันอีกหรือ..พระเจ้า
อ้ายโจรห้า ร้อย แบกปืนไปปล้นบ้านเขา เจ้าทรัพย์ไม่ต่อสู้ขัดขืน ยอมให้ปล้นได้ง่ายๆ แล้วพวกขี้ข้าโจรก็เอาดอกไม้มาให้บอกว่าวันนี้ เราปล้นมันได้แล้ว ให้เอาสมบัติมาแบ่งกัน..มันบอกว่าเป็นความสำเร็จ
แถมยังบอกว่า พวกฝรั่งทึ่ง ความสามารถในการปล้นของมัน ..ฝรั่งที่ไหนวะ ?
ผมอ่านบทสัมภาษณ์ของมัน ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ได้แต่รำพึงรำพันว่า..โถ อ้ายควายเอ๊ย !!!
http://www.thairath.co.th/content/pol/112201