ที่มา Thai E-News
คุณ จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเวบไซต์ประชาไท ระหว่างถูกสอบสวนที่สภอ.เมืองขอนแก่น กลางดึกวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา เธอถูกควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิขณะเดินทางกลับจากไปประชุมเรื่องเสรี ภาพอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศ ด้วยข้อหาที่ผู้อ่านประชาไทแสดงความเห็นในท้ายข่าว ซึ่งถูกกล่าวหาว่าหมิ่นสถาบันกษัตริย์ ตำรวจให้ประกันตัวในกลางดึกวันนั้น ต่อไปนี้เป็นบทสัมภาษณ์เกี่ยวเนื่องกรณีดังกล่าว
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
30 กันยายน 2553
Q:คุณ จีรนุชช่วยเล่าเหตุการณ์วันที่ถูกควบคุมตัวที่สนามบินให้ฟังหน่อย ลำดับเหตุการณ์เป็นยังไงมั่ง ตั้งแต่ลงสนามบินมาเจออะไร ไปจนถูกควบคุมตัวขึ้นรถไปขอนแก่น(แล้วก็ทำไมเขาไม่พาขึ้นเครื่องบินไป ขอนแก่น...) และเมื่อไปถึงขอนแก่นเหตุการณ์เป็นไงมั่งช่วยเล่าให้ฟังด้วย จนถึงขั้นได้ประกันตัว
ดิฉันไปประชุมเรื่องเสรีภาพอินเตอร์ เน็ตที่ต่างประเทศ พอกลับประเทศ มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิตอนบ่ายสอง กว่าจะถึงตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ก็บ่ายสองครึ่ง เขาก็แจ้งว่ามีปัญหานิดหน่อย โดยยังไม่ได้บอกปัญหาอะไร ให้เรานั่งรอ บอกแค่ว่าอาจจะมีหมาย มีอะไรอยู่ และกำลังตรวจสอบว่าเราตรงกับคนตามการแจ้งรึเปล่า ประมาณครึ่งชั่วโมงถึงมาบอกว่าตรงกัน แล้วจึงแจ้งว่ามีหมายจับ ออกโดยศาลจังหวัดขอนแก่น
ตำรวจตม.ไม่รู้รายละเอียดคดีมากนัก เขาบอกว่าเขามีหน้าที่ที่จะคุมตัวส่งให้กับสภ.เมืองขอนแก่นเท่านั้นเอง ตอนนั้นก็ประมาณบ่ายสามโมงกว่า ทำบันทึกการจับกุมที่นั่น ถึงประมาณห้าโมงครึ่งก็ออกเดินทางไปขอนแก่น ตำรวจ ตม.ส่งครึ่งทาง ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นมารับไปต่ออีกครึ่งทาง นัดเจอกันที่ปั๊มปตท.ตรงโคราช ประมาณสามทุ่มเศษอยู่ตรงนั้น
จากนั้นก็ไปขอนแก่นด้วยรถปิ๊กอัพเหมือนเดิม นั่งตรงแค็ป ถึง สภ.เมืองขอนแก่นประมาณห้าทุ่มสิบห้า
พอ รู้ว่ามีปัญหาก็ติดต่อแจ้งทนายและทีมงานเพื่อให้ตามมาตั้งแต่ตอนอยู่ กรุงเทพฯแล้ว และให้ทนายสอบถามเรื่องการประกันตัว ตอนแรกตำรวจขอนแก่นบอกว่าคงไม่ได้ประกันคืนนี้หรอก น่าจะเป็นวันรุ่งขึ้น ซักพักหนึ่งทนายโทรบอกว่า ตำรวจโทรบอกใหม่ว่าให้ประกันคืนนี้
ก็ อยากให้ทนายไปถึงเร็วๆ เพราะทนายไปแยกอีกคัน ก็ใช้เงินสดสองแสนในการประกัน เพื่อนช่วยหยิบยืมมาให้ก่อน ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวตามสัญญาประกันตอนหนึ่งนาฬิกา แล้วก็สอบปากคำผู้ต้องหา เราให้การปฏิเสธขอให้การชั้นศาล เสร็จประมาณตีสองครึ่ง ก็กลับคืนนั้นเลย
Q:ระหว่างทางไปขอนแก่น เจ้าหน้าที่หน่วยไหนพาไป มีสอบถามหรือสนทนาอะไรบนรถ
ไม่ ได้มีลักษณะข่มขู่อะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจมีท่าทีที่ดี เนื่องจากตำรวจก็ไม่รู้รายละเอียดคดีเท่าไร่ แต่เพื่อนที่กลับมาจากต่างประเทศด้วยกัน และขอติดรถตำรวจเป็นเพื่อนก็ได้คุยกับตำรวจบ้าง เป็นบรรยากาศคุยกัน ไม่ได้อึดอัด บทสนทนาไม่ได้มีอะไรเป็นการพิเศษ
ส่วนตำรวจขอนแก่นที่มารับตัวครึ่งทางที่โคราช แทบจะไม่ได้คุยอะไรมาก ไม่ได้เป็นทีมสืบสวนด้วย เป็นตำรวจหนุ่มแค่ขับมารับ
Q:เจ้า หน้าที่แจ้งข้อหาพรบ.คอมพิวเตอร์เขาได้ตามเอาผิดคนที่postความเห็น ท้ายกระทู้ด้วยไหม หรือมีการตามไปเอาความผิดเวบมาสเตอร์ฟ้าเดียวกันด้วยไหม(เพราะลงข่าวที่เป็น ปัญหาเช่นกัน)
ตรงนี้ไม่ทราบ
Q:ปฏิกริยา ของสื่อมวลชนต่างประเทศ หรือองค์กรด้านสื่อต่างประเทศดูจะactiveในการติดตาม หรือรณรงค์ปล่อยตัวมาก แต่องค์กรสมาคมสื่อในประเทศไทย และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยดูจะเงียบเฉย น่าจะเพราะอะไร และอยากพูดอะไรถึงทั้งพวกที่รณรงค์ปล่อยตัว กับพวกที่เงียบเฉยบ้าง
โดย ส่วนตัวขออนุญาตที่จะไม่แสดงความคิดเห็นในส่วนนี้ แต่เข้าใจได้ว่าองค์กรแต่ละที่มีสิ่งที่ต้องวางน้ำหนัก ให้ความสำคัญ เรื่องต่างๆ แตกต่างกัน ก็ไม่ได้มีความเห็นอะไรพิเศษ เป็นสิทธิของแต่ละองค์กรที่จะดำเนินการอย่างไร
Q:เกี่ยวกัน ไหมว่าที่องค์กรสื่อกระแสหลัก(สมาคมนักข่าว)ที่ไม่รณรงค์เคลื่อนไหวใดๆใน กรณีคุณจีรนุชเพราะเห็นประชาไทมีจะจุดยืนนำเสนอข่าวที่ดูเห็นอกเห็นใจคน เสื้อแดง หรือต่อต้านรัฐบาล คล้ายๆกับการเงียบเฉยกรณีหนังสือRED POWERถูกปิดแท่นพิมพ์ หรือคุณจอม เพชรประดับถูกบีบออกจากวิทยุอสมท.
ถ้าจะให้ดี ไทยอีนิวส์ลองสอบถามสมาคมสื่อดูก็น่าจะได้คำตอบ
Q:มี คนตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมคดีตั้งนานเพิ่งมาจับ แล้วก็จับเสร็จพานั่งรถไป400กิโล จับวันศุกร์ซึ่งอาจยุ่งยากไม่ได้ประกัน เป็นการทำเพื่อกดขวัญคุณจีรุชหรือประชาไทหรือเปล่า
เรื่อง นี้ก็ยังหาคำอธิบายที่ชัดเจนไม่ได้เหมือนกัน ก็อยากฟังคำอธิบายอยู่ว่าทางรัฐจะอธิบายอย่างไร เช่น การไม่ได้รับรู้หมายจับล่วงหน้า ทั้งที่ผ่านมาก็เดินทางเข้าออกประเทศอยู่หลายรอบ
Q:กรณีที่เกิดขึ้นอยากบอกถึงฝ่ายต่างๆว่าไงมั่ง(รัฐบาล,สื่อ,องค์กรสิทธิมนุษยชน,ฝ่ายต่างๆที่เคลื่อนไหวทางการเมือง,ประชาชน)
( - )
Q:สื่อแบบประชาไทมีทางรอดในสังคมไทย โดยได้รับการอุดหนุนจากผู้อ่านอย่างกรณีwikileaksหรือไม่
ประชา ไทกับวิกิลีกส์อาจจะไม่ใช่ข้อเปรียบเทียบกัน เพราะวิกีไม่ได้มีกองบก.แบบประชาไท ส่วนเรื่องทางรอดก็เป็นเรื่องที่เรากำลังเรียนรู้และพยายาม คงยังตอบไม่ได้ แต่ที่เรายังทำอยู่นี้ก็เชื่อว่ายังทำได้ คงต้องลองทางต่างๆ ดู
Q:อยากพูดอะไรถึงกรณีที่โดนจับกุมตัวในคดีนี้อีก
การ ที่ตัวเองได้รับการประกันตัวในคืนนั้น โดยส่วนตัวเชื่อว่าควรเป็นสิทธิของคนโดยทั่วไป ไม่ว่าดึกแค่ไหน วัดหยุด วันนักขัตฤกษ์หรืออะไรก็ตาม ผู้ต้องหาควรได้สิทธิในการประกันตัว อยากเห็นมันเป็นสิทธิโดยทั่วไปของคนทุกคน ของคนที่ถูกจับไม่ว่าจะเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปหรือไม่
ในกรณีของตัว เอง ต้องบอกว่าวันนั้นคิดว่าที่ตัวเองได้รับการประกันตัวในวันนั้น เข้าใจว่ามาจากการที่หลายส่วนช่วยกันพยายามติดตามเรื่อง ทำให้เป็นที่รับรู้และมีการติดต่อประสานงานไปยังบุคคลต่างๆ เท่าที่รู้จัก เช่น คุณสุภิญญา กลางณรงค์ ก็ถือเป็นคนหนึ่งที่มีส่วนในการช่วยติดต่อประสานงานกับองค์กรสื่อและองค์กร ด้านสิทธิทั้งในและต่างประเทศ ก็ต้องขอบคุณ รวมทั้งขอบคุณบุคคลอื่นๆ ที่ช่วยกันโดยไม่ได้เอ่ยนาม
อีกอย่างคือ คดีแบบนี้มีปัญหาในกระบวนการดำเนินคดีอยู่หลายประการ แต่อันหนึ่งที่สำคัญคือ ใครก็ทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับใครก็ได้ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งมันสามารถกลั่นแกล้งกันได้ไม่ยาก